ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 159 จะถูกเปิดเผยแล้ว!
มู่จิ่วตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง
อวิ๋นซีพูดต่อ “ดังนั้นภายหลังตอนอวิ๋นเฉี่ยนจากไป เฉินผิงจึงอยู่ต่อ ราชินีจะทำอะไรกับเฉินผิง อ๋าวเจียงก็จะปกป้องจนราชินีไร้หนทาง แต่นิสัยของเฉินผิงดุร้ายมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งตีอ๋าวเจียงไป ดังนั้นจึงถูกส่งไปเป่ยอี๋ สุดท้ายก็โดนเจ้าสังหาร”
มู่จิ่วได้ยินท่อนแรกก็ทอดถอนใจอย่างไม่รู้ตัว เมื่อพลันได้ยินประโยคสุดท้ายก็อดไม่ได้ใจ กระตุกขึ้นมา!
เจ้าเด็กคนนี้ที่แท้ก็รู้ไม่น้อย กลับทายถูกว่านางเป็นคนสังหารเฉินผิง
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นคนสังหารเขา?” นางถาม
อวิ๋นซียิ้ม “เรื่องที่ก่อนหน้านี้อ๋าวเชินไปสวรรค์ไม่ใช่ข้าไม่รู้ อีกอย่างเขามีข้อความส่งมาที่ทิวเขาริ้วหยกบ่อยๆ เรื่องที่อวี้ตี้ส่งคนที่สังหารเฉินผิงมาเป็นพลอารักขาที่วังมังกรข้าก็ได้ยินมาบ้าง อีกอย่าง หลังเฉินผิงตายอ๋าวเจียงเศร้าอยู่นาน อ๋าวเชินจะไม่ส่งเจ้ามาที่นี่ก่อนเพื่อจัดการได้อย่างไร?”
มู่จิ่วใบหน้าสะบัดร้อนสะบัดหนาว อยากหาที่แทรกตัวเข้าไปใจจะขาดแล้ว
แต่เดิมนางเข้าใจว่านางจัดการเอาอยู่หมดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างกลับถูกควบคุมอยู่ในมือเขา!
คนแซ่อวิ๋นผู้นี้ แน่ชัดดังคาดว่าไม่ใช่คนที่น่าต่อกรด้วย มิน่า อ๋าวเจียงพลังบำเพ็ญสูงกว่ายังเพลี่ยงพล้ำในเงื้อมมือเขา
นางเหลือบมองเขาสองครา ถอยไปสองก้าวอย่างตื่นตัวเพื่อรักษาระยะที่ปลอดภัย
แบบนี้นางจึงจะมีเวลาจัดการที่มาที่ไป
ไม่สนว่าอ๋าวเจียงกับเฉินผิงสร้างมิตรภาพต่อกันอย่างไร และไม่สนว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอก ก่อนอื่นอย่างน้อยคำพูดของอวิ๋นซีก็สอดคล้องกับเหตุผล หากอ๋าวเจียงกับเฉินผิงความสัมพันธ์ไม่ดี ตอนเขารู้ว่านางเป็นคนสังหารเฉินผิง ทำไมถึงเปลี่ยนสีหน้าทันที? แท้จริงมีเพียงตอนเผชิญหน้ากับคู่แค้นที่สังหารพี่น้องที่รักใคร่เท่านั้นถึงจะแสดงออกมาได้
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้
หากคำพูดของอวิ๋นซีไม่ใช่เรื่องโกหก ของที่อ๋าวเจียงต้องการได้จากมือเขาคืออะไร? ที่สำคัญคือวิธีใช้ เขาจะเอาไปทำอะไร? จะเกี่ยวข้องกับเฉินผิงหรือไม่?
“เขาอยู่ที่ไหน?!”
ทางนี้กำลังครุ่นคิด นอกประตูกลับพลันมีเสียงโกรธแค้นราวฟ้าผ่าลอยเข้ามา ฟังอีกที กลับเป็นเสียงของอ๋าวเชิน!
เขามาได้อย่างไร? ไม่ใช่มีงานเลี้ยงครอบครัวหรือ?!
มู่จิ่วตกใจ ก้าวเท้าอย่างเร็วรี่ไปดูที่ริมหน้าต่าง เป็นเขาจริง! ไม่เพียงแต่เขาที่มา อ๋าวเยวี่ย อ๋าวเจียว และชายที่สวมเสื้อสูงศักดิ์หลายคนก็มาด้วยกัน! ผู้ที่เดินมากับเขาคือภรรยาผู้แต่งกายงดงาม ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าตระกูลอ๋าวมาทั้งหมด! สำคัญคืออ๋าวเจียงยังถูกอ๋าวเชินลากมาทางนี้ด้วย!
…เกิดเรื่องแล้ว?
อ๋าวเจียงเจ้าคนสมควรตาย บอกไปงานเลี้ยงครอบครัว ผลคือกลับถูกพ่อเขาขวางทาง จากนั้นก็มาขวางนางถึงที่นี่?! ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี?
นางหันหน้าไปดูอวิ๋นซีที่ยังไม่ขยับ…มิน่าล่ะ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาล้วนไม่ร้อนใจ ที่แท้เขารู้แต่แรกแล้วว่าอ๋าวเจียงหนีไม่พ้น แต่ข่าวนี้เล็ดลอดออกไปได้อย่างไร? …ไม่ นางยุ่งกับเรื่องมากมายขนาดนั้นไม่ไหวแล้ว นางต้องคิดหาทางหนีถึงจะถูก! มิฉะนั้นต้องหนีไม่พ้นถูกอ๋าวเจียงลากออกมาเป็นแพะรับบาปแน่!
มู่จิ่วกำลังจะหยิบชุดซ่อนเซียนออกมา พลันมีกลิ่นไม้กฤษณาที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในจมูก ต่อมาเอวนางถูกรัดไว้แน่น ถูกคนพาไปยังมุมห้องด้านในสุดอย่างเบาหวิวและมั่นคง!
“ลู่ยา!” นางจับแขนเสื้อเขาด้วยความดีใจ และอดไม่ได้กระโดดขึ้นมา ดียิ่งนัก เขามาแล้ว แม้แต่ชุดซ่อนเซียนนางก็ไม่ต้องดึงออกมาแล้ว!
ลู่ยายกนิ้วขึ้นส่งเสียงปรามแล้วชี้ออกไปที่ประตู จากนั้นอำพรางร่างกับนางอยู่ด้านข้าง
ประตูตำหนักถูกเปิดดังตึง
เหล่าผู้ติดตามจุดโคมเข้ามาตามลำดับ ไม่นานในห้องโถงก็สว่างดุจกลางวัน
“น้องสี่!”
ในกลุ่มคนพลันมีผู้หนึ่งถลันเข้าไปหาอวิ๋นซีอย่างโศกเศร้า ทั้งร่างสวมชุดแดงสว่างราวกับเปลวเพลิง นางเรียกน้องสี่ หรือนางจะเป็นอวิ๋นเฉี่ยนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอ๋าวเชิน?
อวิ๋นซีพูดอะไรกับนาง นางที่หันหลังให้แสงสว่างก้มศีรษะลง จึงมองไม่เห็นหน้าตา
มู่จิ่วอดไม่ได้ มองไปยังพวกของอ๋าวเชินเหล่านี้ เห็นเพียงสายตาอ๋าวเชินมองอยู่ที่หญิงชุดแดงตลอดเวลา ความกังวลในสายตาเกือบส่งเสียงมาแล้ว ส่วนบนหน้าราชินีมังกรแม้จะนิ่งสงบ แต่ในสายตาที่มองอ๋าวเชินกลับเต็มไปด้วยความโกรธและไม่ยินยอม เหล่าลูกชายลูกสาวมังกรหลายคนไม่ได้พูด แต่ความสนใจกลับอยู่บนร่างของพวกเขาทั้งสามมาตั้งแต่ต้น
มีเพียงอ๋าวเจียงผู้หวาดกลัวอยู่ภายใต้มือของบริวารอ๋าวเชินที่มองไปรอบด้าน ไม่รู้กำลังหาอะไร
มีภรรยาของอ๋าวเชินอยู่ด้วย ฐานะของหญิงชุดแดงคนนี้ถูกเปิดเผยแล้ว
“องค์ราชา ท่านคงไม่ออกหน้าแทนข้า?” อวิ๋นเฉี่ยนยืนขึ้นมา ปาดน้ำตาเดินไปตรงหน้าอ๋าวเชิน “อวิ๋นซีทำผิดอะไร คราวก่อนถูกอ๋าวเจียงทำร้ายจนกลายเป็นแบบนั้น นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน กลับถูกเขาหลอกลงเขาลักพากลับมา? ลูกชายของพวกเราตายแล้ว หรือว่าท่านยังอยากให้อวิ๋นซีสิ้นชีพเพราะข้าอีก?”
สายตาของอ๋าวเชินตกลงบนหน้านาง ละอายใจอย่างล้ำลึก และอดไม่ได้พูดออกมา “อาเฉี่ยน…”
มู่จิ่วหันไปถามลู่ยา “นี่เกิดอะไรขึ้น?”
ลู่ยาพูด “ในคืนนี้วังมังกรมีงานเลี้ยงครอบครัว ครึ่งทางอวิ๋นเฉี่ยนพลันพุ่งเข้ามาในวังมังกร ฟ้องว่าอ๋าวเจียงลักพาอวิ๋นคนที่สี่ไป ราชินีมังกรโกรธกริ้วมาก ตอนทะเลาะกันอวิ๋นเฉี่ยนหยิบหลักฐานขึ้นมา อ๋าวเจียงถูกกดดันจนต้องยอมรับผิด ดังนั้นจึงพาคนมา เพราะข้าได้ยินเรื่องนี้เลยเดาว่าต้องพัวพันถึงเจ้า จึงตามมาด้วย”
เขาพูดพลางบีบมือนาง จากนั้นมองไปในห้องอย่างสนใจ
มู่จิ่วใบหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย ลองชักมือกลับมา แต่เขากลับบีบแน่นยิ่งขึ้น จึงล้มเลิกไปแล้ว
อ๋าวเชินปลอบอวิ๋นเฉี่ยนสองประโยค อวิ๋นเฉี่ยนค่อยๆ ถอยสองก้าวไปยืนอยู่ด้านข้าง
นางเป็นหญิงที่มีความงามข่มผู้คนจริงๆ ไม่สามารถพูดได้ว่าสาว แต่ก็ไม่มีคนพูดว่านางแก่ได้แน่นอน นางเหมือนกับอิงเถา (เชอรี่) นิ่มที่สุกแล้ว เหมือนกุหลาบที่บานเต็มที่ ริมฝีปากอิ่มพอเหมาะพอเจาะ ดวงตาหากอ่อนโยนมากไปส่วนหนึ่งเรียกว่ามากไป น้อยลงส่วนหนึ่งก็น้อยไป ทั้งหมดเป็นการจัดวางที่งดงามที่สุด
ผู้หญิงแบบนี้ มิน่าล่ะ แม้แต่ราชินีมังกรผู้สูงศักดิ์งดงามยังดิ้นรนเอาชนะไม่ได้ ราชินีให้กำเนิดบุตรธิดายิ่งมาก ในสายตาของผู้ชายแล้ว บางทียังเทียบไม่ได้กับสายตาเดียวอันบาดคมของอวิ๋นเฉี่ยน สามารถทำให้เขาวางอาวุธยอมจำนนในพริบตาเดียว
มีคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อปล่อยอวิ๋นซี พยุงเขาขึ้นนั่ง
อ๋าวเชินพูด “กัวมู่จิ่วล่ะ!”
มู่จิ่วใจกระตุก เจ้าคนเลวผู้นี้ไม่ลืมลากนางไปด้วย!
“รีบพูด!” อ๋าวเชินผลักอ๋าวเจียงให้คุกเข่าลงกับพื้น
อ๋าวเจียงก้มศีรษะลงกับพื้น ก่อนพูด “ข้า ข้าให้นางไปทำธุระ”
มู่จิ่วพลันนิ่งอึ้ง เจ้าคนนี้กลับยังช่วยนางแก้ตัว?
“เป็นไปได้อย่างไร?” อวิ๋นเฉี่ยนเอ่ย “เมื่อครู่ทหารข้างนอกยังบอกว่านางอยู่ในห้องนี้! เจ้าคนนี้สังหารเฉินผิงของพวกเรา ตอนนี้ยังทำให้พระบัญชาของอวี้ตี้เป็นงิ้วฉากหนึ่งอีกหรือ!”
“ข้าพูดว่าไม่มีก็ไม่มี! เรื่องนี้ข้าเป็นคนทำทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับนาง!” อ๋าวเจียงจ้องนางอย่างไม่สบอารมณ์
……………………………………………………………