ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 532 ราชาแห่งภูตผู้วิปริต
มู่เฉียนซีพยักหน้าและกล่าวว่า “แน่นอน ข้าพร้อมแล้ว หลายวันที่ผ่านมานี้รับมือแต่กับสัตว์ทะเล ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก”
“แต่พวกมันล้วนแต่เป็นคนที่โหดร้ายทารุณเป็นอย่างยิ่ง! สาวน้อยไม่กลัวรึ?” จื่อโยวกล่าวถาม
“แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวงั้นรึ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว
เมื่อก่อนเป็นหมอปีศาจ อยู่ในโลกที่มืดมิด คนโหดร้ายทารุณเป็นเช่นไรก็ไม่เคยเจอมาก่อน
ถึงแม้ว่าคนบนโลกนี้จะมีพลังชีวิตและพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่นางก็มีไม้ตายอย่างเสี่ยวหงและอู๋ตี้อยู่!
จื่อโยวคิดในใจว่า สตรีที่ฝ่าบาทของพวกเขาโปรดปรานนั้น ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีไม่อยากจะสนใจจื่อโยว นางหันมองจิ่วเยี่ยและกล่าวขึ้นว่า “ตราบใดที่ยังไม่เผชิญหน้ากับพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิ จิ่วเยี่ย เจ้าห้ามลงมือเป็นอันขาด”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
เมื่อมีเรือแปลกลำหนึ่งเข้าใกล้เขตเกาะวิญญาณมรณะ ไฉนเลยจะหลุดพ้นการรับรู้ของเหล่าหมาป่าผู้หิวโหยได้
มีคนได้กลิ่นอายของคนแปลกหน้าที่กำลังใกล้เข้ามา จิ่วเยี่ยกับจื่อโยวตอนนี้ได้อันตรธานหายไปต่อหน้ามู่เฉียนซีแล้ว หากพวกเขาไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเอง เกรงว่าจะมีน้อยคนนักที่จะค้นพบพวกเขา
เรือมิได้แล่นอ้อมไปแต่อย่างใด และแล่นต่อไปตามเส้นทางการเดินเรือที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรก
พลังจิตของมู่เฉียนซีนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก นางรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ใกล้เข้ามาแล้ว และนางก็นั่งอยู่บนแคร่บนดาดฟ้าอย่างสงบ
“นายท่าน ให้!” อู๋ตี้ได้ยื่นผลไม้นานาชนิดให้กับมู่เฉียนซี มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่เอาใจใส่เป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ!
ในทันใดนั้นเอง ร่างหลายร่างก็ได้ตกลงมายังเรือของมู่เฉียนซี พวกเขามองดูสาวน้อยที่นั่งอยู่อย่างสงบด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ชุดสีม่วงยาวทอดยาวลงมาจากขอบแคร่ เส้นผมสามพันเส้นนั้นถูกม้วนขึ้นและปักด้วยปิ่น ใบหน้างดงามประณีตอย่างไร้ที่เปรียบนั้น ต่อให้เป็นปีศาจมหาสมุทรก็มิอาจเทียบเทียมนางได้
ในระหว่างที่กำลังจะลงมือ กลิ่นอายที่สูงส่งของผู้ที่สูงกว่าทำให้พวกเขามิอาจละสายตาไปได้ บนเรือทั้งลำ นอกจากคนขับเรือแล้ว ก็มีเพียงแต่สาวน้อยผู้นั้นเพียงผู้เดียว
นี่มัน……
มันผิดปกติยิ่งนัก!
พวกเขาต่างหันมองหน้ากัน นี่มันช่างแปลกประหลาดเกินไปแล้ว
ไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาในทะเลอันไร้ขอบเขตนี้เพียงลำพังเด็ดขาด หรือแม้แต่เกาะวิญญาณมรณะ นี่มันแปลกเกินไปแล้ว
“พี่ใหญ่ นี่มันหลอกลวงเราหรือไม่?” หนึ่งในกลุ่มคนผู้นั้นกล่าวถามขึ้นเสียงขรึม
มู่เฉียนซีค่อย ๆ ลุกขึ้นและหันไปทางพวกเขา นางกล่าว “พวกท่านมาโดยไม่ได้รับเชิญ ไม่รู้ว่ามาทำสิ่งใด?”
“สาวน้อย นี่เจ้าไม่รู้รึว่าที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของใคร?” ผู้เป็นหัวหน้ากล่าวด้วยสายตาที่ดุร้าย
“ข้าสนเพียงแค่ว่า ข้ารีบเดินทาง ไม่ได้สนว่าเป็นอาณาเขตของใคร”
“สาวน้อย เจ้าไม่มีสิทธิ์มาทำตัวอวดดีที่นี่ เพราะที่นี่คือโลกแห่งความตาย”
“ลองดูสักหน่อยไหมแม่สาวน้อย!”
ไม่สนว่านางจะหลอกลวงหรือไม่ ลงมือก่อนแล้วค่อยว่ากัน
มู่เฉียนซีก็ใคร่อยากจะรู้นักว่าคนพวกนี้จะมีความแข็งแกร่งสักแค่ไหนกัน และผลสุดท้าย……
ผู้คนที่อยู่ในบริเวณรอบเกาะวิญญาณมรณะนี้ ก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับต่ำเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา มู่เฉียนซีก็ยกมือขึ้นด้วยกระบวนท่า “โล่วิญญาณวารี!”
ตูม!
พวกเขาแต่ละคนต่างถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าของมู่เฉียนซียังคงนิ่งสงบอยู่เฉกเช่นเดิม และผลที่ตามมาก็คือ คนเหล่านี้ทำท่าทางราวกับเห็นผีก็มิปาน
“บ้าไปแล้ว! ราชาแห่งภูตระดับหกกล้าย่างกรายเข้ามาที่นี่ สาวน้อยผู้นี้ผิดปกติไปแล้ว!”
“ผิดปกติหน่ะสิ! พลังวิญญาณขั้นราชาแต่กลับขัดขวางการโจมตีของข้าได้ไม่ผิดปกติได้ยังไงเล่า?”
“……”
มู่เฉียนซีทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจำต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น “สาวน้อย ตกลงเจ้ามาได้ยังไง?”
“ข้าก็แค่ผ่านทางมา!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว
“ผ่านทาง ก็ไม่มีทางที่จะเลือกเส้นทางสายนี้ อีกอย่างเจ้ามีพลังวิญญาณเพียงแค่ขั้นราชา”
ทะเลอันไร้ขอบเขตเช่นนี้ หากมิใช่พลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิ นั่นเท่ากับเป็นการรนหาที่ตาย!
“พี่ใหญ่ แค่ราชาแห่งภูตระดับหกคนเดียว ไม่จำเป็นต้องพูดจาไร้สาระกับนางมากหรอก จับตัวไปก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”
“ใช่! สาวน้อยผู้นี้หน้าตางดงามยิ่งนัก พวกเราไม่ได้เจอสาวงามมานานมากแล้วนะ!”
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ!
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะแปลกประหลาด แต่ความแข็งแกร่งระดับต่ำของนางนั้น ทำให้พวกเขากล้าบ้าบิ่นขึ้นมา ชั่วครู่หนึ่ง ร่างหลายร่างก็ได้ล้อมรอบมู่เฉียนซีไว้
ทันทีที่นิ้วของมู่เฉียนซีขยับ เข็มยานับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมา
“อาวุธลับ!” สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปมาก รีบตอบโต้ในทันที ชั่วขณะหนึ่งก็เกิดการจลาจลขึ้น มู่เฉียนซีพรวดไปยืนบนพื้นผิวน้ำ
“หากจะสู้ ก็มาสู้กันตรงนี้เถอะ! หากพวกเจ้าทำเรือข้าพัง ต่อให้เอาพวกเจ้าไปขายก็มิอาจชดเชยให้ข้าได้!”
เรือที่ผู้นำตระกูลมู่จะเอามาออกทะเลนั้น ต้องใช้ช่างฝีมือดีที่สุดของเซี่ยโจว ต้องใช้วัสดุที่แพงที่สุดและดีที่สุดเพื่อสร้างมันขึ้นมา อีกทั้งยังวางยาพิษเอาไว้มากมายหลายชนิด ระดับความล้ำค่านั้นยากเกินจะจินตนาการมาก
สีหน้าของพวกเขาดำคล้ำด้วยความโกรธ สาวน้อยผู้นี้มาจากตระกูลใดกันถึงได้ดูถูกผู้คนได้ถึงเพียงนี้
“เหอะ เหอะ เหอะ! แม่สาวน้อย รอให้เจ้าตกอยู่ในกำมือของพวกข้าก่อนเถอะ เรือลำนี้ก็ต้องเป็นข้าพวกข้าอยู่ดี พวกข้าไม่ทำมันพังแน่นอน!” ทันใดนั้นพวกเขาก็กระโจนออกมาจากเรือและเหยียบอยู่บนพื้นผิวทะเล
มู่เฉียนซีชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา พวกกลุ่มเดนมรณะเหล่านี้เห็นเข้าต่างก็พากันหัวเราะเยาะ
“เจ้าบอกว่าเรือของเจ้านั้นมีราคามากนัก แต่กระบี่ของเจ้า ดูไปแล้วก็ไม่เท่าไหร่นะ ? ”
“กระบี่เขรอะสนิมเช่นนี้ ต่อให้เอาให้คนอื่นฟรี ๆ ก็เกรงว่าจะไม่มีใครเอา!”
ดูเหมือนว่ากระบี่มังกรเพลิงจะโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว ปลายกระบี่อันแดงฉานนั้นส่องประกายระยิบระยับ มู่เฉียนซีตะโกนอย่างดุดันว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”
มังกรเพลิงสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากบนพื้นผิวน้ำ ความหนาวเหน็บของน้ำทะเลมิได้ทำให้พลังแห่งการทำลายล้างนั้นลดน้อยลงเลย!
การโจมตีนี้ พลังวิญญาณต่ำกว่าขั้นราชามิอาจต้านทานได้ และพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิระดับต่ำ ก็ต้องทรมานไม่น้อยเลย
“หลบ!”
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีแรกนั้นได้ผล เข็มยาของมู่เฉียนซีก็ลอบโจมตีอีกครั้ง ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสให้พวกเขาหายใจเลย
ในตอนนี้พวกเขามิกล้ามองว่าสาวน้อยผู้โหดร้ายผู้นี้เป็นเพียงคู่ต่อสู้ระดับราชาแห่งภูตธรรมดา แต่มองว่านางเป็นคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน
“ทักษะตี้ซวน!”
ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นบนพื้นผิวน้ำ และหยดน้ำนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรุนแรง พวกเขาหลบด้วยความหวาดเสียวและถึงกับต้องเช็ดเหงื่อเย็นกันเลยทีเดียว กระบวนท่านี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
พลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิระดับต่ำ หากโดนกระบวนท่านี้แล้วมีหวังต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ราชาแห่งภูตระดับหกผู้วิปริตนี้มาจากแห่งหนใดกันแน่!
“อย่าได้ตระหนกไป พวกเรามีคนเยอะกว่า ระดับพลังวิญญาณก็สูงกว่า ข้าไม่เชื่อเป็นอันขาดว่าพวกเราจะจัดการกับเจ้าเด็กน้อยผู้นี้ไม่ได้!” เป็นพี่ใหญ่จักต้องทำตัวให้สงบ
“พี่ใหญ่ พวกเราเข้าใจแล้ว!”
พวกเขาต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อต่อสู้กับมู่เฉียนซี แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วมาก เร็วยิ่งกว่ามัจฉาที่ว่ายวนในมหาสมุทรเสียอีก
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะสูงกว่า แต่หากโจมตีไม่โดนคู่ต่อสู้ แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด!
ปัง ปัง ปัง! พวกเขาไล่โจมตีมู่เฉียนซีอย่างสุดชีวิต แต่นางหลบหลีกได้ทุกครั้ง
“มังกรวารีพิฆาต!”
“ทักษะเทียนซวน!”
ตูม!
ในขณะที่กำลังต่อสู้กับคนกลุ่มนี้อยู่ มู่เฉียนซีก็รับรู้ได้ว่าพลังของตนเองนั้นแข็งแกร่งขึ้น พลังวิญญาณราชาแห่งภูตระดับหกได้เติมเต็มแล้ว และกำลังจะทะลวง!
ฉวยโอกาสในการต่อสู้ครั้งนี้ทะลวงพลังวิญญาณระดับเจ็ดก็ดี
“พลังวิญญาณของนางใช้ไม่มีวันหมดรึยังไง? เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นแค่ราชาแห่งภูตระดับหก!”