ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 659 ชัยชนะอันน่าหวาดผวา
มู่เฉียนซีหลบการโจมตีของเขา แต่ลมปะทะที่รุนแรงกลับตัดเข้าที่ผมตรงคอของนาง
“อันตรายมาก!” ฉูห้าวตบที่หัวใจพลางกล่าวขึ้น
“ยอดฝีมืออันดับหนึ่งนั้นช่างแตกต่างจริง ๆ” มู่เฉียนซีถอนหายใจ
ตอนนี้เส้นประสาททุกเส้นของนางสั่นสะท้าน กระบี่มังกรเพลิงถูกปล่อยออกมา และมู่เฉียนซีก็เตรียมพร้อมต่อสู้อย่างสุดกําลัง
จุดสูงสุดของจักรพรรดิแห่งภูตระดับห้า ไม่! นั่นมันจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก!
คมดาบมีพลังวิญญาณอันแหลมคมพุ่งเข้าใส่ทุกทิศทาง
— ฉึก! —
หากว่ามู่เฉียนซีตอบสนองและหลบหลีกได้ไม่เร็วพอ ตอนนี้สิ่งที่ถูกกรีดคงไม่ใช่เสื้อผ้าแต่เป็นผิวหนังของนาง
ฉูห้าวเป็นกังวลอย่างหนัก ตอนนี้พลังของพวกเขาแตกต่างกันมาก เขาตะโกนในใจว่า ‘วิ่ง! พี่ใหญ่มู่ พวกเรารีบหนีกันดีกว่า’
หานฉู่กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าไม่ต้องดิ้นรนไปให้ไร้ประโยชน์แล้ว หนีรึ! เจ้าจะหนีไปได้ถึงเมื่อไหร่กันเชียว”
“มังกรเพลิงสังหาร!”
มู่เฉียนซีไม่ได้คิดที่จะหนีต่อไป มังกรสีแดงเข้มพุ่งออกมา
— ปัง! —
แต่ทันใดนั้น ปราณดาบก็ตัดมังกรเพลิงออกเป็นสองท่อน ทำให้มู่เฉียนซีต้องรีบกระโดดขึ้นไปในอากาศ ตอนนี้ต้องใช้ทักษะเทียนซวนเข้าช่วยแล้ว
“ทักษะเทียนซวน!”
— บึ้ม! —
หานฉู่หลบการโจมตีนี้ทันที การโจมตี้นี้เพียงทําให้ชายเสื้อของเขาขยับเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ได้ทําให้เขาได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
“ไร้ประโยชน์!” หานฉู่แค่นเสียงอย่างดูถูก
— ปัง! ปัง! ปัง! —
ยังคงประมือกันอย่างต่อเนื่อง แต่มู่เฉียนซีนั้นกลับเสียเปรียบโดยสิ้นเชิง
นอกจากความเร็วที่หานฉู่ไล่ตามมู่เฉียนซีไม่ทันแล้ว ความแข็งแกร่งอื่น ๆ เขาถือว่าแข็งแกร่งกว่ามู่เฉียนซีมาก
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เข็มยาของนางยังคงไม่สามารถสัมผัสหานฉู่ได้
เมื่อเห็นว่าท้องนภาเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ เวลาสิ้นสุดการทดสอบก็ใกล้มาถึงแล้ว หานฉู่เองก็หมดความอดทนแล้วเช่นกัน
“มู่เฉียนซี ถึงเวลาแล้ว”
“วายุพิฆาต!”
ความเร็วราวกับสายฟ้าฟาดนั้นไม่ใช่สิ่งที่มู่เฉียนซีจะสามารถหลบได้ นางเอ่ยขึ้น “กระบี่มังกรเพลิง คราวนี้ก็ต้องมาดูที่เจ้าแล้ว”
ในเมื่อหลบไม่ได้ ก็เหลือแต่สู้อย่างถึงที่สุด
“มังกรเพลิงสังหาร!” มังกรเพลิงสีแดงเข้มพุ่งออกไปปิดกั้นคมดาบสีขาวนั่นเอาไว้
— ปัง! —
การโจมตีมังกรเพลิงสังหารในครั้งนี้ใช้พลังวิญญาณทั้งหมดของกระบี่มังกรเพลิงจนหมดสิ้นแล้ว
มู่เฉียนซีฝืนต้านการโจมตีของหานฉู่และถอยหลังไปหลายสิบก้าว
— แกร๊ก! —
แต่เพราะเหตุนี้เอง มู่เฉียนซีก็ต้องได้ยินเสียงที่ไม่อยากจะได้ยิน …กระบี่มังกรเพลิงหักอีกแล้ว!
นี่เป็นตัวกระบี่ที่อารองหลอมให้นาง แต่เวลานี้นางรู้สึกถึงความหมดหนทางของกระบี่มังกรเพลิง หากพลังเกินขีดจํากัด ตัวกระบี่เองก็ทนไม่ไหว
กระบี่ที่อารองหลอมให้นางอย่างพิถีพิถันหักไปเสียแล้ว ในใจมู่เฉียนซีเดือดดาลมาก
หานฉู่รีบถากถาง “มู่เฉียนซี กระบี่ของเจ้าหักแล้ว กระจอกนัก! คราวนี้เจ้าก็ยิ่งทําอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”
มู่เฉียนซีเดินไปข้างหน้า “ใครบอกว่าข้าทําอะไรไม่ได้ หานฉู่ เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้หรอก!”
ทันใดนั้นพลังวิญญาณของเขาจงเสียก็ก่อตัวเป็นวังวนไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่เฉียนซี
ในชั่วพริบตา มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าในที่สุดนางเองก็สามารถทะลวงผ่านอุปสรรคที่ไม่อาจทะลวงผ่านได้แล้ว …จักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง!
อาจารย์ใหญ่ฉู่และคนอื่น ๆ ที่ตีนเขาต่างตะลึงงัน คลื่นพลังวิญญาณนี้… แสดงว่ามีคนเพิ่งทะลวงผ่านระดับไปได้อย่างนั้นรึ ?
“การทะลวงผ่านระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตยังไม่เกิดปรากฏการณ์ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งขนาดนี้เลย หรือว่าสำนักส่วนนอกของพวกเจ้าจะมีปีศาจ” อาจารย์ใหญ่ของสำนักส่วนในกล่าวอย่างอึ้ง ๆ
อาจารย์ใหญ่ฉู่ “ในสํานักศึกษาของเราไม่มีทางมีผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้แน่ ต่อให้เป็นศิษย์สำนักส่วนในก็ไม่มีไม่ใช่หรือ ?”
“หรือว่าจะไม่ใช่ศิษย์มู่เฉียนซีนั่น ?”
“ก็จริง ไม่มีทางที่จะเป็นศิษย์มู่เฉียนซีไปได้”
นางเป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง ต่อให้นางทะลวงผ่านก็เลื่อนไปเป็นเพียงระดับสองเท่านั้น แต่ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวนี้ช่างไม่เหมือนเลย
…
หานฉู่ “เหอะ ๆ มู่เฉียนซี เจ้าก็แค่ทะลวงผ่านหนึ่งระดับเท่านั้น เพียงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง ข้าไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน”
มู่เฉียนซี “ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้มีเพียงพอแล้ว”
หลังจากทะลวงผ่านระดับมาได้มู่เฉียนซีก็รวดเร็วขึ้น หานฉู่รู้สึกได้ว่าจู่ ๆ ลมวูบใหญ่ก็พัดเข้ามาใกล้เขา เมื่อได้สติกลับมาก็พบว่ามู่เฉียนซีลงมือแล้ว
เร็วนัก!
เดิมทีความเร็วของนางนั้นก็ไม่ธรรมดา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าการทะลวงผ่านระดับจะทำให้นางรวดเร็วขึ้นถึงสองเท่า
“ทักษะเทียนซวน!”
เมื่อเข้ามาใกล้เขา มู่เฉียนซีก็ใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของนาง
— บึ้ม! —
หานฉู่ถูกซัดกระเด็นออกไป เขาตกใจรีบกล่าว “เป็นไปได้ยังไง ?”
มู่เฉียนซียิ้มเยือกเย็น “การทะลวงผ่านระดับพลังวิญญาณ ทำให้ในที่สุดข้าก็มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะสนับสนุนพลังของทักษะเทียนซวน”
ทักษะเทียนซวนสามารถต่อกรกับจักพรรดิแห่งภูตระดับหกได้ แต่น่าเสียดายที่จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งของมู่เฉียนซีในตอนนั้นอ่อนแอเกินไปจึงทําให้ความแข็งแกร่งของกระบวนท่าลดลงอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
หานฉู่เพิ่งทะลวงผ่านระดับหกได้ไม่นาน ตอนนี้เขาทําอะไรมู่เฉียนซีไม่ได้
“ข้าจะไม่แพ้เจ้า” หานฉู่ไม่พอใจ รีบลงมือกับมู่เฉียนซีอีกครั้ง
— ปัง! ปัง! ปัง! —
ทุกครั้งที่พุ่งเข้าไปต่อสู้ หานฉู่มักจะถูกมู่เฉียนซีซัดจนกระเด็นลอยออกไป
มันยากที่จะเชื่อว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าก้าวข้ามไปเพียงแค่หนึ่งระดับ แต่ความแข็งแกร่งราวกับพุ่งกระฉูด
“พรวด!” หานฉู่กระอักเลือดคําโตออกมา สถานการณ์ในตอนนี้เลวร้ายมากจริง ๆ
เมื่อเขาแพ้แล้ว คะแนนทั้งหมดที่เขาได้รับจะตกเป็นของมู่เฉียนซี ที่ย่ำแย่กว่านั้นเขาจะต้องตกรอบไปในทันที!
ไม่! เขาจะไม่ปล่อยให้มู่เฉียนซีได้คะแนนของเขาเป็นอันขาด แม้การหลบหนีจะน่าอับอายแต่เขาก็ไม่อยากละทิ้งโอกาสในการเข้าไปศึกษายังสำนักส่วนใน
หานฉู่เตรียมเดินไปทางตรงกันข้ามกับมู่เฉียนซีและไปจากที่นี่ แต่ความเร็วของเขานั้นจัดได้ว่าช้าไปกว่ามู่เฉียนซีหนึ่งก้าว
“มันสายเกินไปแล้วที่จะหลบหนี ข้าไม่ปล่อยให้เหยื่อหนีไปได้เป็นอันขาด!”
“สหายมู่เฉียนซี พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน เจ้าอย่ารังแกกันเกินไปนักเลย” หานฉู่พ่นลมออกจากจมูก
“รังแกกันเกินไป! เจ้าเอาอะไรมาพูด นี่ข้าใช้ให้เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่รึ ?” มู่เฉียนซีหยอกล้อ
“ดูเหมือนว่า… ข้าคงจะไม่มีทางดีกับเจ้าได้แล้ว” หานฉู่ถอนหายใจ ดวงตาของเขาฉายแววเย็นชาก่อนจะลงมือกับมู่เฉียนซีอย่างฉับพลัน
— ฟึ่บ! —
แต่มู่เฉียนซีไม่ใช่หอยทาก ฝีเท้าของนางก้าวไปก่อนเขาแล้วและส่งเข็มยาเข้าไปในแขนของเขาตรงเป้า
— ปัง! —
ต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังมู่เฉียนซีล้มลง ทันใดนั้นหานฉู่ก็ล้มลงกับพื้น
“เจ้าวางยาพิษข้า!” เขามองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้น
“เจ้าลอบโจมตี ข้าย่อมต้องวางยาพิษเจ้า น่าเสียดายที่ความแม่นยําในการลอบโจมตีของเจ้ายังไม่เพียงพอ แต่การวางยาพิษของข้านั้นแม่นยำเสมอ เสียใจด้วยหานฉู่ เจ้าแพ้แล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเรียบ
มู่เฉียนซีได้รับลูกซวนจูจากร่างของเขา หานฉู่เห็นมู่เฉียนซีบีบลูกซวนจูจนแหลกละเอียดกับตา คะแนนที่เขาสะสมไว้นั้นสลายหายไปในทันที
“นะ… นี่ คะแนนของมู่เฉียนซีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง สวรรค์โปรด!”
“ตอนนี้คะแนนนางเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย”
“คะแนนทิ้งห่างอันดับที่สองมากขนาดนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ”
มู่เฉียนซีมองฉูห้าวที่ยืนโง่งมอยู่ด้านข้างก่อนจะกล่าวว่า “พวกเราลงจากเขากันได้แล้ว การทดสอบการรับสมัครศิษย์สำนักส่วนในในครั้งนี้ไม่ทําให้ข้าผิดหวังแม้แต่น้อย”
ฉูห้าวพยักหน้าแข็งทื่อของเขาพลางกล่าว “ได้! ลงเขา!”
นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เขาพบมาตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้
มู่เฉียนซีลงจากภูเขาก่อนที่การทดสอบจะสิ้นสุดลง และไม่นานคะแนนของสิบอันดับแรกก็ปรากฏออกมา แต่ที่น่าแปลกใจคือมีเพียงไม่กี่คนในห้องเรียนระดับสูงที่ติดสิบอันดับแรก และในสิบอันดับแรกก็มีเพียงไม่กี่คนที่โชคดี ไม่ได้ไปยั่วยุมู่เฉียนซี ส่วนคนอื่น ๆ นั้นพ่ายแพ้ไปอย่างน่าสังเวชใจ
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ฉูห้าว ผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับปานกลางแต่ก็ติดเข้าไปในสิบอันดับแรกกับคนอื่นเขาด้วย
อาจารย์ใหญ่กล่าวว่า “สิบอันดับแรกมีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่สำนักส่วนใน วันนี้พวกเจ้าเก็บข้าวของไว้ลานสำนักส่วนนอก พรุ่งนี้รอให้ผู้อาวุโสสำนักส่วนในพาไป”
“ขอรับ!”
ขณะที่มู่เฉียนซีผ่านการทดสอบ อาจารย์ท่านหนึ่งก็รีบวิ่งไปที่ลานประลองภายในเพื่อรายงาน
“ผู้อาวุโสใหญ่ ข่าวใหญ่ขอรับ! ข่าวใหญ่!”