ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 162 ไปให้พ้น!
เมื่อเผิงอิงอิงเข้ามาใกล้ อวี้ฮ่าวหรานก็ขมวดคิ้วเพราะกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนกึกของเธอ
“ออกไปให้พ้นจากออฟฟิศของฉันเดี๋ยวนี้!”
อวี้ฮ่าวหรานหมดความอดทนกับเผิงอิงอิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
ล้อเล่นหรือไง ผู้หญิงคนนี้กล้ายั่วยวนเขางั้นเหรอ?!
นี่มันไร้สาระที่สุด!
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันจู่ ๆ ประตูออฟฟิศของอวี้ฮ่าวหรานก็ถูกเปิดออกอย่างกระทันหัน!
“เสียมารยาทขนาดนี้ได้ยังไง? ทำไมถึงไม่เคาะประตูแล้วรอคำอนุญาตก่อนถึงเข้ามา!”
ผู้จัดการหวังหันไปตวาดใส่พนักงานที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาทันที เขาไม่ชอบที่พนักงานในบริษัทไร้มารยาทขนาดนี้
“ข…ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับท่านประธานอวี้ ผู้จัดการหวัง แต่นี่เป็นเรื่องด่วนจริงๆ!”
พนักงานดูเหมือนจะหายใจไม่ทันจากความเหนื่อยหลังจากวิ่งมาอย่างเร่งรีบ แต่เขาก็ยังรีบตอบเมื่อถูกตำหนิจากผู้จัดการหวัง
“เอาล่ะมีเรื่องอะไร?” ผู้จัดการหวังถามขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว
“ท..ท่านประธานอวี้ ท่านควรไปดูด้วยตัวเองตอนนี้ลูกสาวของท่านได้รับบาดเจ็บอยู่ในสวนสนุกของเรา!”
“ว่าไงนะ!?”
อวี้ฮ่าวหรานลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งออกจากห้องไปในทันทีเมื่อได้ยินคำนี้ซึ่งผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งตามออกไปติด ๆ เช่นกัน
ไม่เกิน 1 นาที อวี้ฮ่าวหรานก็วิ่งมาถึงสวนสนุกในร่มเรียบร้อยและเขาก็เห็นว่าตอนนี้ถวนถวนกำลังนั่งร้องไห้อยู่ท่ามกลางพนักงานหลายคนที่กำลังปลอบโยน
“ฮือ….พ่อจ๋า…ฮือ…!”
“เกิดอะไรขึ้น!?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นเสียงด้วยความรู้สึกร้อนใจ
“ท..ท่านประธาน ลูกสาวของท่านพลาดตกลงมาจากสไลเดอร์ คือ…พวกเรานึกไม่ถึงจริง ๆ…”
หนึ่งในพนักงานที่คอยดูแลสวนสนุกในร่มของบริษัทตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขากลัวมากว่าประธานของบริษัทจะเอาผิดเขาในเรื่องนี้แล้วไล่เขาออก
พนักงานทุกคนต่างรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากจนสีหน้าของพวกเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจน…
นี่คือลูกสาวของประธานบริษัทเชียวนะ!
ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุนี้จะไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่พวกเขาก็กลัวว่า อวี้ฮ่าวหรานจะลงความเดือดดาลมาที่พวกเขา
เงินเดือนที่พวกเขาได้รับขณะนี้หากเป็นตำแหน่งเดียวกันในบริษัทอื่น พวกเขาได้มากเกินกว่า 20% ดังนั้นจึงไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่อยากจะเสียงานในบริษัทดี ๆ แบบนี้ไป…
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหราน ไม่ได้มีเจตนาที่จะลงโทษพวกพนักงานเช่นกัน เขาเข้าใจดีว่าเรื่องนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัยและถวนถวนก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ถวนถวน…พ่ออยู่นี่แล้ว ไหนให้พ่อดูหน่อยว่าหนูเจ็บตรงไหนบ้าง?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับสำรวจร่างกายลูกสาวของเขาอย่างละเอียด
โชคดีที่ทุกตารางนิ้วของพื้นสวนสนุกในร่มนั้นถูกบุไปด้วยแผ่นยางนิ่ม ๆ ดังนั้นถวนถวนจึงมีแค่รอยแดงช้ำเล็กน้อยเพียงเท่านั้น
หลังจากนั้นเพียงชั่วอึดใจ ผู้จัดการหวังและเผิงอิงอิงก็วิ่งตามมาถึงสวนสนุกในร่ม
“ว้าว! เด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักจริงๆ!”
เมื่อเห็นถวนถวน เผิงอิงอิงก็เอ่ยขึ้นชมด้วยแววตาประกายทันที
แน่นอน…เธอรู้อยู่แล้วว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือ ถวนถวน ลูกสาวของอวี้ฮ่าวหราน เนื่องจากเธอได้ไปหาข้อมูลของประธานหนุ่มมาพอสมควรในช่วงก่อนหน้านี้
หลังจากพูดจบ เผิงอิงอิงก็รีบเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ถวนถวนและโอบกอดพร้อมกับปลอบโยน
“โอ๋ ๆ ไม่ต้องร้องนะจ้ะ เดี๋ยวพี่สาวจะพาไปซื้อของอร่อย ๆ มาให้หนูกินตกลงไหม?”
เผิงอิงอิงดัดเสียงของตัวเองให้เล็กและเบาราวกับตัวเองเป็นเด็ก แต่น้ำหอมที่กลิ่นฉุนกึกของเธอกลับยิ่งทำให้ถวนถวนสะอึกและจาม
“ฮัด…ชิ่ว…หนูไม่ชอบคุณ…ฮัดชิ่ว…ถวนถวนต้องการแค่พ่อจ๋า ฮือ~!”
เมื่อเห็นถวนถวนจามไปสองรอบและร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะกลิ่นน้ำหอมของเผิงอิงอิง อวี้ฮ่าวหรานก็รีบอุ้มลูกสาวของเขาเข้ามากอดทันที
“ไม่เป็นไรนะ…ไม่เป็นไร…พ่ออยู่นี่แล้ว หยุดร้องนะโอ๋ๆ”
“พ่อจ๋า น..หนูจะหยุดร้อง” ในที่สุดถวนถวนก็เริ่มอารมณ์คงที่
“คุณรีบไปให้พ้นหน้าผมเดี๋ยวนี้!”
หลังจากเห็นว่าถวนถวนหยุดร้องไห้แล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็หันมาจ้องเขม็ง เผิงอิงอิงทันที ไม่เพียงแค่ผู้หญิงคนนี้จะแต่งหน้าหนาเตอะจนน่าสะอิดสะเอียนแล้ว แต่ยังใส่น้ำหอมกลิ่นฉุนจนทำให้ลูกสาวของเขาจามอีก!
“ฉ…ฉันแค่อยากจะช่วยปลอบลูกสาวของท่านเองนะคะท่านประธาน…” เผิงอิงอิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขอความเห็นใจ
“ฉันจะไม่พูดอีกเป็นครั้งที่สองแล้วนะ!” รอบนี้ อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยที่เขาไม่หันไปมองอีกฝ่าย
สีหน้าของเผิงอิงอิงเปลี่ยนเป็นมืดหม่นทันที ก่อนหน้านี้เธอวางแผนมาหลายอย่างมากในการยั่วยวนอวี้ฮ่าวหราน ซึ่งเธอไม่นึกเลยว่าตอนนี้เธอกลับถูกไล่ไม่ต่างกับหมาข้างถนน
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ขู่เธอเล่น ๆ แน่นอนเธอจึงทำได้แต่ลุกขึ้นและเดินจากไป…
หลังจากเผิงอิงอิงจากไป บรรดาพนักงานทั้งหลายต่างก็ซุบซิบนินทากัน
“ฮึ่ม สมน้ำหน้า! เห็นชัด ๆ เลยว่าแต่งตัวแบบนี้เพื่อมาตั้งใจจับท่านประธานของเราแน่นอน!”
“น่าตลกสิ้นดี ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทางที่ท่านประธานของเราจะสนใจ!”
“คงอยากใช้โอกาสนี้ในการใกล้ชิดกับท่านประธาน แต่น่าเสียดายที่ท่านประธานของเราไม่ได้โง่! สะใจจริงๆ!”
“…”
ทุก ๆ คนต่างมองตามหลังเผิงอิงอิงที่เดินออกไปด้วยแววตาดูถูก
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะพูดอะไรนัก เขาลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มถวนถวนขึ้นมาที่อกแล้วเดินออกไปจากสวนสนุกในร่มทันที
“พ่อจ๋า ถวนถวนอยากกินไก่ทอดKCF!”
หลังจากหยุดร้องไห้แล้ว ถวนถวนก็เอ่ยขอขึ้นมาเสียงดัง
แน่นอนว่าหลังจากที่เอ่ยขอ เด็กน้อยส่งแววตาอ้อนวอนให้กับอวี้ฮ่าวหรานด้วยเช่นกัน
ตามปกติแล้วหลี่หรงไม่อนุญาตให้ถวนถวนกินอาหารฟาสฟู้ดแบบนี้…
“ได้เลย เดี๋ยวพ่อจะพาลูกไปกิน!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่มีทางอดทนได้กับสายตาอ้อนวอนของลูกสาวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงตอบรับแทบจะทันที
จากนั้นคู่พ่อลูกก็พากันออกจากบริษัทไปด้วยกันซึ่งหลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานสัญญาว่าจะพาไปกินไก่ทอดเจ้าดัง ถวนถวนก็หัวเราะร่าดีใจราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย
…
ในระหว่างทางไปร้านไก่ทอดเจ้าดัง ถวนถวนซึ่งชอบมองดูสิ่งต่าง ๆ ข้างทางนอกรถอยู่แล้วดังนั้นเมื่อเด็กน้อยเห็นกำแพงของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีรูปปลาชนิดต่าง ๆ มากมายถูกวาดเอาไว้อยู่ เด็กน้อยก็เริ่มแสดงสีหน้าตื่นเต้น
“พ่อจ๋า…พ่อจ๋า…ปลาพวกนั้นคือปลาอะไร?”
ถวนถวนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่กำแพง
“เอ่อ…นั่นเรียกกว่าโลมา อีกตัวข้าง ๆ ก็วาฬสีน้ำเงิน ส่วนตัวนั้น…”
ในระหว่างที่อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยชนิดของปลาไปเรื่อย ๆ จู่ ๆ เขาก็หยุดกึ้กและเริ่มคิดออกว่าลูกสาวของเขาน่าจะอยากเข้าไปดูหรือเปล่า?
“ถวนถวน…อยากเข้าไปดูหรือเปล่าลูก?”
“อื้ม!!”
ถวนถวนพยักหน้าอย่างแรง การกระทำที่น่ารักแบบนี้ทำให้อวี้ฮ่าวหราน อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมา เขาขับรถเข้าไปในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทันที
“อู้ว…พ่อจ๋าดูนั่นสิ นั่นโลมาใช่ไหม?”
ในอุโมงค์น้ำถวนถวนชี้ปลาชนิดต่าง ๆ พลางถามอวี้ฮ่าวงหรานไปเรื่อย ๆ ด้วยแววตาเป็นประกาย
“ลูกอยากจะไปดูพวกสัตว์น้ำแบบอื่น ๆ ไหม?”
หลังจากเตร็ดเตร่อยู่ในอุโมงค์น้ำได้สักพักแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงเอ่ยถามขึ้น
“อื้ม!” ถวนถวนพยักหน้าอย่างตื่นเต้นเหมือนเดิม
หลังจากนั้นคู่พ่อลูกก็เดินไล่ดูสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ไปเรื่อยอย่างสนุกสนาน