ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 171 ฝังอะไรไว้?
“เหยี่ยวพิษปลอมเป็นองค์หญิง?!”
มู่จิ่วงุนงงเล็กน้อย เหยี่ยวพิษเป็นสัตว์ร้ายที่มีชื่อในโบราณกาล ลู่ยาไม่พูดโกหกแน่นอน หมายความว่าอ๋าวเยวี่ยที่พัวพันกับลู่ยาตลอดก่อนหน้านี้เป็นตัวปลอม? นางปลอมตัวเป็นอ๋าวเยวี่ยมาใกล้ชิดกับเขาเพื่อเอาของที่อยู่ใต้โบตั๋นม่วงนี้?
…ใต้โบตั๋นม่วงนี้กลับฝังของมีค่าไว้? อ๋าวเชินที่มาชมดอกไม้บ่อยๆ แท้จริงแล้วมีเป้าหมาย?
และเจ้าเหยี่ยวพิษนี้มาจากไหน?
ประโยคสั้นๆ หลายประโยคนี้มีปริมาณข้อมูลมาก นางไม่อาจไม่แยกแยะสักหลายรอบ
“ไม่ผิด” ลู่ยาพยักหน้า ก่อนมองอ๋าวเชิน “ตอนข้าคิดจะไปรายงานราชินีกับเหล่าองค์ชาย ก็เจอราชามังกรกับพวกเจ้ากลับมาพอดี ชัดเจนว่าราชามังกรรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ข้ากลับอยากรู้นักว่าที่จริงราชาฝังอะไรไว้ใต้โบตั๋นม่วง?”
อ๋าวเชินหมุนตัวโดยพลัน เบิกตาจนกลมมองเขา “เป็นเจ้าให้นางเข้ามา? เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า!”
หลังจากพูดจบ แรงกดดันที่สามารถเปรียบได้กับวาตภัยรวมขึ้นจากร่างเขาอีกครั้ง จากนั้นพริบตาเดียวก็ก่อเป็นคลื่นแรง มุ่งเข้าโจมตีอกลู่ยา! ลู่ยาไม่ได้ขยับมาก เพียงจับใบไม้ที่ลอยมากลางอากาศ ยื่นมือไปข้างหน้า คลื่นนั้นเหมือนกับน้ำท่วมใหญ่ที่กระเพื่อมชนเข้ากับเขื่อนอันแข็งแกร่ง ตลบกลับไปอย่างรวดเร็ว!
อ๋าวเชินถูกกระแทกลอยไปไกลถึงสองจั้ง ล้มกลิ้งอยู่หลายรอบถึงค่อยหยุด
“เจ้า…”
เขาลุกขึ้นมาชี้ลู่ยาอย่างรวดเร็ว สีหน้าไม่รู้ว่าโกรธหรือตกใจ
ลู่ยาเดินไปข้างหน้าสองก้าว สีหน้าไม่เปลี่ยนใจไม่เต้น พูดว่า “ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้าอยากผลักความรับผิดชอบมาให้ข้า จากนั้นค่อยเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะนี่คือลูกไม้ที่เจ้าใช้บ่อย แต่ข้าจะบอกเจ้าให้ว่ามันไม่มีประโยชน์ เหยี่ยวพิษนี้พลังบำเพ็ญเพียงแค่แปดหมื่นปี ในเมื่อสามารถปกปิดเจ้าเข้ามาในวังมังกรได้ ปลอมเป็นอ๋าวเยวี่ยได้ ต้องยืมกำลังของคนที่แข็งแกร่งกว่าแน่”
“ข้าสนใจอยากรู้อย่างมาก ด้านใต้นี้ฝังอะไรไว้ ยังมีอีก ใครอยู่เบื้องหลังเหยี่ยวพิษนี้?”
ใบหน้าอ๋าวเชินที่ตกใจและโกรธเปลี่ยนรูปไปเล็กน้อย “เจ้าบอกข้าก่อนว่าเจ้าเป็นใคร!”
“เจ้าไม่ต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร” ลู่ยามองน้ำเต้าหยกใบน้อยในมือ “แต่หากเจ้าไม่ยินยอมบอกความจริงออกมา ข้าก็ไม่อาจบังคับเจ้าได้ เพียงแต่เจ้าต้องเขียนหนังสือส่งให้สวรรค์ทันที ขอยกเลิกคำสั่งที่ให้มู่จิ่วทำงานอยู่วังมังกรก่อนกำหนด เพียงแค่พวกเรากลับถึงหน่วยลาดตระเวน วังมังกรของพวกเจ้าเกิดเรื่องใหญ่อะไร ข้าก็ไม่สนใจอีก”
มู่จิ่วนิ่งอึ้งไปทันที ลู่ยากำลังหาโอกาสยกเลิกหน้าที่ก่อนกำหนดมาให้นาง?
ใจนางตื่นเต้น แทบกระอักเลือดออกมา!
ส่วนอ๋าวเชินแม้แต่ฟันก็เกือบจะบดจนละเอียดแล้ว “เจ้ากล้ายื่นเงื่อนไขกับข้า ไม่กลัวข้าทูลฟ้องสวรรค์หรือ?!”
“แน่นอนว่าไม่กลัว พวกเราไม่ได้ผิดกฎวังมังกรของเจ้า และอีกอย่าง…” ลู่ยายิ้มก่อนพูด “ข้าก็ไม่ได้บังคับให้ราชามังกรรับปากว่าต้องส่งพวกเรากลับไป ข้าเพียงแต่พบคดีหนึ่งตอนเข้าเวรทำงาน จึงถามที่มาที่ไปกับราชามังกรเท่านั้น หากราชามังกรโทษกันแม้แต่เรื่องนี้ พวกเราก็สามารถขอให้อวี้ตี้มอบความเป็นธรรมให้ได้มิใช่หรือ?”
ไม่รู้ทำไมสีหน้าอ๋าวเชินค่อนข้างซีดขาว
“ท่านพ่อ!”
ตอนนี้เอง นอกประตูมีกลุ่มคนเข้ามา เป็นเหล่าองค์ชายองค์หญิงในวังมังกร อ๋าวเจียวเดินก้าวเร็วมาถึงตรงหน้าอ๋าวเชิน ขมวดคิ้วมองท่าทางของเขา สีหน้าก็ซีดขาวเช่นกัน เรื่องระหว่างพ่อแม่นางที่เป็นลูกสาวไม่เหมาะจะวิจารณ์อะไร ทว่าเขาในความทรงจำแต่ไหนแต่ไรล้วนเป็นราชาที่สง่างามยิ่งใหญ่ ตอนนี้ที่เห็นกลับมีอาการขวัญหนีดีฝ่ออยู่หลายส่วน!
“นี่เกิดอะไรขึ้น?” นางอดถามไม่ได้
อ๋าวเชินไม่สนใจนางแม้แต่น้อย เพียงจ้องลู่ยาแน่นิ่ง “เหยี่ยวพิษนั่นล่ะ? นางอยู่ไหน?”
ลู่ยาเขย่าน้ำเต้าในมือ “อยู่นี่ แต่ถึงเจ้าได้นางไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร นางเลือกจะผนึกตนเอง แน่นอนว่าต้องไม่คิดให้พวกเจ้างัดอะไรออกจากปากนางได้ ข้ารู้สึกว่าในใจเจ้าต้องรู้ โบตั๋นนี้ปลูกมาพันกว่าปี สิ่งของด้านใต้เจ้าคงจะซ่อนไว้มากกว่าพันปีเช่นกัน ในพันปีนี้ล้วนไม่มีเรื่อง กลับมาเกิดเรื่องตอนนี้ เจ้าควรคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใครถึงจะถูก”
“นอกจากตระกูลอวิ๋นแล้ว ยังจะมีใครได้อีก?!”
ตอนนี้เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอ้างว้างดังขึ้น หากมู่จิ่วไม่เห็นอ๋าวเชินเปิดปากเอง ต้องเข้าใจว่าเป็นอ๋าวเจียงกำลังคาดเดาอยู่ แต่คราวนี้อ๋าวเจียงไม่เพียงไม่พูด แม้แต่เท้ายังไม่ก้าวออกมา
“ข้าควรรู้แผนร้ายนี้แต่แรก ตั้งแต่ตอนที่นางมาถึงประตู บอกว่าอ๋าวเจียงลักพาตัวอวิ๋นซี ควรรู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ” อ๋าวเชินก้มหน้ากดระหว่างคิ้ว เสียงค่อนข้างแหบห้าว “อวิ๋นซีเคยเป็นศิษย์ของเซ่าเฮ่า[1]มาก่อน ถึงแม้พลังบำเพ็ญจะไม่สูงเท่าอ๋าวเจียง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้เขาไม่ได้ อวิ๋นซีถูกจับ ในความจริงแล้วเป็นแค่ข้ออ้างให้อวิ๋นเฉี่ยนมาหาเท่านั้น”
ถึงแม้เขาพูดอย่างหนักแน่นเชื่องช้า กลับขบเคี้ยวเขี่ยวฟัน
“ตระกูลอวิ๋น?” มู่จิ่วมองเขาอย่างงุนงง คิดไม่ถึงว่าแม้แต่เขายังพูดว่าเป็นตระกูลอวิ๋น!
ถึงแม้ตั้งแต่เมื่อวาน นางรู้สึกเหมือนกันว่าตระกูลอวิ๋นมีปัญหาไม่ผิดแน่ แต่นางกลับไม่นึกเลยว่าอ๋าวเชินที่ตัวติดกับอวิ๋นเฉี่ยนเป็นตังเม ดึงก็ดึงไม่ออก จะลากพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องตอนนี้ด้วย เขามิใช่ปกป้องตระกูลอวิ๋นมาตลอดหรือ? เพื่ออวิ๋นเฉี่ยนแล้วไม่สนใจเกียรติของราชินีมังกร เพื่อให้ได้ความรักหญิงงามแล้วเข้มงวดกับอ๋าวเจียง?
แต่ตระกูลอวิ๋น…
สมองของนางพลันมีแสงส่องมา ก่อนเปิดปากพูด “หรือในนี้จะฝังกุญแจจันทราไว้?!”
เพียงเอ่ยคำว่ากุญแจจันทราออกมา คนตรงนี้พลันชะงัก อ๋าวเจียงพุ่งออกมาก่อน “จะเป็นกุญแจจันทราได้อย่างไร? กุญแจจันทราให้ตระกูลอวิ๋นไปนานแล้ว เหตุใดจะอยู่ที่วังมังกรได้?”
มู่จิ่วมองอ๋าวเชินแล้วพูด “ต้องดูว่าราชามังกรจะอธิบายอย่างไรแล้ว ในเมื่อแม้แต่เขายังมั่นใจขนาดนั้นว่าตระกูลอวิ๋นเป็นคนทำ แต่ดูจากสภาพการณ์ตอนนี้ของอวิ๋นรองแล้ว สิ่งที่ตระกูลอวิ๋นมาเอา หากไม่ใช่กุญแจจันทราจะเป็นอะไร?”
แต่เดิมนางเพียงไม่เข้าใจเรื่องที่อวิ๋นเฉี่ยนพัวพันอยู่กับอ๋าวเชิน ตอนนี้ได้ยินอ๋าวเชินพูดแบบนี้ นางก็กระจ่างแล้ว
อวิ๋นเฉี่ยนมีใจต่ออ๋าวเชินหรือไม่มู่จิ่วไม่กล้าพูด แต่นอกจากเรื่องความรู้สึกแล้ว นางต้องมีเป้าหมายอื่นกับเขาแน่ ไม่อย่างนั้นแล้วต่อหน้าเขานางคงไม่ทุ่มเทให้ได้รับความรัก แต่เมื่อนานไปกลับเย็นชา มองไม่เห็นร่องรอยแม้แต่น้อย ของที่นางอยากได้จากอ๋าวเชินคือสิ่งที่อยู่ใต้โบตั๋นม่วง และสิ่งของชิ้นนี้ นอกจากกุญแจจันทราแล้วยังจะเป็นอะไรได้อีก?
ตอนนี้คำพูดนี้ของราชามังกรกำลังยืนยันการคาดเดาของนางอย่างชัดเจน อวิ๋นเฉี่ยนเข้าใกล้เขา เข้าใกล้วังมังกร รวมถึงให้กำเนิดเฉินผิง ล้วนเป็นไปได้ว่าเป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้า!
“ท่านพ่อ! ใต้โบตั๋นนี้เป็นกุญแจจันทราจริงหรือ?!”
อ๋าวเจียงมองอ๋าวเชินอย่างไม่อาจเชื่อ สีหน้าสับสนนัก มีความตกใจและสงสัย ไม่เข้าใจและก็ไม่คุ้นเคย
“ไม่ผิด” อ๋าวเชินก้มลงน้อยๆ มองส่วนรากของโบตั๋นม่วง น้ำเสียงหดหู่อยู่บ้าง “สิ่งที่พวกเขาอยากได้ ตลอดมาคือกุญแจจันทราของข้า ข้าไม่ใช่ไม่รู้ พื้นเพของอวิ๋นเฉี่ยนนั้นดี หน้าตางดงาม คนเกี้ยวพาไม่รู้ต่อแถวยาวกี่ร้อยลี้ นางชอบข้าเท่านั้น ทั้งยังให้กำเนิดเฉินผิงเพื่อข้า แต่ไหนแต่ไรข้าก็ไม่เคยคิดว่าเป็นเพราะนางมีใจให้ข้าจริง”
………………………………………………………