ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 676 คว้าอันดับหนึ่งได้
ไม่ตกรอบ เป็นไปได้ยังไง!
ทุกคนล้วนแต่ไม่เชื่อ
ในตอนนี้เอง แสงสีขาวสามพันกว่าแสงได้รวมตัวกันบนท้องฟ้าและได้ก่อตัวเป็นม่านแสง
ไม่นานนักรายชื่อการจัดอันดับก็ปรากฏขึ้น เมื่อม่านแสงนั้นหยุดกะพริบ ทุกคนต่างก็หันไปมองที่อันดับหนึ่ง และดวงตาก็แทบจะถลนออกมา
อาจารย์ใหญ่หวงฝู่กล่าว “อันดับหนึ่ง มู่เฉียนซีแห่งสำนักศึกษาซวนเสียจากเสียโจว”
“มู่เฉียนซี! เหตุใดถึงเป็นมู่เฉียนซีจากสำนักศึกษาซวนเสียไปได้”
“นาง…เป็นนางจริง ๆ ด้วย…”
ผลลัพธ์นี้ทุกคนยากที่จะเชื่อได้!
อวี้เหลียนชิงจ้องมองไปที่อันดับหนึ่งที่อยู่ตรงหน้านั้น อันดับหนึ่งไม่ใช่ตนเอง แต่กลับเป็นมู่เฉียนซี
ชื่อของเขาอยู่ในอันดับที่สอง อันดับหนึ่งถูกแย่งชิงไปแล้ว
แม้กระทั่งหัวหน้าหุบเขาเวินเหรินก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความตกใจเป็นอย่างมากและกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าสำเร็จแล้วจริง ๆ ด้วย”
“ข้าหลอมยาสำเร็จแล้ว แน่นอนว่าไม่มีปัญหา” มู่เฉียนซีกล่าว
อวี้เหลียนชิงกล่าว “เป็นไปไม่ได้! นางไม่ได้หลอมยาจินหยางตามสูตรยา จะหลอมสำเร็จได้เช่นไรกัน หัวหน้าหุบเขาเวินเหริน ข้าไม่เชื่อ!”
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “การฝึกฝนในการหลอมยาที่แท่นหลอมยา และเสาหยกทดสอบนี้ล้วนแต่เป็นบรรพบุรุษของหุบเขาโอสถของพวกเราสร้างขึ้นมา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา”
อวี้เหลียนชิงยังคงไม่สบายใจ “แต่ถึงอย่างไรแท่นหลอมยานี้ก็ใช้งานมานานหลายปีแล้ว ยากที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาได้ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามู่เฉียนซีนางไม่มีหญ้าใบทองตามสูตรยาที่กำหนด นางไม่อาจหลอมยาจินหยางออกมาได้ แต่ตอนนี้นางกลับได้อันดับหนึ่ง ข้าเชื่อว่าทุกคนในที่นี้คงจะไม่ยอม!”
“ใช่! พวกเราไม่ยอม!”
“นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
ทันทีที่อวี้เหลียนชิงปลุกระดม เหล่าบรรดาศิษย์น้องของหุบเขาหมอเทวดาต่างก็พากันเห็นด้วย ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็พากันสงสัยเช่นกัน
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินก็ประหลาดใจเกี่ยวกับเม็ดยาที่มู่เฉียนซีหลอมออกมาเช่นกัน เขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวถามว่า “สาวน้อย เจ้าคิดเช่นไร ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อทุกคนสงสัย เช่นนั้นข้าก็จะเอาเม็ดยานั้นออกมาให้เหล่าอาวุโสของหุบเขาโอสถและหัวหน้าหุบเขาโอสถได้ตรวจสอบด้วยตัวเอง เป็นเช่นไร ?”
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “ตกลง!”
เขาไปที่แท่นหลอมยาของมู่เฉียนซีด้วยตนเอง และหยิบเม็ดยาออกมาจากเสาหยก ทันทีที่ได้สัมผัสกับเม็ดยานี้ หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินก็รับรู้ได้ถึงความไม่ธรรมดาของคุณภาพเม็ดยานี้
เหล่าผู้อาวุโสของหุบเขาโอสถตรวจสอบดูเม็ดยาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และอุทานออกมาด้วยความตกใจว่า “มีความบริสุทธิ์สูงจริง ๆ เต็มร้อยเลยก็ว่าได้!”
“ฤทธิ์ยาก็ดีกว่าสามถึงสี่เท่า!”
“พระเจ้า! สาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย!”
อวี้เหลียนชิงได้ยินเช่นนี้แล้วในใจก็รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เขากล่าว “ถึงแม้ว่าฤทธิ์ยาจะดี แต่สิ่งที่หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินต้องการให้พวกเราหลอมออกมาก็คือยาจินหยาง หากไม่ใช่ยาจินหยางก็ไม่นับว่าผ่านการทดสอบ!”
เป็นผลให้หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าวว่า “จากการวินิจฉัยของข้าแล้ว นี่คือยาจินหยาง!”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” อวี้เหลียนชิงกล่าวเสียงแหลม
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าว “สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแต่จะหลอมยาจินหยางออกมาดีที่สุด แต่ยังปรับปรุงสูตรยาจินหยางให้ดีกว่าเดิมอีกด้วย จากการปรับปรุงสูตรยาของนางแล้ว ประสิทธิภาพของยาจินหยางเม็ดนี้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก”
“หากเจ้าไม่เชื่อเจ้าก็เอายาของเจ้ามาเปรียบเทียบกับยาของสาวน้อยผู้นี้ได้”
หัวหน้าหุบเขาโอสถได้ตามเด็กลองยามา
เขาเอ่ยปากกล่าวว่า “ประสิทธิภาพของยาจินหยางนั้นทุกคนก็ล้วนแต่รู้กันดีอยู่แล้ว สิ่งนั้นก็คือ มันจะทำให้กำลังในการต่อสู้ของคนแข็งแกร่งขึ้น เด็กทั้งสองคนนี้มีพลังความแข็งแกร่งเท่ากัน ให้พวกเขาแบ่งกันกินยาจินหยางของมู่เฉียนซีกับอวี้เหลียนชิงดู!”
อวี้เหลียนชิงกล่าว “ตกลง! เช่นนั้นก็ลองดู!”
เขายังคงไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองนั้นพ่ายแพ้แล้ว อยู่ในหุบเขาหมอเทวดา ในหมู่สหายวัยเดียวกัน ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดเลย อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงศิษย์ของบรรพบุรุษแห่งหุบเขาหมอเทวดา ต่อไปในภายภาคหน้าเขาก็คือทายาทคนต่อไปแห่งหุบเขาหมอเทวดา
หลังจากที่เด็กทดลองยาสองคนนั้นได้กินเม็ดยาเข้าไปก็เริ่มปะทะกัน ผลลัพธ์ก็คือเด็กผู้นั้นที่กินยาจินหยางของมู่เฉียนซีเข้าไป สามารถผลักคู่ต่อสู้ออกไปได้อย่างสบาย
ผลักออกไปได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น ความแตกต่างช่างห่างชั้นยิ่งนัก!
ทุกคนเห็นสถานการณ์ทุกอย่างแล้ว เด็กลองยาสองคนนี้ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเป็นแต่อย่างใด
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด “ซี๊ด! แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“นึกไม่ถึงว่ามู่เฉียนซีแห่งสำนักศึกษาซวนเสียจากเสียโจวจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย นางยังปรับเปลี่ยนสูตรยาให้ดีกว่าเดิมได้ด้วย นางเป็นปีศาจชัด ๆ!”
“ผู้วิปริตเช่นนี้ได้อันดับหนึ่งไปข้าก็ยอมแล้ว!”
“ใช่! พวกข้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วหล่ะ”
ใบหน้าของอวี้เหลียนชิงเขียวคล้ำด้วยความโกรธเกรี้ยว กำหมัดแน่นและเงียบไป
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินยิ้มพลางกล่าว “สาวน้อย ยอดเยี่ยมมาก ข้ามีชีวิตมามากถึงปูนนี้แล้วก็เพิ่งจะเคยเห็นอัจฉริยะอย่างเจ้าเป็นครั้งแรก”
“ในเมื่อทุกคนไร้ซึ่งข้อสงสัยใดแล้ว เช่นนั้นผู้ที่เข้ารอบหนึ่งพันคนแรกตามข้ามา เราจะเข้าไปยังหอโอสถกัน!” หัวหน้าหุบเขาโอสถกล่าว
“ขอรับ/เจ้าค่ะ!”
อวี้เหลียนชิงก็ยังคงควบคุมสติอารมณ์ให้เย็นอยู่ ครั้งนี้แพ้ไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ก็แค่การประลองเล็ก ๆ เท่านั้น การทดสอบของหอโอสถต่างหากถึงจะสำคัญ
ครั้งนี้เขาจะไม่มีทางพ่ายแพ้เด็ดขาด! เขาจะต้องกลายเป็นอันดับหนึ่งของการคัดเลือกหอโอสถในรอบหลายพันปีนี้ให้จงได้
หอโอสถตั้งอยู่ในใจกลางของหุบเขาโอสถ หลังจากที่เดินเข้าไปในค่ายกลนับไม่ถ้วน พวกเขาก็ได้เห็นกับพื้นที่กว้างโล่งด้านหน้า ไม่เห็นที่ตั้งของหอโอสถแต่อย่างใด
“หอโอสถล่ะ ?”
“หอโอสถอยู่ที่ไหนกันแน่ ?”
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินยิ้มพลางกล่าวว่า “ที่ว่าไกลก็คงอยู่สุดขอบฟ้า ที่ว่าใกล้ก็คงจะอยู่ตรงหน้านี่เอง!”
มู่เฉียนซีก้มหน้าลงมอง และพบว่าพวกเขานั้นยืนอยู่บนประติมากรรมหยกขาว และหยกขาวรูปทรงกลมนี้ก็ถูกแกะสลักเป็นหอคอย
แกะสลักออกมาเป็นหอคอยสีขาว มีทั้งหมดเจ็ดชั้น นี่คงจะไม่ใช่หอโอสถหรอกกระมัง!
“นี่คือหอโอสถ!”
“หอโอสถเป็นประติมากรรมอย่างหนึ่งจริง ๆ ด้วย!”
“นี่…”
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินยิ้มพลางกล่าวว่า “นี่คือทางเข้าหอโอสถ หอโอสถเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ แน่นอนว่าไม่ใช่ประติมากรรม มันอยู่ในอีกมิติหนึ่ง”
“พวกเจ้าล้วนแต่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่เข้าใจหรอก อีกประเดี๋ยวข้าจะเปิดหอโอสถแล้ว”
เขาได้ทิ้งทุกคนเอาไว้ที่นี่และตัวเองก็ได้อันตรธานหายไป ไม่นานนักแสงประกายสีขาวก็ได้ห่อหุ้มทุกคนเอาไว้ และคนจำนวนหนึ่งพันคนก็ได้อันตรธานหายไปจากประติมากรรมหยกขาวนี้
หลังจากที่พวกเขาได้อันตรธานหายไป หัวหน้าเวินเหรินก็ร่นตัวลงบนประติมากรรมหยกขาวนั้นและยิ้มพลางกล่าวว่า “การคัดเลือกขอหอโอสถในครั้งนี้ ไม่แน่อาจจะมีเรื่องประหลาดใจก็ได้!”
“หัวหน้าหมายถึงสาวน้อยมู่เฉียนซีจากสำนักศึกษาซวนเสียแห่งเสียโจวผู้นั้น นางมีความสามารถมาก! ใช้เวลาเพียงแค่สามชั่วยามก็สามารถปรับปรุงสูตรยาจินหยางให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้” ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งหุบเขาโอสถกล่าว
“ใช่แล้ว! อัจฉริยะเช่นนี้หมื่นปีก็ยากที่จะเจอ แม้กระทั่งข้าก็ยังคาดหวังว่านางจะทำลายสถิติของหอโอสถกลายเป็นคนแรกของรอบหมื่นปีได้”
“นั่นมันเป็นไปไม่ได้ หอโอสถมีเจ็ดชั้น แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยผู้ใดขึ้นไปถึง สาวน้อยผู้นี้มีพรสวรรค์ พลังจิตก็แข็งแกร่งจนถึงขีดสุด แต่พลังวิญญาณในการฝึกฝนนั้นเกรงว่าจะเป็นจุดอ่อนของนาง พลังวิญญาณไม่เพียงพอที่สนับสนุน ไม่สามารถหลอมยาระดับสูงออกมาได้”
หัวหน้าหุบเขาเวินเหรินกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ข้ามัวแต่ดีใจจนลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้ไม่ได้ หลังจากนี้อีกสิบปีนางต้องทำลายสถิติได้แน่นอน ถึงอย่างไรอายุนางก็ยังน้อย ยังพอมีเวลา!”