ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 56
จิ้งจอกรีบหลบไป จากนั้นสะบัดหางด้านหลังออกมา ทันใดนั้นทั่วทั้งผืนฟ้าก็เห็นเพียงสีแดงเพลิง หางทั้งเก้าของจิ้งจอกพลันบดบังท้องฟ้า มุ่งโจมตีมาทางหลินเจี้ยนหรูเหมือนกระบี่อ่อนเก้าด้าม…นางเป็นจิ้งจอกเก้าหางนี่เอง!
จิ้งจอกเก้าหางอาศัยอยู่ที่ชิงชิว ไม่รู้ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้? เพราะเป็นหนึ่งในสิบสัตว์เทพ พลังของจิ้งจอกเก้าหางจึงไม่อาจดูแคลน จิ้งจอกตัวนี้ดูแล้วอายุไม่มากนัก แต่หางทั้งเก้ากลับร้ายกาจยิ่ง ทุกท่วงท่ามุ่งโจมตีจุดสำคัญ ช่างทำให้คนรับมือได้ยากจริงๆ หลินเจี้ยนหรูโกรธที่ถูกลอบทำร้าย ดังนั้นเมื่อลงมือจึงใช้แรงทั้งหมด แต่ถึงแม้จะทำแบบนั้นก็ยังไม่อาจเหนือกว่าได้เลย
และจิ้งจอกเก้าหางนี่หลักแหลมนัก เขายิ่งอยากเอาชนะ นางก็ยิ่งไม่รีบร้อนต่อสู้ เพียงแค่อาศัยต้นไม้เป็นที่กำบังเท่านั้น
มู่จิ่วเห็นสถานการณ์แล้วก็ชักกระบี่ออกมาประจันหน้า ถึงแม้พลังของนางจะถูกผนึกไว้ แต่กระบวนท่ายังใช้ได้ดี ลงมือไปครั้งนี้ จิ้งจอกเก้าหางขมวดคิ้วเล็กน้อย “คนที่ข้าต้องการฆ่าคือศิษย์ลัทธิฉ่าน เจ้าไม่ใช่คนของพวกเขาสักหน่อย ขึ้นมาทำอะไร!” พูดจบหางหนึ่งก็กวาดมาทางหน้านาง ไล่กวดจนนางต้องถอยหลังไปหลายก้าว
ลัทธิฉ่าน?
มู่จิ่วอึ้งไปครู่ก่อนยืนขึ้น มองรอบตัวไม่มีแม้รอยขีดข่วน จึงรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายลงมืออย่างปราณี
นางเดินเข้าไปส่งเสียงถาม “เจ้ากับลัทธิฉ่านมีความแค้นอันใดต่อกัน?”
จิ้งจอกเก้าหางไม่สนใจนาง เอาแต่ไล่กวดหลินเจี้ยนหรูเล่น
หลินเจี้ยนหรูกินดอกบัวกลีบม่วงเข้าไป พลังจึงแก่กล้าขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ยังไม่นึกกลัวนาง แต่ไม่นานก็รู้สึกว่าออกจะเอาไม่อยู่ เขาเร่งรีบจะปราบให้สำเร็จเพราะไม่อยากโดนแหย่เล่นแล้ว ถึงแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่มองไปแล้วกลับกลายเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือของจิ้งจอกเก้าหาง
มู่จิ่วพุ่งเข้าไปอีก ร่ายแหสวรรค์ตาข่ายกระบี่ออกมาห่อตัวหลินเจี้ยนหรูกับนางไว้จนกลายเป็นพลังกลุ่มหนึ่ง หลายปีมานี้นางทุ่มเทกับการฝึกวิชากระบี่ วิชาที่กล้าแกร่งที่สุดก็คือแหสวรรค์ตาข่ายกระบี่นี้ เมื่อค่ายกลกระบี่ปรากฏสู่โลกภายนอกก็เหมือนกับคลื่นแม่น้ำมหาสมุทรกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด จิ้งจอกเก้าหางลองโจมตีดูหลายครั้งก็ไม่เกิดผล จึงถอยกลับไปยืนนิ่ง พูดอย่างโกรธขึ้งว่า “เจ้ามายุ่งเรื่องนี้ทำไม?!”
มู่จิ่วพูด “ข้าแค่อยากรู้ว่าเขาไปล่วงเกินอะไรเจ้า?”
แน่นอนว่าคนของลัทธิฉ่านไปล่วงเกินผู้อื่นมามากเหลือเกิน นางก็นับเป็นหนึ่งในนั้น แต่อย่างไรก็ไม่ถึงกับเจอศิษย์ลัทธิฉ่านคนหนึ่งก็เข้าไปฆ่าทันทีหรอก?
จิ้งจอกเก้าหางเค้นเสียงก่อนตอบ “ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“เจ้าต้องการฆ่าเขาก็ย่อมเกี่ยวกับข้า” มู่จิ่วตอบกลับ “พวกเราต่างก็เป็นคนของทัพทหารสวรรค์ หากเจ้าฆ่าเขา สวรรค์ย่อมต้องไม่ปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าเจ้าพูดออกมา ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะช่วยอะไรเจ้าได้”
“พวกเจ้า?” จิ้งจอกเก้าหางแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง สะบัดแขนเสื้อกว้างไปเบื้องหน้า เหลือบมองนางพลางพูด “ช่างขี้โม้โอ้อวดนัก พวกเจ้าคนหนึ่งอยู่ขั้นหยวนอิง คนหนึ่งอยู่ขั้นจู้จี เกรงว่าแม้แต่ปีศาจอายุพันปีก็ไร้ทางต่อกรแล้ว กลับกล้าคุยโวว่าจะช่วยเหลือข้า ขอบใจล่ะ!” นางกวาดดวงตาหงส์มอง ท่าทางชดช้อยแบบนี้ช่างทำให้คนลุ่มหลงนัก
มู่จิ่วอับจนหนทาง พูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างไร?”
“ทิ้งเขาไว้” จิ้งจอกเก้าหางยื่นมือกางเล็บสีแดงสดออกมา ชี้ไปทางหลินเจี้ยนหรูด้วยกริยาอ่อนช้อยราวกับไร้กระดูก
“ไม่ได้!” มู่จิ่วตัดบท
จิ้งจอกเก้าหางมองนางขึ้นๆ ลงๆ “ทำไมเจ้าต้องช่วยเขาขนาดนี้? หรือเขาจะเป็นยอดดวงใจของเจ้า?”
มู่จิ่วเกือบจะหัวทิ่มลงไป “เขาเป็นสหายร่วมงานของข้า!”
“อ้อ” จิ้งจอกเก้าหางยังคงเหลือบมองนาง เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ ทันใดนั้นก็แหงนหน้าขึ้นหัวเราะคิกคัก “ข้ามู่หรงหลิวเย่ อยู่มาสามหมื่นปียังไม่เคยเจอคนที่โง่ขนาดนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องของนางชัดๆ ยังเอาตัวเข้ามาพัวพันอีก ดูไปแล้วหากข้าไม่จัดการเจ้าเสียหน่อย เจ้าคงไม่ได้รับบทเรียน”
ขณะพูดไปสายตาของนางก็เย็นเยียบขึ้น เหมือนน้ำแข็งจ้องมายังมู่จิ่ว
หลินเจี้ยนหรูเห็นสถานการณ์แล้วก็ดึงมู่จิ่วไปไว้ข้างหลัง กดเสียงต่ำพูด “หากเจ้าต้องการฆ่าก็มาลงที่ข้า อย่าทำร้ายนาง!”
“เจ้ารีบร้อนอะไรนักหนา?” จิ้งจอกเก้าหางพูดอย่างเกียจคร้าน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยพลางเดินรอบตัวพวกเขา “ตอนแรกข้าคิดจะพาเจ้าไปคนเดียว แต่ในเมื่อนางอยากไปตายเป็นเพื่อนเจ้าขนาดนี้ ข้าก็ทำได้เพียงให้นางสมใจปรารถนา ข้าจะให้พวกเจ้าไปอยู่เป็นคู่นกหยวนยาง[1]ด้วยกันในปรโลก พวกเจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าแล้วกัน”
พูดจบก็ไม่ให้โอกาสพวกเขาตอบกลับ นางพลันยกมือขึ้นมารวมพลังลมปราณ ทันใดนั้นหางจิ้งจอกก็พลันยาวขึ้น ก่อนพุ่งเข้าหาพวกเขาทั้งสองเหมือนสะพานโค้ง
มู่จิ่วเตรียมพร้อมอยู่ตลอด สายตาเห็นหางจิ้งจอกยาวเหยียดตามมาด้วยลมปราณแข็งกล้าขนาดล้มภูเขาพลิกทะเล และเกือบเวลาเดียวกันนางก็ฟาดฟันกระบี่ออกไป
แต่คราวนี้ฝั่งตรงข้ามมีใจยึดมั่นว่าต้องชนะ แต่ละกระบวนท่าต่างก็ไม่ออมแรงให้ หากมู่จิ่วไม่โดนผนึกพลังไว้คงยังพอสามารถรับมือได้ ทว่าวันนี้เป็นเพียงแค่หยวนอิงจึงหมดหนทาง พลังถูกจำกัดไว้ แม้มีกระบวนท่าแต่กลับไม่มีแรงจะสำแดงออกไป
นางไร้กำลัง หลินเจี้ยนหรูยิ่งจนปัญญา กระบวนท่าที่ร่ายรำออกไปราวกับวัวปั้นด้วยดินลงไปในมหาสมุทร ไม่มีผลอะไรเลย
มู่จิ่วค่อนข้างร้อนใจ หากจิ้งจอกเก้าหางต้องการฆ่ากันจริง เช่นนั้นอย่างไรนางก็คงปกป้องเขาไม่ไหว ในภูเขากันดารแห่งนี้ก็ไม่มีใครมาช่วย หรือวันนี้มีแต่ต้องปล่อยให้อีกฝ่ายทำสำเร็จแล้วจริงๆ?
“โฮกกก…”
ขณะกำลังกังวลอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคำรามกราดเกรี้ยวสะเทือนแก้วหูดังขึ้น ยังไม่ทันได้ตอบสนอง เงาร่างสีขาวร่างหนึ่งก็กระโดดออกมาจากตัวนาง กลายร่างเป็นเสือทรงพลังขนาดสามจั้ง พุ่งเข้าไปยังหางของจิ้งจอก กัดเอาหางที่มุ่งมาทางมู่จิ่วจนจมเขี้ยว!
พลังลมปราณที่โอบล้อมรอบกายพลันถอยออกไป เหลือเพียงเสือหนึ่งตัวกำลังโรมรันกับจิ้งจอกกลางอากาศ
“อาฝู!”
มู่จิ่วตกใจจนเบิกตาโต!
นางกลับลืมไปว่าลู่ยาให้พาเขาออกมาด้วย!
แต่สิ่งที่ทำให้นางนึกไม่ถึงคือ เสือน้อยน่ารักที่ปกติคอยเกาะแกะนางกับมู่เสี่ยวซิงเพื่อขอเนื้อกิน กลับระเบิดพลังออกมาได้ทรงอานุภาพขนาดนี้ เขาที่กัดหางต่อสู้จิ้งจอกเหมือนกับทหารกล้าบุกทะลวงข้าศึกกลางฟ้า ไม่เพียงแต่ไม่เกรงกลัว แต่ยังมีกลยุทธ์กระบวนท่า ไหนเลยจะยังเป็นเสือเร่ร่อนที่ถูกคนเขาไล่ล่าจนจนมุมอย่างตอนนั้นอีก?
นี่ฝึกฝนอยู่เพียงสองเดือน ลู่ยากลับฝึกเขาได้ร้ายกาจขนาดนี้?
หรือว่าจะเป็นพลังแฝงจากเผ่าพันธุ์เทพสงคราม?
“เสือขาว?”
จิ้งจอกเก้าหางเห็นคู่ประมืออย่างชัดเจนแล้วก็สะดุ้งไป จากนั้นเก็บพลังกลับเข้ามา “ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับพวกเขาได้?”
จิ้งจอกเก้าหางข้างกายหนี่ว์วาก็มาจากชิงชิว นางกับป๋ายเจ๋อ เถิงเส๋อ เสือขาว เสวียนอู (เต่างูดำ) และอื่นๆ เผ่าพันธุ์สิบสัตว์เทพต่างก็เป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกันมานับหมื่นหมื่นปี แน่นอนว่ารุ่นลูกหลานต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีมารุ่นต่อรุ่น เห็นเสือขาวปกป้องมู่จิ่ว นางก็ไม่อาจไม่เก็บพลังกลับคืนมา
อาฝูร้อง ‘โฮก’ ครั้งหนึ่งก็ไม่สนใจนางอีก พลันกลับร่างเป็นเสือขาวน้อยขนาดสองฉื่อ หมอบออดอ้อนอยู่ที่เท้ามู่จิ่ว
ท่าทางเกียจคร้านนั้นราวกับบอกจิ้งจอกเก้าหางว่า นี่คือคนที่เขาต้องการปกป้อง ไม่ว่าใครก็มิอาจทำร้ายนางได้
มู่จิ่วลูบศีรษะเขาอย่างดีอกดีใจ จากนั้นก็อุ้มขึ้นมาหอมหนึ่งที ก่อนมองจิ้งจอกเก้าหาง “เจ้าคิดจะรามือหรือยัง?”
“เจ้าเป็นใคร?” จิ้งจอกเก้าหางจ้องนาง “ทำไมถึงควบคุมเสือขาวได้?”
………………………………………………