ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - บทที่ 365 ฆ่าให้หมด
“หลินเจี้ยนหรู!”
มู่จิ่วที่ยืนอยู่ตรงปากประตูลานบ้านเห็นเหตุการณ์ มือเท้าก็พลันเย็นเฉียบ
นางไม่เคยเห็นภาพที่โหดร้ายเช่นนี้ และเขาที่เย็นชาเช่นนี้มาก่อน!
เขากลายเป็นมารที่บ้าคลั่งไปแล้ว?!
กระบี่ยาวในมือสั่นเทา เลือดสีแดงฉานแต่ละหยดกระตุ้นดวงตาทั้งคู่ของนาง!
“เจ้าคิดจะฆ่าคนทั้งหมดหรือ?”
นางลอยตัวขึ้นไป ความโกรธทำให้นางดูไม่เหมือนเดิม นางไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะบานปลายเช่นนี้ เขาเพียงได้พลังของชายชุดเขียวมาเท่านั้น ตอนนี้กลับจะเป็นศัตรูกับทุกคน?!
นางไม่สามารถห้ามได้หากเขาคิดจะล้างแค้น แต่นางที่เป็นทหารสวรรค์อยู่ที่นี่ จะยอมให้เขาทำตามอำเภอใจได้อย่างไร? เดิมทียังมีทางแก้ปัญหาที่ดีกว่า ตอนนี้เขากลับบีบตัวเองเข้าสู่หนทางแห่งความตาย!
“เจ้าไม่ต้องยุ่งกับข้า!” หลินเจี้ยนหรูกัดฟันตะโกนด้วยความโกรธ
เดิมทีเขาไม่โกรธเกรี้ยวอะไร แต่คำว่าสัตว์เดรัจฉานจากปากจีเทียนอวี้ได้ทำให้ไฟโกรธปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!
เขาคิดไปว่าหลังจากกำจัดจีหมิ่นจวินแล้ว พวกนี้จะแข้งขาอ่อนนอบน้อมอยู่ใต้เท้าเขา! คิดว่านับแต่บัดนี้พวกมันจะกลับมามองเทิดทูนเขาเหมือนกับสุนัขตัวหนึ่ง! ดังนั้นเขาจึงจงใจเผื่อเวลาไว้มากขนาดนั้นให้จีเทียนอวี้ เขาคิดว่าหากจีเทียนอวี้คุกเข่าลงขอร้องเขา ก็อาจจะปล่อยไปได้เหมือนกับที่ปล่อยหูเจียงเต๋อ
แต่จีเทียนอวี้ไม่ได้ทำ กลับยังด่าเขาว่าสัตว์เดรัจฉานแม้วินาทีสุดท้ายที่เผชิญหน้ากับความตาย!
การเกิดเป็นลูกนอกสมรสคือความผิดของเขาหรือ?
ไม่ใช่!
เขาไม่ได้คิดจะมาเกิดในท้องนางชิวเสียหน่อย!
เขาไม่ได้คิดจะเกิดมาเป็นลูกชายของหลินเซี่ย!
ทั้งหมดนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาเลือก แต่ทำไมเขาถึงเปลี่ยนมันไม่ได้ ไม่มีหนทางทำให้พวกเขารามือ ไม่มีหนทางให้เขาล้างความอัปยศอดสูที่เคยได้รับมา!
“เจ้าโทษข้าไม่ได้!” เขาส่ายหน้า หยิบยาห้ามเลือดขึ้นมากิน กัดฟันถอยหลังไปสองก้าวก่อนเอ่ยว่า “ไม่ใช่ว่าข้าอยากให้เป็นแบบนี้ แต่เป็นเพราะโลกนี้ไม่เคยมอบหนทางดำเนินชีวิตให้ข้าเลย ไม่เคยมอบโอกาสที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ทั่วไป ไม่มีใครเคยพิจารณาว่าตนเองมีความผิดอะไรบ้าง ไม่มีใครเคยคิดว่าสักวันหนึ่งพวกมันจะต้องตกนรก!”
“ข้ามักจะบอกตนเองว่าอย่าให้ใครมากำหนดชะตาชีวิต แต่ที่จริงก็ไม่ได้มีใครกำหนดข้า เป็นชะตาชีวิตที่ขีดเส้นไว้ให้ข้า! เจ้าไม่อาจร้องขอให้ข้าเติบโตมาแบบนี้ ทั้งยังให้ใช้ชีวิตแบบสุนัขต่อไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่!”
เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปจับจีเพ่ยฟางที่ตกใจจนเข่าอ่อนอยู่ตรงกำแพงทางใต้ ก่อนมองนางอีกครั้ง “พวกเจ้าแต่ละคนหวังเพียงให้ข้าละทิ้งความแค้น แล้วเมื่อไหร่จะหยุดทำร้ายข้า? ในสายตาของพวกเจ้าข้าก็เหมือนเนื้อร้าย แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจว่าทำไมข้าถึงได้กลายเป็นแบบนี้! หากต้องเอ่ยถึงต้นตอของความเลวร้าย นั่นมิใช่พวกเจ้าหรอกหรือ!”
เขายกมือกดลงไปที่กระหม่อมของจีเพ่ยฟาง ดวงตาทั้งสองของจีเพ่ยฟางเหลือกขึ้น ก่อนจะทรุดลงไปทันที
มู่จิ่วชักกระบี่กระโดดขึ้นกลางอากาศ คมกระบี่ไม่เอียงแม้แต่น้อย
นางเข้าใจความเจ็บปวดของเขา แต่การหยุดยั้งการฆ่าคือหน้าที่ของนาง คนที่ตายไปหลายคนนี้เพียงพอแล้ว หากเขายังฆ่าต่อไปจะไม่มีหนทางให้หวนกลับอีก!
หลินเจี้ยนหรูโยนจีเพ่ยฟางทิ้งไป ชักกระบี่บินมุ่งเข้าหานาง
พลังบำเพ็ญของมู่จิ่วบวกกับพลังที่มู่หรงเสวี่ยจีมอบให้นางอีกหนึ่งพันปี รวมเป็นสามพันปีเท่านั้น แต่กระบวนท่าแหสวรรค์ตาข่ายกระบี่ที่หลิวหยางสอนให้กลับไม่ธรรมดา! หลินเจี้ยนหรูเคยเห็นด้วยตาตัวเองมาก่อนตอนทดสอบเข้าทัพทหารสวรรค์ ตอนนั้นใช้แรงเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น แต่กระบวนท่านั้นกลับทำให้นางสอบติดอันดับหนึ่งในห้า ตอนนี้นางทุ่มกำลังทั้งหมด ไม่เพียงอาคารบ้านเรือนจะเริ่มสั่น กระทั่งยอดเขารอบด้านยังเริ่มสั่นไหว!
หลินเจี้ยนหรูไม่กล้าผลีผลาม ถึงแม้ยามปกติกำลังของเขาจะมากกว่านางไม่น้อย แต่คืนนั้นพลังวิญญาณในร่างนางแข็งแกร่งนัก นางกับลู่ยาอยู่ด้วยกัน ยากจะบอกว่าลู่ยาไม่ได้ให้ของวิเศษอะไรกับนางเลย หากคิดจะรอดไปจากแรกพยับ เขาต้องผ่านนางไปให้ได้!
หากมีโอกาสสักนิด ทำไมเขาต้องตายด้วย?
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพียงครั้งเดียวของพวกเขาตั้งแต่รู้จักกันมา มู่จิ่วไม่ไว้ไมตรีเขาเลยแม้แต่น้อย หลินเจี้ยนหรูก็ไม่ผ่อนปรนแรงเช่นกัน
เงากระบี่สะท้อน พลังวิญญาณหมุนตลบอยู่บนเขาบัวหยก เสียงหวีดหวิวของต้นสนดังขึ้นมา ไม่จบไม่สิ้น
ตอนที่หัวชิงนำคนมาถึง ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว บนฟ้าเห็นเพียงเงาสองสายพัวพันกันไปมา!
จีเพ่ยฟางที่หวาดกลัวสุดขีดนอนอยู่บนพื้น ยังมีศิษย์ที่ถูกเข้าใจผิดกลุ่มหนึ่ง ส่วนอาฝูและหลี่อี้เฝ้าอยู่ที่ประตูลานบ้าน ไม่ยอมให้ผู้ใดรุกล้ำ
หัวชิงกลั้นลมหายใจมองคนทั้งสองที่อยู่บนฟ้า ตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไรดี! หลินเจี้ยนหรูเป็นคนที่เขาเชิญมา ทั้งฐานะตำแหน่งเขาก็ยกย่องขึ้นมาให้ ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ เกรงว่าหลินเจี้ยนหรูจะเป็นคนฆ่าหลินเซี่ยและลูกสาวของเขา เช่นนั้นหัวชิงก็หนีไม่พ้นแล้ว! สายตาเขามองเห็นแต่ความรุ่งโรจน์ในตำแหน่งหน้าที่ เรื่องนี้กลับทำลายความฝันเอาในตอนท้าย เลือดลมของเขาพลุ่งพล่าน แต่กลับพูดไม่ออก เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงระเบียงทางเดิน
ทุกกระบวนท่าของมู่จิ่วไม่เหลือทางถอยไว้เลยแม้แต่น้อย
ต่อให้หลินเจี้ยนหรูเก่งกว่านี้ แต่สุดท้ายบนสนามรบก็ไม่ใช่คู่มือของนาง และส่วนที่เป็นจุดแข็งของเขาก็อยู่ที่พลังบำเพ็ญกับพลังวิญญาณเท่านั้น อีกทั้งเขาไม่ได้ทุ่มเทกำลังเข้าโรมรันกับนาง ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้วจึงยังดูอ่อนกว่าเล็กน้อย หลังจากปะทะกันไปหลายร้อยกระบวนท่า เขาก็พลาดท่าบ้างแล้ว
“ข้าไม่มีความแค้นกับเจ้า ทำไมต้องเข้ามายุ่ง!”
เขากัดฟันส่งเสียงออกไป
“ข้าไม่ได้ยุ่งเรื่องของคนอื่น ข้าเพียงทำเรื่องที่ข้าควรทำ! เจ้าวางกระบี่ลงเสีย แล้วกลับสวรรค์ไปกับข้า ข้าจะช่วยพูดให้ต่อหน้าฝ่าบาทและเหนียงเหนียง!”
มู่จิ่วตะโกนตอบ
“ไม่มีประโยชน์!” หลินเจี้ยนหรูกวัดแกว่งกระบี่พร้อมตะโกน “ไม่มีประโยชน์ตั้งแต่ชายชุดเขียวมอบพลังให้ข้าแล้ว! ข้าถูกกำหนดให้เป็นมาร ใครก็ช่วยข้าไม่ได้ทั้งนั้น!”
เขาจำได้ว่าชายชุดเขียวบอกว่าเขาจะตายด้วยเงื้อมมือนาง ไม่ว่าเขาจะไม่เชื่อสักเท่าไหร่ ตอนนี้มันก็ใกล้เข้ามาแล้ว!
แต่เขาไม่อยากตาย! เขาไม่มีความผิด! คนเหล่านี้ทั้งหมดต่างหากที่สมควรตาย!
ช่างหัวเหตุผล ช่างหัวกฎของเขา ตั้งแต่นี้เขาจะใช้ชีวิตเพื่อตนเองเท่านั้น!
เขาโจมตีไปทางพวกหลี่อี้ มู่จิ่วระเบิดโทสะ กระบี่ยาวในค่ายกลกระบี่บินว่อนอยู่กลางอากาศในเวลาเดียวกัน ล้อมเขาเอาไว้ทั่วทุกทิศ
มือทั้งสองของหลินเจี้ยนหรูยุ่งอยู่กับการรับมือ สุดท้ายแขนก็โดนเข้ากระบี่หนึ่ง
เลือดสดไหลออกมาเปื้อนบนแขนเสื้อ ให้ความรู้สึกเหนอะหนะ เขาจึงรู้สึกรำคาญ อยากจะหลุดพ้นออกจากวงล้อมนี้ให้เร็วที่สุด เขาเล็งเห็นช่องว่างหนึ่ง จึงกัดฟันเสี่ยงออกจากค่ายกลกระบี่ ขณะคว้าโอกาสทองตอนหน้าสิ่วหน้าขวานท่ามกลางประกายคมกระบี่ เขานั่งขัดสมาธิบนเมฆ รวบรวมพลังวิญญาณโจมตีมู่จิ่ว!
แท่งแสงขนาดเท่านิ้วมือซึ่งรวบรวมจากพลังวิญญาณเหมือนกับใบมีด ไม่เพียงมุ่งเข้าหานาง ขณะเดียวกันยังพุ่งเข้าหาทุกคนที่อยู่โดยรอบ!
พริบตาเดียว เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ แสงสีแดงฉานส่องสว่างไปครึ่งฟ้า ดวงตาทั้งสองของมู่จิ่วที่ยืนนิ่งอยู่อาบไปด้วยสีแดง!
หัวชิงตะโกนให้ทุกคนถอย สุดท้ายตนเองก็ทนไม่ไหว เรียกคนข้างกายเหาะขึ้นไปบนฟ้า ยื่นมือใช้กระบวนท่ากรงเล็บวิหควิญญาณไปจับหลินเจี้ยนหรู!
กรงเล็บวิหควิญญาณเป็นท่าไม้ตายของเขา เมื่อส่งกระบวนท่านี้ออกไป แม้หลินเจี้ยนหรูจะมีพลังบำเพ็ญมากกว่านี้สามพันปีก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขายังมีชื่ออยู่ในแรกพยับ มิฉะนั้นแล้ว ใครจะเชื่อว่าเขาไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับหลินเจี้ยนหรู?
ดังนั้นเขาจึงออกแรงกระบวนท่านี้ไปถึงสิบส่วน
แต่เขาเพิ่งเหาะไปได้ครึ่งทาง เลือดลมในอกกลับปั่นป่วน ก่อนกระอักเลือดออกมาเป็นสายอย่างไม่อาจควบคุม! และตอนที่เขาก้มหน้าลงไม่ทันระวังตัว ตรงหน้าก็มีกระบี่แทงเข้ามาในอกลึกถึงห้าชุ่น…
หัวชิงเงยหน้าขึ้น ตรงหน้าคือเหลียงชิวฉานที่ยืนถือกระบี่อยู่บนเมฆด้วยใบหน้าซีดขาว นางเดินโงนเงน เกือบจะร่วงลงพื้น
…………………………………………..