ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 116
หลังอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้งกันดารทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสิบปีเต็ม เจ้าเค่อความสามารถโดดเด่น ปีกกล้าขาแข็ง เปลี่ยนชื่อแซ่กลับไปเป็นทหารในเมือง หนทางราบรื่นจนเป็นนายพล วันนี้เอง เขารวบรวมบริวารเก่าของตระกูลเจ้าที่อยู่ทางใต้มุ่งเข้าก่อกบฏ บีบเข้าใกล้เมืองหลวง
ก่อนที่ทหารตระกูลเจ้าจะบุกทะลวงด้านหน้าวัง กษัตริย์ซึ่งอยู่ในตำหนักหลักสังหารตนเองไป เจ้าเค่อสั่งคนให้ตรวจสอบวังให้ละเอียด กลับพบองค์หญิงที่ซ่อนอยู่ในบ่อน้ำเก่าและถูกลูกน้องช่วยขึ้นมา
องค์หญิงผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้ามอมแมม เมื่อล้างน้ำจนสะอาด เจ้าเค่อที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดนั่งอยู่บนชั้นหินเห็นแล้วก็ใจลอยไป
เขาใจลอย พวกมู่จิ่วยิ่งใจลอย!
องค์หญิงที่สวมเสื้อสีเรียบง่ายนั้นคือเฟยอีในตอนแรก…
“ยังไม่ตายสินะ” นางพูดพึมพำ มองดูวังที่เต็มไปด้วยศพและคราบเลือด คนทั้งสองกลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง ในใจนางเจ็บแปลบเล็กน้อย นางพลันเชื่อว่าเฟยอีคงจะรักชิงผิง มิฉะนั้นคงไม่กระโดดแท่นประหารเซียนตามลงมา และคงไม่มาพัวพันกับเขาอีกครั้ง
ภาพดำเนินต่อไป องค์หญิงสังหารตนเองหลายหน เจ้าเค่อก็ช่วยไว้หลายหน ในที่สุดสามปีให้หลังพวกเขาก็ลบความโกรธแค้นไปได้
ตอนที่กำลังเตรียมจัดงานแต่งครั้งใหญ่ ผิงหนานอ๋องที่สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขากลับออกมาต่อต้านไม่ให้กษัตริย์ของพวกเขาสมรสกับองค์หญิงแห่งแคว้นที่ล่มสลายแล้ว เจ้าเค่อไม่สนใจ เฟยอีกลับขอเป็นชายาเอง และตอนนี้เองที่ผิงหนานอ๋องนำน้องสาวของเขาเข้าวัง น้องสาวของผิงหนานอ๋องรูปร่างหน้าตาเหมือนเฟยอียิ่งกว่าองค์หญิงจากแคว้นที่ล่มสลายแล้วเสียอีก…
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” มู่จิ่วดูจนสับสนแล้ว! ในเมื่อเป็นแบบนี้ แท้จริงใครคือเฟยอีตัวจริงกันแน่?
ลู่ยากับราชาจิ้งจอกล้วนเงียบไป
หากไม่มีน้องสาวของผิงหนานอ๋อง ใครก็ไม่อาจสงสัยว่าองค์หญิงคือเฟยอี แต่พอนางปรากฏตัวออกมา เฟยอีกลับยิ่งนานยิ่งไม่เหมือนเฟยอี…
เรื่องราวความรักต่อมา ผิงหนานอ๋องกับเจ้าเค่อหารือกัน ยินยอมให้เขาเก็บองค์หญิงไว้ แต่ฮองเฮาต้องเป็นน้องสาวของเขา ภาพฉายไปที่งานสมรสอันยิ่งใหญ่ของเจ้าเค่อและฮองเฮา หลังจากฮองเฮาผ่านช่วงเวลาครึ่งปีของการแต่งงานใหม่ก็เริ่มใช้ชีวิตตัวคนเดียว กลับมาดูทางด้านองค์หญิง เจ้าเค่อแทบจะไปเยี่ยมเยือนทุกคืน
รักลำเอียงของเจ้าเค่อย่อมเป็นเหตุกระตุ้นให้ผิงหนานอ๋องโกรธ ช่วงเวลาเป็นตายที่องค์หญิงให้กำเนิดโอรสสวรรค์ โอรสสวรรค์คลอดออกมาแล้ว แต่องค์หญิงกลับสิ้นพระชนม์ เจ้าเค่อตรวจเจอพิษร้ายในน้ำแกงกล่อมประสาทที่นำมาให้หลังองค์หญิงคลอด อันที่จริงฮองเฮาได้ให้กำเนิดโอรสองค์โตอายุกว่าสิบเดือนแล้ว เจ้าเค่อกลับยังแต่งตั้งโอรสองค์ที่สองเป็นรัชทายาท ผิงหนานอ๋องบุกเข้ามาถึงวังเพื่อถามเจ้าเค่อ เจ้าเค่อกลับโยนถุงผ้าใส่พิษออกมา
ผิงหนานอ๋องไม่กลัว กลับกล่าวโทษเจ้าเค่อ ภาพเคลื่อนไปเร็วมาก ทำให้ไม่มีหนทางฟังออกว่าพวกเขาพูดอะไรกันบ้าง
จากนั้นผิงหนานอ๋องบุกเข้าวังหลัง พาฮองเฮาจากไป ไหนเลยจะรู้ว่าฮองเฮาได้ซ่อนกริชไว้ในแขนเสื้อนานแล้ว และสังหารตนเองที่หน้าตำหนักต่อหน้าสองคนนั้น โอรสองค์โตที่เพิ่งเดินได้เตาะแตะซบอยู่ข้างกายนาง กอดคอของนางไว้ไม่ยอมจาก…
สีแดงเลือดทำให้ภาพพร่าเลือน ภาพก็นิ่งเงียบไปเสียจนหายใจไม่ออก
มู่จิ่วกระบอกตาร้อนผ่าว
“ฮองเฮาต้องเป็นเฟยอีแน่ๆ!” นางพูด
“เพราะอะไร?” ลู่ยามองนางอยู่ตลอด
“เป็นความรู้สึกของผู้หญิง เฟยอีกระโดดแท่นประหารเซียนตามชิงผิงซิงจวิน ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลับไปเวียนว่ายตายเกิด แต่ความติดค้างในใจนางที่มีต่อชิงผิงไม่เลือนหายไป นางต้องคืนหนี้รักนี้จึงกลายเป็นน้องสาวของผิงหนานอ๋อง นางรักเจ้าเค่ออย่างลึกซึ้ง ผิงหนานอ๋องต้องการพานางไป นางจะยินยอมได้อย่างไร? เมื่อถูกบีบคั้นอยู่ระหว่างสามีกับพี่ชาย ดังนั้นนางจึงเลือกสังหารตนเอง”
ทั้งสองชาติภพนางไม่เคยมีความรักมาก่อน แต่ไม่รู้ทำไม นางสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของเฟยอี ทั้งความเจ็บปวดนั้น ความรู้สึกผิดนั้น และความกล้าที่ยินยอมทำลายตนเองเพื่อให้อีกฝ่ายสมประสงค์ แต่ทำไมชาติก่อนนางถึงได้จากชิงผิงไปเล่า?
เสียงในภาพเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ เปลี่ยนไปตามความเร็วของภาพ สิ่งที่พวกเขาสามารถได้ยินล้วนเป็นเพียงคำสั้นๆ ในความทรงจำของอู่เต๋อซิงจวินเท่านั้น นางมั่นใจว่าเฟยอีรักเขา และความทรงจำของอู่เต๋อที่ช้าและหนักแน่นที่สุดก็คือช่วงนี้ บางทีอาจจะแสดงว่าเขาก็มีใจต่อฮองเฮาเช่นเดียวกัน
อย่างไรพวกเขาก็เป็นคนรักในชาติก่อน อย่างไรฮองเฮาก็เหมือนเฟยอีกว่าองค์หญิง
“ที่แท้แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเฟยอีกับสามีในชาติก่อน? สามีของนางเป็นใคร?”
นางขมวดคิ้วมองพวกเขา
ราชาจิ้งจอกลูบเคราครุ่นคิดอยู่นาน พูดว่า “ผิงหนานอ๋องคนนี้ข้ารู้สึกเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน”
“จริงหรือ?” มู่จิ่วสดใสขึ้นมาทันที “เช่นนั้นท่านรีบคิดดู!”
ลู่ยาเลื่อนภาพไปอีก ทว่าไม่มีต่อไปแล้ว จึงย้อนกลับไปตอนที่ฮองเฮาสังหารตนเอง ใบหน้าของผิงหนานอ๋องพลันปรากฏอยู่ตรงหน้า
ราชาจิ้งจอกจ้องเขาอย่างละเอียด มองดูครู่หนึ่ง สายตาของเขาวูบไหวเล็กน้อย พลันหยิบหินโมราสีแดงขนาดเท่าเม็ดถั่วลันเตามาวางอยู่ระหว่างคิ้วของผิงหนานอ๋อง ดูครั้งนี้ ผิงหนานอ๋องที่แต่ก่อนดูแข็งแกร่งก็เพิ่มความเคร่งขรึมเข้าไปอีก ยิ่งเหมือนเทพเซียนที่น่าเกรงขาม!
“หลีหัง?!”
ราชาจิ้งจอกหลุดปากพูดออกมาสองคำ ไม่เปล่งเสียงออกมาอยู่นานเหมือนกับตนเองก็ตกใจไปเช่นกัน
“หลีหัง? หลีหังไหน?” มู่จิ่วไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตามที่นางรู้ ผู้บัญชาการหน่วยทหารที่เป็นศิษย์ของไท่ซ่างเหล่าจวินมีสมญานามว่าหลีหังเจินเหริน ก่อนหน้านี้ไม่นานหลิวจวิ้นยังตั้งใจหยิบยกเรื่องเขามาพูด!
ลู่ยาเป็นอาจารย์อาของไท่ซ่างเหล่าจวิน แต่ก็ไม่ได้รู้จักศิษย์ของเขาทุกคน ยิ่งไปกว่านั้นศิษย์ของพวกเขามีมาก หากจะจำได้ก็คงจำได้ไม่หมด เวลานี้ได้ยินมู่จิ่วพูดถึง เขาก็ขมวดคิ้ว “พูดให้ชัดเจน”
“คือหลีหังเจินเหรินศิษย์ของไท่ซ่างเหล่าจวิน!”
ราชาจิ้งจอกพูด “เป็นเขา! ตอนแรกข้ายังไม่มั่นใจ แต่ไฝแดงระหว่างคิ้วเขา ต้องเป็นเขาอย่างไม่ต้องสงสัย! ร่างเดิมของหลีหังคือกระเรียนเซียน หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นคนแล้วก้อนบนศีรษะกลายเป็นไฝสีแดงเม็ดหนึ่งอยู่ระหว่างคิ้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้าเพิ่งพบเขาที่งานเลี้ยงลูกท้อ ตอนนั้นรูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนคนผู้นี้ไม่มีผิด!”
มู่จิ่วอ้าปากกว้าง ความคิดที่ชัดเจนแต่เดิมพลันรวนเรไปเพราะเบาะแสนี้
หลีหังเจินเหรินคือผิงหนานอ๋อง แบบนั้นในความทรงจำของชิงผิงเขามีบทบาทอะไรกัน?
“หลีหังเป็นศิษย์ลัทธิฉ่าน สอดคล้องกับคดีนี้ เป็นไปได้ว่าเพราะการตายขององค์หญิงเจ้าเค่อจึงโกรธแค้นหลีหัง ดังนั้นจึงวางแผนนี้ไว้ ลากทั้งลัทธิฉ่านลงน้ำไปโดยไม่ลังเล แต่ตามที่อาจิ่วพูด เฟยอีคือฮองเฮาไม่ใช่องค์หญิงของแคว้นที่ล่มสลาย เช่นนั้นความโกรธแค้นของเจ้าเค่อก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ”
ลู่ยาเดินทีละก้าวตามฉากกั้นลมอย่างช้าๆ พลางพูด “หรือหลีหังจะเป็นสามีในชาติก่อนของเฟยอี หากมองในแง่ที่ว่าอู่เต๋อมีความยึดมั่นใจความรักแล้ว ก็จะสามารถอธิบายความเคียดแค้นของเขาได้ แต่หากหลีหังเป็นสามีของเฟยอีจริง ทำไมในชาตินี้ต้องส่งเฟยอีให้เจ้าเค่อ? เป็นเพราะสวรรค์ลิขิต หรือเป็นความตั้งใจของเขา?”
“พวกเขาเป็นพี่น้องกันนะ” มู่จิ่วรู้สึกหลงทาง
“ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกันก็ไม่จำเป็นต้องส่งเข้าวังไปแย่งชิงความโปรดปราน ยิ่งไปกว่านั้นดูจากความโกรธของผิงหนานอ๋องแล้ว เขาสนับสนุนน้องสาวของตนให้เป็นฮองเฮาไม่เหมือนกับเพื่อแย่งชิงอำนาจ มิฉะนั้นสุดท้ายเขาคงไม่ต้องพาฮองเฮาจากไป”