ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 754 มีคนช่วยนางไว้
แต่ถ้าอยู่ต่อไป ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น!
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าพลังที่ระเบิดออกมาจากชิงอิ่งนั้นเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ “ได้! ข้าจะไป! เจ้าระวังด้วย!”
ไม่มีใครสามารถฆ่าชิงอิ่งและทําร้ายร่างกายของชิงอิ่งได้ แต่การลงมือกับผู้เป็นนายอย่างนางนั้นย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“เสี่ยวหง ไปกันเถอะ!”
เปลวเพลิงสีแดงสดกลายเป็นกําแพงไฟ มู่เฉียนซียกมือขึ้นและมอบยาพิษที่นำติดตัวมาให้กับพวกเขาแล้วหนีต่อไป
หากไม่มีชิงอิ่งอยู่ เส้นทางการหลบหนีต่อไปก็จะยิ่งยากลำบากขึ้น
ไม่มีแผนที่ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ทำได้เพียงหนีต่อไปเพื่อหลบเลี่ยงศัตรูเป็นสิ่งสําคัญ
แต่อีกฝ่ายกลับไล่ตามนางมาอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าความเร็วของนางจะเร็วอีกสักแค่ไหน หากพลังความแข็งแกร่งห่างกันมากเกินไป มันก็ไม่มีประโยชน์อันใด
ฟึ่บ!
เงาร่างหลายร่างพุ่งออกไป และมู่เฉียนซีก็ได้ถูกล้อมไว้อีกครั้งแล้ว
ครั้งก่อนที่ถูกล้อมยังมีชิงอิ่งที่คอยขวางศัตรูเอาไว้เพื่อให้นางหนีไป แต่ครั้งนี้นางทําได้เพียงสู้ด้วยตัวเองเท่านั้นแล้ว
มู่เฉียนซียกมือขึ้นและหยิบยาพิษทั้งหมดออกมา
“สาวน้อยผู้นี้เป็นสิ่งมีพิษจริงๆด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมคนจากหุบเขาหมอเทวดาถึงอยากฆ่านางนัก”
พวกเขาหลบหลีกพิษเหล่านี้อย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้าตัวมู่เฉียนซีไว้
“อย่าได้คิดแตะต้องเจ้านายของข้า!” เสี่ยวหงพุ่งเข้าไป
ทว่าพลังอันแข็งแกร่งของมันนั้นบอบบางนัก ต่อให้พลังทําลายล้างของเปลวเพลิงจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สามขั้นสี่เหล่านี้ มันก็ยังไม่เพียงพอ
“ไสหัวไป! เดี๋ยวก็ย่างเจ้าซะเลยนี่” หนึ่งในนั้นยกมือขึ้นและปัดเสี่ยวหงที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บสาหัสออกไป
ปัง! ฝ่ามือนี้ทําให้เสี่ยวหงได้รับบาดเจ็บสาหัส
“สาวน้อย เจ้ายอมปลิดชีพตัวเองเสียดีกว่า! พวกข้านั้นก็ขี้เกียจเกินกว่าจะลงมือแล้ว”
มู่เฉียนซีหยิบกระบี่มังกรเพลิงขึ้นมาแล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “ได้ ข้าจะจัดการเอง ข้าก็ไม่อยากถูกผู้อื่นฆ่าเช่นกัน มันคงจะดีเสียกว่าหากข้าลงมือเอง!”
“สาวน้อยช่างมีความกล้าหาญยิ่งนัก” พวกเขายิ้มเบาๆ
เมื่อมู่เฉียนซียกกระบี่ขึ้นจะปาดไปที่คอของนาง วิถีของกระบี่ก็เปลี่ยนไปทันที “มังกรเพลิงสังหาร!”
“มังกรเพลิงสังหาร!”
ล้อเล่นรึเปล่า? แม้ว่านางจะสิ้นหวังเช่นนี้ นางก็ไม่มีทางจะถูกบังคับให้ฆ่าตัวตาย
เมื่อมังกรเพลิงสีแดงเข้มปรากฏตัวขึ้น พวกเขาต่างไม่ทันได้ตั้งตัว
แต่ระดับของพวกเขาสูงกว่ามู่เฉียนซีอย่างมาก ทําให้พวกเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีทั้งสองนี้ได้อย่างสบายๆ
“สาวน้อย เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
พวกเขาเผยสีหน้าดุร้ายออกมาและพุ่งเข้าไปตบมู่เฉียนซีทันที
ปัง! มู่เฉียนซีกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร
เกราะที่อาจารย์ใหญ่เหลยมอบให้ก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
การโจมตีของระดับจักรพรรดิแห่งภูตยังพอสามารถต้านทานได้ แต่การโจมตีของมหาจักรพรรดิแห่งภูตเพียงครั้งเดียวกลับทําให้นางสาหัสไปโดยสิ้นเชิง
พรวดพรวด! มู่เฉียนซีกระอักเลือดออกมาหลายคํา มุมปากของนางยังคงมีเลือดไหลออกมา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิแห่งภูตเหล่านี้ นางรู้ดีว่าต่อให้ใช้ยาฟ้าดินซวนหวงเพื่อยกระดับพลังให้ถึงจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เก้า ก็ใช่ว่าจะเอาชนะพวกเขาได้
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้มีคนดียว และคนที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาก็ไม่ใช่มหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่ง หรือมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สาม
แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็จะต้องสู้อย่างสุดกําลัง!
เมื่อมู่เฉียนซีกําลังจะกินยาฟ้าดินซวนหวง พวกเขาก็ได้ลงมืออีกครั้ง
“ในเมื่อสาวน้อยไม่อยากใจร้ายต่อตนเอง เช่นนั้นก็คงต้องให้พวกเราลงมือเองเสียแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ป่าทั้งผืนก็ได้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง!
ตูม!
ราวกับแผ่นดินไหวก็มิปาน พื้นดินเริ่มแตกออก และมู่เฉียนซีที่บาดเจ็บสาหัสก็หยิบเอายาฟ้าดินซวนหวงออกมา นางยังไม่ทันได้กินมันลงไปก็ตกลงไปในหุบเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดเสียแล้ว
ตูม!
พื้นดินยังคงสั่นไหวอย่างรุนแรง ป่าโบราณที่ลึกลับดูเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ตอนนี้มู่เฉียนซีระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นถ้านางไม่ถูกฆ่าโดยคนกลุ่มนี้ นางก็คงจะต้องตกลงไปในหุบเหวอันไร้ที่สิ้นสุดและตาย
ใบหน้าของกองกำลังผู้นําเจ็ดอสูรก็ดูไม่ได้เช่นกัน “เกิดอะไรขึ้นกับป่าโบราณที่ลึกลับนี้? ”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่แห่งนี้ก็ไม่ควรอยู่นานนัก ฆ่าสาวน้อยผู้นี้แล้วรีบไปเร็วเข้า!”
ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
พวกเขาพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีอีกครั้ง
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมาที่นาง
มีคนสองสามคนปรากฏตัวขึ้นอยู่ไม่ไกล พวกเขาเหล่านี้อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชมากและไม่ได้ดีไปกว่ามู่เฉียนซีมากนัก
เสียงไพเราะราวกับเสียงไวโอลินเสียงหนึ่งดังขึ้น “ซวนอี ไปช่วยนาง!”
“นายน้อย ตอนนี้สิ่งที่สําคัญที่สุดคือการรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ใช่…”
ในเวลานี้ คนเหล่านั้นได้เข้าใกล้มู่เฉียนซีและต้องการที่จะโจมตีเอาชีวิตมู่เฉียนซี
“ช่วยนาง!” ทันใดนั้นเสียงนั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นเสียงแหลมขึ้นมา
บุรุษที่ชื่อซวนอีหยิบคันธนูออกมา ยกมือขึ้นและยิงลูกธนูทั้งสามดอกออกไปพร้อมกัน
ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
เมื่อลูกธนูทั้งสามดอกบินออกไป ใบหน้าของเหล่ากองกำลังผู้นําเจ็ดอสูรนั้นก็เต็มไปด้วยผิดหวัง
ฉึกฉึกฉึก! ลูกศรทั้งสามดอก ทุกดอกล้วนพุ่งเข้าตรงที่หัวใจ
ปัง ปัง ปัง!
ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแววตกตะลึง มีคนมาช่วยนางไว้!
ด้วยความแข็งแกร่งของลูกศรทั้งสามดอกนี้ ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามนั้นต้องสูงกว่ากองกำลังผู้นําเจ็ดอสูรเหล่านี้อย่างแน่นอน
ทหารติดตามคนอื่นๆของกองกำลังผู้นำเจ็ดอสูร เหงื่อแตกพลั่กพวกเขามองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ตรงนั้นแล้วถามว่า “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? ทําไมถึงโจมตีเรา!”
ซวนอีไม่สนใจที่จะพูดคุยกับพวกเขา เขายกมือขึ้นอีกครั้งและยิงธนูอีกสามดอก
เมื่อถูกนักล่าที่แข็งแกร่งจับตามอง พวกเขาก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัวและรีบกล่าวว่า “ไปกันเถอะ!”
ยังจะฆ่ามู่เฉียนซีเอารางวัลอีกหรือ! ตอนนี้ชีวิตสําคัญที่สุด!
พวกเขาวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วมาก แต่เสียงแหวกอากาศจากทั้งสามทางนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่ร่างของพวกเขาโดยตรง
พริบตาเดียว ก็มีเสียง “พรวดพรวดพรวด!”
“ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย! นายท่าน!” คนผู้เดียวที่ยังเหลือรอดอยู่ ตอนนี้เขาไม่กล้าสู้ ไม่กล้าหนี ได้แต่คุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา
แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้เป็นเทพสังหารที่เย็นชาและแล้วลูกศรอีกดอกหนึ่งก็ทําให้เขาต้องตกนรกไปด้วยความสิ้นหวัง
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าการเดินทางไปป่าเชียนโยวในครั้งนี้จะว่าไปก็โชคร้ายยิ่งนัก แต่ในขณะเดียวกันก็โชคดีมากเช่นกัน
โชคร้ายที่ได้พบกับคนของผู้นําเจ็ดอสูร จากนั้นพวกเขาก็ยังติดต่อกับหุบเขาหมอเทวดา ทําให้นางตกอยู่ในอันตรายจากการถูกไล่ล่าอย่างเอาตาย
สําหรับโชคดีนั้นก็คือได้รับผลหวายมหาจักรพรรดิมาอย่างลับๆ และในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้กลับมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยอีกด้วย
มู่เฉียนซีมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ด้านข้าง มีเพียงสี่คนเท่านั้น
นักธนูศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดมีใบหน้าแข็งทื่อและเย็นชา
และในชั่วพริบตา เขาก็ยกคันธนูขึ้นมาอีกครั้ง และเล็งไปที่นาง
มู่เฉียนซีอึ้งไปเล็กน้อย หรือว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะช่วยนาง แต่เป็นการสังหารทุกคนที่ขวางหน้า
“ซวนอี ลงมือ!” เสียงแหบแห้งดังขึ้นมาจากผู้ช่วยที่เชื่อฟังของซวนอี
ถามด้วยความกังวล “นายน้อย ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม!”
คนผู้นั้นถูกขวางเอาไว้ เห็นเพียงชายเสื้อที่เปื้อนเลือดและได้ยินเสียงอันไพเราะนั้น
มู่เฉียนซีรู้สึกวิงเวียนศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทนได้อีกต่อไป “ตุบ!” ล้มลงกับพื้น
ซวนอี กล่าวอย่างกังวล “นายน้อย ท่านกําลังตกอยู่ในอันตราย พวกเราต้องออกไปจากป่าเชียนโยวและพาท่านไปรักษา!”
ซวนอี ซวนเอ้อ และซวนซาน พาเขาออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเดินมาถึงมู่เฉียนซี เขาก็กล่าวว่า “หยุด!”