ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 522 กลับสู่แดนภูต
มู่เฉียนซีถามขึ้น “ท่านอาเล็ก ท่านรู้หรือ ? แต่ว่าพวกเราไม่มีวิธีที่จะเก็บวิญญาณของเขาไว้ในร่างของเขาได้นะ”
มู่อวู่ซวงกล่าว “เผ่าพันธุ์ภูตมีวิชาลับวิชาหนึ่งที่ทําได้ ส่งมาให้ข้าเถอะ”
มู่เฉียนซีไม่ได้ถามอะไรมาก นางเชื่อมั่นในตัวท่านอาของนางอย่างมาก จากนั้นมู่อวู่ซวงก็เตรียมที่จะลงมือ
ทันใดนั้นเอง เงาร่างสีดําเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมาขวางทางมู่อวู่ซวงไว้ ในตอนนี้กลิ่นอายอันบ้าคลั่งของจิ่วเยี่ยกดทับลงมาไม่น้อย
“ไม่ได้!” เขาพ่นคําสองคํานี้ออกมาอย่างเย็นชา
มู่อวู่ซวงกล่าวขึ้น “หากข้าไม่ทํา แล้วเจ้าทําได้รึ ?”
ลวดลายสีดําปรากฏขึ้นที่คอของจิ่วเยี่ย สีหน้าของเขาเริ่มหม่นคล้ำลงเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีเห็นเช่นนั้น นางก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีจึงกล่าวขึ้นว่า “ท่านอาเจ้าคะ การที่ท่านอาใช้วิชาลับนั่น มันจะส่งผลกระทบต่อท่านใช่หรือไม่ ?”
มู่อวู่ซวงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ซีเอ๋อร์อย่าได้คิดมากไปเลย เจ้าช่วยข้าล้างพิษแล้ว ตอนนี้ข้าร้ายกาจขึ้นมากทีเดียว”
อาถิงกล่าวในตอนนี้ว่า “หากยังชักช้าต่อไปเช่นนี้ วิญญาณของเขาที่กำลังแข็งแกร่ง เกรงว่าก็จะสูญสิ้นไปเสียก่อน”
มู่อวู่ซวงลงมืออย่างเฉียบขาด เขากรีดไปที่นิ้วของตัวเอง ซึ่งเวลานี้จิ่วเยี่ยก็ไม่ขัดขวางอีกต่อไป เขารู้ดีว่าถ้าไม่สามารถช่วยเชียนอ้าวเซี่ยไว้ได้ นั่นจะต้องกลายเป็นความเสียใจของซีตลอดไปอย่างแน่นอน
มู่อวู่ซวงวาดรูปออกมาแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าถอยไปให้หมด!”
พลังบางอย่างก่อตัวขึ้น ลมปราณภูตสีดําแผ่กระจายออกมา มันดึงวิญญาณของเชียนอ้าวเซี่ยกลับเข้าไปในร่างกายของเขา
“ปิดผนึก!” มู่อวู่ซวงกล่าวด้วยเสียงอันดัง
หลังจากกล่าวจบ วิญญาณของเชียนอ้าวเซี่ยก็ถูกผนึกไว้อย่างมั่นคงในร่างกายของเขา ตราบใดที่ร่างกายของเขาไม่ถูกทําลาย วิญญาณของเขาก็จะไม่สลายหายไป
คนผู้นั้นที่นอนอยู่ในโลงศพน้ำแข็งไม่ใช่เปลือกหอยที่ว่างเปล่าอีกต่อไป ใบหน้าของเขาเริ่มปรากฏเลือดฝาดในแบบของมนุษย์ที่ยังมีชีวิต ราวกับเขาเพียงแค่หลับใหลไป
เมื่อมู่เฉียนซีเห็นเชียนอ้าวเซี่ยเช่นนี้ ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่นางเพิ่งดีใจได้ไม่นาน ก็มีสายฟ้าสีม่วงตกลงมาจากฟากฟ้า ตกลงบนร่างของมู่อวู่ซวงโดยไม่ทันตั้งตัว
— ตูม! —
ผมยาวสีม่วงเงินปลิวไปตามลม มู่อวู่ซวงเคลิบเคลิ้มอยู่ในแสงสายฟ้าสีม่วงนั้น
ใบหน้าของมู่เฉียนซีซีดเผือดทันที นางตะโกนเสียงดังว่า “ท่านอา ไหนท่านบอกว่าจะไม่เป็นอะไร ไม่ใช่รึ…?”
มู่อวู่ซวงยิ้มอย่างอ่อนโยน “ซีเอ๋อร์วางใจได้ สายฟ้าเพียงแค่นี้ทําอะไรข้าไม่ได้ ข้าไม่มีทางได้รับบาดเจ็บ แต่… แต่ข้าจะต้องจากเจ้าไปแล้ว”
บนท้องฟ้ามีสายฟ้าที่น่ากลัวกําลังก่อตัวขึ้น เมื่อครู่เป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องให้มู่อวู่ซวงเท่านั้น แน่นอนว่าไม่สามารถทําร้ายมู่อวู่ซวงได้ในตอนนี้
มู่เฉียนซีตกตะลึง จ้องมองมู่อวู่ซวงอย่างเอาเป็นเอาตาย ญาติเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างนางกําลังจะจากไป
มู่อวู่ซวงกล่าวออกมา “พลังของข้าถูกปลดผนึกแล้ว หากข้าควบคุมเอาไว้ ก็ยังสามารถอยู่ที่นี่กับเจ้าได้ แต่ด้วยวิชาลับเมื่อครู่นี้ มันไม่ได้รับการอนุญาตจากกฎแห่งสวรรค์และปฐพี ตอนนี้ข้ามีเพียงสองทางเลือก หนึ่งคือจากไป สองคือถูกกฎแห่งสวรรค์และปฐพีลบล้าง… ซีเออร์ ข้าทนไม่ได้ที่จะถูกลบล้างด้วยกฎแห่งสวรรค์และปฐพี เช่นนั้นจึงจะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้อีกตลอดไป ข้าต้องกลับไปยังแดนภูต”
สายตาของมู่อวู่ซวงมองหลานสาวอย่างเด็ดเดี่ยว
การตัดสินใจเช่นนี้ เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจ ทว่าตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เขาจำเป็นต้องช่วยเชียนอ้าวเซี่ยจริง ๆ มิเช่นนั้นคงทำให้ซีเอ๋อร์หลานรักมีบาดแผลในใจที่รักษาไม่หาย หากว่าเขาต้องจากไปเพื่อแลกกับบาดแผลนี้ เขายินดีอย่างมาก
“ท่านอา ท่านโกหกข้า!” มู่เฉียนซีตะโกน “ท่านสัญญากับข้าไว้แล้วแท้ ๆ ว่าเมื่อท่านลุกขึ้นยืนได้ ท่านก็จะควบคุมตระกูลมู่และปล่อยให้ข้าเป็นบรรพบุรุษรุ่นที่สองที่ใช้ชีวิตอย่างสบายได้ แต่ตอนนี้ท่านกําลังจะจากไปแล้ว ข้า…”
ดวงตาของมู่เฉียนซีแดงก่ำ ในดวงตาของนางมีน้ำตาคลอหน่วย
ความอบอุ่นนี้ นางยังไม่ทันได้เสพสุขกับมันได้นานนัก ก็ต้องพ้นไปแล้วหรือ ?
ทั้ง ๆ ที่ขาของท่านอาเล็กหายดีแล้ว พวกเขาสองอาหลานก็ควรมีชีวิตที่ดีขึ้นต่อจากนี้ ใครเลยจะคิดว่าท่านอาจะต้องจากไป
มู่อวู่ซวงยิ้มอ่อนโยน เขาปลอบมู่เฉียนซี “ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าเศร้าไปเลย ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เจอข้าอีกตลอดไปเสียเมื่อไหร่ …รอจนข้าควบคุมแดนภูตได้ก่อน ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะเป็นบรรพบุรุษรุ่นที่สองของทั้งแดนภูตด้วย แดนภูตใหญ่กว่าตระกูลมู่มากนะ”
“ข้าไม่สนว่าแดนภูตหรือตระกูลมู่จะใหญ่เท่าไหน ข้าไม่อยากให้ท่านอาเล็กไป” มู่เฉียนซีพุ่งไปข้างหน้าและคว้ามู่อวู่ซวงไว้
มู่อวู่ซวงรู้สึกกังวลอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “ซีเอ๋อร์ เจ้าอยู่ให้ห่างจากข้าหน่อย อีกไม่นานสายฟ้าก็จะมาแล้ว”
แต่มู่เฉียนซีกลับไม่ปล่อยมือ “ท่านอาเล็ก ท่านบอกว่ารอให้ข้าอยู่จุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิ แล้วท่านจะบอกทุกอย่างกับข้า แต่ท่านจากไปเช่นนี้แล้วข้าควรไปหาใครเล่า ?”
“ท่านอา ท่านที่รักและเอ็นดูข้ามาตลอดกลับมาโกหกกัน ถ้าข้ารู้ข้าก็จะไม่รักษาท่านเลย!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างโกรธเคือง เมื่อก่อนนางไม่มีญาติ มาในโลกนี้นางจึงให้ความสําคัญกับคนที่รักคนนี้เป็นพิเศษและไม่อยากเสียไป
แม้จะรู้ว่าอย่างไรก็ต้องได้เจอกันอีก แต่นางก็ยังคงทำใจไม่ได้
มู่อวู่ซวงกล่าวเสียงแผ่วเบา “ซีเอ๋อร์ ทุกอย่างที่เจ้าควรรู้ เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง เมื่อเจ้าออกจากทวีปเซี่ยโจวและออกจากแดนใต้ไป บางทีเจ้าอาจจะได้พบพี่รอง พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ และพี่ใหญ่ของเจ้าได้ …ซีเอ๋อร์ พวกเขารักเจ้ามาก พวกเขาล้วนเป็นญาติสนิทของเจ้า ในโลกนี้เจ้าไม่ได้มีข้าเพียงคนเดียว แม้ว่าวันนี้จะไม่ช่วยเชียนอ้าวเซี่ย ข้าก็ไม่สามารถอยู่ในทวีปเซี่ยโจวได้นาน ข้าจำเป็นต้องกลับไปที่แดนภูตเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จะได้สามารถทำให้คนเหล่านั้นไม่มารังแกเจ้า และเพื่อทำให้ครอบครัวของเราได้อยู่ด้วยกัน”
เพียงแต่ตอนนี้มันกะทันหันเกินไป เขาไม่สามารถปลอบโยนซีเอ๋อร์หลานรักได้เลย
มู่อวู่ซวงมองมู่เฉียนซีที่ดูทำใจไม่ได้เช่นนั้น ในใจก็รู้สึกราวกับว่าถูกมีดพันเล่มตัดเป็นชิ้น ๆ เขาไม่อยากให้ซีเอ๋อร์เสียใจ ทว่าตอนนี้เขากลับทําให้นางเศร้าเสียใจเสียเอง
เมื่อได้ฟังคำกล่าวของมู่อวู่ซวง มู่เฉียนซีก็สงบลง “แดนภูตรึ ? สถานที่ที่ท่านอาเล็กจะไปคือแดนภูตรึ ?”
“อืม”
“ครอบครัวของพวกเรา อยู่ด้วยกันรึ ?”
“ใช่ ครอบครัวของเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน” มู่อวู่ซวงกล่าวอย่างแน่วแน่
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็พยักหน้า “ท่านอาเล็ก ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านต้องระวังตัวให้มาก และข้าเองก็จะสู้!”
— ตูม! —
ในตอนนั้นเอง สายฟ้าก็ตกลงมา
มู่อวู่ซวงรีบผลักมู่เฉียนซีออกไป แต่ความเร็วของคนคนหนึ่งกลับเร็วกว่ามู่อวู่ซวงเสียอีก
จิ่วเยี่ยอุ้มมู่เฉียนซีไว้ในอ้อมแขนของเขา เพื่อให้ห่างจากสายฟ้าผ่าที่อันตรายนั่น
ท่ามกลางสายฟ้าสีม่วง ควันสีดําพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และเส้นทางของแดนภูตก็เปิดออก
มู่อวู่ซวงมองมู่เฉียนซีอย่างทำใจไม่ได้ เขากล่าวขึ้นว่า “ซีเอ๋อร์… วันนั้นคงไม่นานหรอก เจ้าต้องระวังความปลอดภัยของตัวเจ้าเองให้ดี”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “ท่านอาเล็ก ท่านวางใจได้เลยเจ้าค่ะ”
เงาร่างของมู่อวู่ซวงค่อย ๆ หายไป สายตาที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเขานั้น ทําให้มู่เฉียนซีรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ
— ตูม! —
สายฟ้าตกลงมาและฝุ่นรอบ ๆ ก็ปลิวฟุ้ง
มู่เฉียนซีก้มหน้าลงกอดอ้อมแขนของจิ่วเยี่ยไว้แน่น จิ่วเยี่ยชะงักไปเล็กน้อย…
ซีนาง… นางกลับ…