ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 787 ลอบโจมตีและปล้นให้สิ้น
ในวันแรกมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีเลือกที่จะไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด
จวินโม่ซีที่เป็นนักปรุงยาผู้หนึ่ง ในการทดสอบครั้งนี้เขาไม่เพียงแต่ไม่ไปเก็บสมุนไพรวิญญาณ แต่เขากลับไปจับกระต่ายกับไก่ป่าและสัตว์อื่นๆ ทั้งหมดซึ่งล้วนแต่เป็นสัตว์ที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้และมีเนื้อนุ่มที่มีรสชาติโอชะ
แล้วจะจับเจ้าสัตว์พวกนั้นมาทำอะไรกันเล่า?
แน่นอนว่าเขานำพวกมันไปให้แก่สหายมู่เฉียนซีแล้วกล่าวขึ้นอย่างน่าสงสาร “ข้าหิวแล้ว! ของพวกนี้ข้าได้จัดการมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วยย่างให้ข้า ช่วยย่างให้ข้า!”
มู่เฉียนซีกลอกตาขาวใส่เขา “รูปลักษณ์ของเจ้าธรรมดาเช่นนี้ แต่คิดที่จะใช้กลอุบายชายงามกับข้า เจ้าคิดว่ามันจะสำเร็จหรือ?”
“เช่นนั้นข้าจะถอนฤทธิ์ยาแปลงโฉมนี่เสีย แล้วใช้กลอุบายชายงามกับเจ้าเป็นเช่นไร?”
เพื่อการที่จะได้กินเนื้อย่างรสชาติดีสักคำ จวินโม่ก็ถือว่ายอมสู้ด้วยทุกสิ่งอย่าง
มู่เฉียนซีครุ่นคิดอยู่สักครู่ก็ยิ้มพร้อมกล่าว “ได้สิ!”
“เจ้าหาฟืนเอาเอง”
“แล้วก็ก่อไฟเอาเอง!”
“…….”
“เสร็จแล้ว ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว!”
เมื่อได้ยินเรื่องของกินอันโอชะ ความรวดเร็วของนักปรุงยาจวินโม่ซีนั้นก็มิต้องกล่าวถึงเชียว
ไม่นานนักทุกอย่างก็ได้ถูกเตรียมเอาไว้พร้อมสรรพ แม่ครัวใหญ่มู่จึงได้เริ่มลงมือ ทักษะในการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ได้ทำให้กลิ่นหอมของเนื้อย่างนั้นลอยไปไกลนับสิบลี้
ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกทุกคนล้วนแต่นำอาหารแห้งติดตัวมาด้วย แต่เมื่อได้กลิ่นหอมนี้เข้า ก็รู้สึกหิวโหยเป็นอย่างมาก แต่ละคนจึงได้มุ่งมาทางพวกนาง
ลักษณะที่ด้านนอกกรอบเกรียมด้านในนุ่มนิ่ม และไก่ย่างหมูย่างแกะย่างที่ย่างออกมาจนเป็นสีทองอร่ามนั้นทำให้ผู้ที่ได้เห็นนั้นรู้สึกอิจฉาอยากได้มา
ในตอนนี้ที่จวินโม่ซีได้มีความสุขถึงขีดสุด ปรากฏว่าได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ เขากล่าวเตือนพวกนั้นขึ้น “พวกเจ้า….พวกเจ้าจะทำอะไร?”
ท่าทางของเขาราวกับว่าหากมีผู้กล้ามาแย่งเนื้อย่างกับเขาเข้า เขาก็จะสู้ตายกับคนผู้นั้น
ใบหน้าของอีกฝ่ายมืดครึ้ม พวกนั้นกล่าวขึ้น “เห็นว่าพวกเจ้าย่างเอาไว้ไม่น้อย สองคนก็กินไม่หมดหรอก พวกเราเองก็หิวแล้ว สามารถแบ่งให้พวกเราสักหน่อยได้หรือไม่”
“ไม่ได้! ไม่ได้อย่างแน่นอน! ใครบอกว่าข้ากินไม่หมด” จวินโม่ซีกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา
“พวกเรายินดีที่จะเอาสมุนไพรวิญญาณมาแลกเปลี่ยน!”
มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ได้ สมุนไพรวิญญาณที่พวกเราต้องการหนึ่งอย่างแลกกับเนื้อย่างหนึ่งชิ้น!”
“แค่ชิ้นเดียว!”
นั่นเป็นถึงสมุนไพรวิญญาณขั้นสูงเชียว จะแลกเนื้อสัตว์ย่างสักร้อยตัวก็ไม่มีปัญหา แต่พอมาอยู่ที่นี่กลับสามารถแลกเนื้อสัตว์ย่างได้แค่เพียงตัวเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวตอบ “ถ้าหากว่าพวกเจ้าทำใจไม่ได้ ก็สามารถที่จะไม่ทำการแลกเปลี่ยนได้!”
“แลก พวกเราแลก!”
อย่างไรเสียพวกเขาก็หาสมุนไพรวิญญาณพบมาแล้วมากมายพวกเขาเองก็ใช้มันไม่หมด สามารถนำมันมาแลกกับอาหารอันโอชะสักมื้อหนึ่งได้ก็คุ้มค่าแล้ว
“ข้าขอต่อต้าน ข้าต่อต้าน!” จวินโม่ซีแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
“เนื้อนี้ข้าเป็นผู้ย่าง ข้ามีอำนาจในการตัดสินใจ!”
“แต่ส่วนที่เหลือนั้นเป็นของข้า ข้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจรึ?”
“ข้าสามารถเลิกล้มการย่างเนื้อนี้ได้ เจ้ามาย่างเองสิ!” มู่เฉียนซีกล่าวพร้อมยิ้มตาหยีมองไปทางจวินโม่ซี
หลังจากที่จวินโม่ซีนึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของตนเมื่อก่อนหน้านี้ที่ได้ลองย่างเนื้อดูและจากนั้นก็ได้เผาป่าไปทั้งผืนขึ้นมา เขาก็รีบส่ายหน้าอย่างรีบร้อน
“ให้เจ้าย่างเสียดีกว่า! ข้าจะไปหามาเพิ่มอีกหน่อย!”
เพื่อที่จะไม่ให้ตนเองอดอยาก นักปรุงยาจวินได้แปลงร่างเป็นนายพรานใหญ่จวิน
ปรากฏว่ากิจการการขายเนื้อย่างของมู่เฉียนซี ณ ที่แห่งนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปปล้นสมุนไพรวิญญาณจากพวกศิษย์พี่หุบเขาหมอเทวดาก็สามารถหามาได้สิบถึงยี่สิบกว่าชนิดแล้ว
เพราะกลิ่นของเนื้อย่างนั้นหอมเกินไปนัก จึงมิเพียงแต่ดึงดูดผู้เข้าร่วมการทดสอบเข้ามาเท่านั้น หากแต่มันยังได้ดึงดูดเอาศิษย์พี่หุบเขาหมอเทวดาพวกหนึ่งเข้ามาด้วย
“ฮึ่ม! สิ่งที่หุบเขาหมอเทวดาของพวกเราต้องการจะรับเข้ามาคือนักปรุงยา หาใช่คนครัวไม่! สองคนนี้ไม่ยอมที่จะหาสมุนไพรวิญญาณให้ดี แต่กลับใช้วิถีมารทางลัดหาสมุนไพรวิญญาณ”
“นั่นนะสิ นี่มันเป็นความอัปยศของพวกเรานักปรุงยา!”
“พวกเขาเป็นนักปรุงยาของตระกูลจิน ภารกิจที่ผู้อาวุโสมอบให้พวกเขานั้นหนักหนาสากรรจ์นัก คิดที่จะให้บทเรียนแก่พวกเขา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าพวกนั้นจะฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเช่นนี้ เราจะต้องหยุดพวกนั้น!”
“หรือพวกเราจะบุกเข้าไปเลยดี!”
“รอให้เนื้อพวกนั้นย่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก่อนพวกเราค่อยลงมือ! เดินร่อนอยู่ในป่ามาทั้งวันข้าเองก็หิวแล้ว!”
“ที่ศิษย์พี่พูดนั้นมิผิด!”
มู่เฉียนซีรู้ตัวแล้วว่ากำลังมีคนเฝ้ามองพวกนางอยู่จากมุมมืด จวินโม่ซีเองก็ได้รีบกินเข้าไปอย่างทำเวลาเพื่อป้องกันปริมาณในการกินของตนเองเมื่อถึงเวลาที่มีผู้อื่นเข้ามาก่อความวุ่นวาย
รอจนเมื่อคนอื่นรอบนั้นแยกย้ายกันไปจนหมด มู่เฉียนซีก็ได้ย่างเนื้อย่างรสเด็ดสำเร็จออกมาอีกเป็นกอง ฟุบ ฟุบ ฟุบ! เงาร่างหลายเงาได้กระโจนเข้ามา
“ส่งมอบสมุนไพรวิญญาณที่มีติดตัวทั้งหมดของพวกเจ้ามา จะได้ไม่ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว”
มู่เฉียนซีถามขึ้น “ทำไมต้องให้ด้วย?”
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ!”
“ในเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ แน่นอนว่าพวกเราจะเชื่อฟัง แต่ทว่าทุกท่านก็คงหิวแล้ว! เชิญกินอะไรก่อนแล้วค่อยเก็บสมุนไพรวิญญาณไปเป็นเช่นไร?” มู่เฉียนซียิ้มพร้อมกล่าว
เดิมทีพวกเขาที่อยู่ในมุมมืดได้เพ่งเล็งเนื้อย่างพวกนี้เอาไว้นานแล้ว เมื่อได้ยินมู่เฉียนซีเชื้อเชิญให้พวกเขากิน พวกเขาเองก็อดรอไม่ได้แล้ว
กินก่อนแล้วจะอย่างไรค่อยว่ากัน อย่างไรเสียพวกเขาก็หนีไม่พ้นแล้ว
ปรากฏว่าพวกเขาเพิ่งจะกินเนื้อย่างไปได้เพียงหนึ่งคำ แต่ละคนก็ ตุบ ตุบ ตุบ! ล้มลงไปกองบนพื้น พวกเขาโดนวางยาพิษเข้าเสียแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง
จวินโม่ซีกล่าว “อย่างไรเสียการวางยาพิษก็รวดเร็วที่สุด เจ้าพวกโง่เขลาพวกนี้กล้าที่จะมาแย่งของกินข้า สมน้ำหน้า!”
มู่เฉียนซีได้ถือขากระต่ายไปเสพสุขอยู่ที่ด้านข้างขาหนึ่ง นางกล่าวกับจวินโม่ซี “อย่าได้ไร้สาระมากความ รีบกินเสีย! กินเสร็จแล้วคืนนี้ก็ถึงเวลาออกล่า”
“วางใจได้ ข้ากินอิ่มแล้วอารมณ์ดี จะทำงานให้เต็มที่!”
เมื่อฉากแห่งค่ำคืนอันมืดมิดได้ลงมา เงาร่างทั้งสองก็ได้พุ่งตัวออกจากความมืด หนึ่งในนั้นมีผู้ที่ใส่ชุดสีขาว กระบองด้ามหนึ่งได้เคาะลงไป พวกศิษย์พี่ของหุบเขาหมอเทวดาแต่ละคนที่สวมใส่ชุดนักปรุงยานั้นได้ร่วงลงไปทีละคนๆ
แสงอันเย็นยะเยือกแสงหนึ่งได้แวบผ่านไป ที่บนคอของพวกเขาก็ได้ทิ้งร่องรอยที่เป็นรูเล็กๆเอาไว้ พวกเขาไม่มีสติเลยแม้แต่น้อยและได้ร่วงล้มลงไป
จวินโม่ซียิ้มพร้อมกล่าว “จัดการเรียบร้อย นี่ไม่ได้มีความท้าทายเลยแม้แต่น้อย!”
“รีบหาสมุนไพรวิญญาณเร็วเข้า!”
“รับทราบ!”
เพียงคืนเดียว มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีได้ลอบโจมตีปล้นชิงเหล่าศิษย์ที่หุบเขาหมอเทวดาได้ส่งเข้ามาไปทั้งหมด
ผลเก็บเกี่ยวที่ได้มานั้นก็ดีงามยิ่งนัก บัดนี้รวบรวมสมุนไพรวิญญาณได้สามสิบกว่าชนิดแล้ว
แต่เมื่อเหล่าศิษย์พี่พวกนั้นได้ฟื้นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นก็ได้พบว่าพวกเขานั้นถูกลอบโจมตีเสียแล้ว สมุนไพรวิญญาณที่แย่งชิงมาได้อย่างยากลำบากก็ไม่เหลือแล้ว พวกเขาจึงโกรธขึ้นมาในทันใด
“ใคร ใครกันที่กล้าลอบโจมตีพวกเรา?”
“หากพวกเราหาตัวเจอละก็ จะต้องให้พวกนั้นได้เห็นดีกัน!”
“จะต้องหาไอ้พวกโจรกระจอกนั่นให้เจอ!”
เดิมทีพวกนั้นคิดว่า พวกที่ลอบโจมตีพวกเขาไปแล้วครั้งหนึ่งจะไม่กล้าทำอีกเป็นครั้งที่สอง และปรากฏว่าพวกเขามิได้ระวังป้องกันตัวแต่อย่างใด จึงได้ถูกลอบโจมตีเข้าอีกครั้งและถูกปล้นชิงไปหมดตัว!
พวกเขาโกรธจนแทบบ้า!
“จะปล้นชิงเอาไปมากมายเช่นนั้นทำไมกัน? มันน่าจะเพียงพอตั้งแต่แรกแล้ว?”
“ข้าคาดว่าพวกนั้นคงจะเป็นคนของตระกูลจิน แล้วก็มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ต้องการสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากมาย!”
“ต้องเป็นพวกเขาแน่ พวกเขากลับใช้วิธีการเช่นนี้แก้เผ็ดพวกเรา บ้าจริง!”
เมื่อถึงวันสุดท้ายของการทดสอบรอบแรก ก็ถือว่าพวกเขาคาดเดาเรื่องบางอย่างออกมาได้บ้างแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ได้เพ่งเล็งไปที่ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกจากตระกูลจิน นั่นจึงทำให้คนอื่นๆปลอดภัยขึ้นมามิน้อย
“อย่าปล่อยให้ผู้หญิงนางนั้นหนีไปได้ พวกนั้นเป็นคนของตระกูลจิน!”
“จับพวกมันไว้!”
นักปรุงยาของหุบเขาหมอเทวดาหลายคนได้ตามจับตัวหญิงสาวที่สวมชุดสีแดงกับชายอีกผู้หนึ่ง พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้ที่ตระกูลจินส่งตัวมา
จินเลี่ยฮั่วกัดฟันกล่าว “พวกเจ้านี่ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก มอบภารกิจอันหนักอึ้งให้แก่พวกเราแล้วยังจะมาปล้นชิงเราอีก ข้าจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน!”
แต่ทว่า ในที่สุดนางก็ไม่สามารถหนีพ้นจากคนเหล่านี้ไปได้
นางเห็นเงาร่างสองเงาที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้า นางร้องตะโกนขึ้น “มู่เฉียนโม่ เฟิ้งเยี่ยซี ยังไม่รีบมาช่วยกันอีก!”