นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 135
บทที่ 135 มารดาแห่งแผ่นดิน2
โจว๋หวูนเฟิงยิ้ม “นายหญิงเซียว ท่าจะร้องไห้หรือหัวเราะล่ะขอรับ?”
นายหญิงเซียวปาดน้ำตาจนแห้งพูดว่า “ต้องหัวเราะสิ! หัวเราะอยู่แล้ว! เรื่องน่ายินดีขนาดนั้น ข้ายินดีจนร้องไห้! ถ้าท่านชายสี่อยู่ฉลองที่นี่กับพวกเราคงจะดี!”
โจว๋หวูนเฟิงพูด “น้องสี่ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
โจว๋จ้าวฉีพูด “พวกเจ้าไม่ต้องห่วง! ในเมื่อฝ่าบาททรงรับปากว่าจะละเว้นโจว๋หยุยถิง ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น! ขอแค่รอให้ต้าหลี่ซือและหน่วยสอบสวนไต่สวนให้เสร็จ โจว๋หยุนถิงก็ได้กลับบ้านแล้ว!”
โจว๋หวูนเฟิงถอนหายใจ “ไต่สวน? ไม่รู้ว่าหากไต่สวนจะใช้เวลานานเท่าไหร่? อีกอย่างตระกูลถางเปิ่นเป็นผู้ควบคุมต้าหลี่ซือกับหน่วยสอบสวน ใครจะรู้ พวกเขาจะลงโทษน้องสี่ก็ได้!”
ซินเหยาได้ยินโจว๋หวูนเฟิงพูดเช่นนั้นถึงรู้สึกว่าปัญหานี้มันเริ่มร้ายแรงขึ้นแล้ว
เรื่องพวกคดีที่ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย นางรู้ดีกว่าใคร!
คนมากมายได้รับยกเว้นการลงโทษ แต่หากถูกส่งไปอยู่ในคุกแล้ว แม้จะบริสุทธิ์ ก็อย่าได้หวังว่จะได้ออกมาเลย!
ถ้าตระกูลถางเปิ่นจงใจทำร้ายโจว๋หยุนถิงล่ะก็ ต่อให้ไต่สวนเสร็จ ไม่สนใจว่าผลการไต่สวนจะเป็นอย่างไร ฝ่าบาทต้องทรงนิโทษโจว๋หยุนถิงด้วยพระองค์เอง
แต่ในขั้นตอนการไต่สวนนี่สิ ใครจะรับประได้ว่าพวกเขาจะไม่เล่นแผนร้าย?
ซินเหยาพูดว่า “พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังหลวง ถึงตอนนั้นข้าจะขอให้ฝ่าบาททรงปล่อยโจว๋หยุนถิงเอง!”
“น้องเก้า เจ้ารับมือไหวหรือ?”
“รับไหวสิ”
“ไม่กลัวฝ่าบาททรงไม่รับปากหรือ? ทรงรับปากแล้วว่าจะทรงนิรโทษพี่สี่ ถ้าปล่อยพี่สี่จริง พระองค์คงกลัวคำครหานินทา คงไม่ปล่อยพี่สี่ง่ายๆหรอก!”
“ข้าจะหาวิธีรับมือกับเขาเอง!”
“น้องเก้า เจ้าจะเข้าวังหลวงพรุ่งนี้จริงๆหรือ?”
โจว๋หวูนเฟิงถามขึ้นมาจากกลางวง แต่คนอื่นๆไม่มีความกล้าจะถามคำถามนี้ออกมา
เพราะพวกเขาไม่อยากให้ซินเหยาลำบากใจ
ใครจะรู้ว่าซินเหยาจะได้เข้าวัง!
แต่สุดท้าย เพื่อตระกูลโจว๋แล้ว นางต้องเลือกทางที่เหมาะสม!
คนตระกูลโจว๋ต้องภูมิใจแน่นอน!
แต่ความสุขของซินเหยาล่ะจะทำอย่างไร?
โจว๋หวูนเฟิงทนไม่ไหว จึงถามคำถามนี้ออกมาท่ามกลางผู้คนทั้งหมด!
ซินเหยายิ้มผ่อนคลาย “เป็นฮองเฮาไม่ดีหรือ? มีฮ่องเต้อำมหิตเหี้ยมโหด แล้วยังมีเหล่าปรนนิบัติรับใช้ มีของกินไม่ขาด ดีจะตาย!”
โจว๋หวูนเฟิงพูดว่า “น้องเก้า เจ้า……เจ้าพูดความจริงเถอะ ที่นี่มีแต่คนกันเอง อย่าได้ฝืนยิ้มเลย!”
ซินเหยายิ้มพูดว่า “ข้าฝืนยิ้มที่ไหน ใครจะฝืนบังคับให้ข้าทำเรื่องที่ไม่อยากทำได้? เป็นถึงฮองเฮา เป็นเรื่องน่าสนุก! รอให้นางเล่นสักพัก เล่นจนเบื่อแล้ว ข้าจะจากไปไม่เหลือเยื่อใย!”
“ห้ะ?”
ผู้คนจ้องตะลึง
ความคิดของนางล้ำหน้ามากเกินไปแล้วจริงๆ
นายหญิงเซียวที่อยู่ข้างๆออกมาเตือน “พี่สาว….พี่สาว…..เจ้าก็รู้ เป็นฮองเฮา….เป็น……เป็น……”
ซินเหยาถาม “เป็นอะไร? ฮูหยินพูดออกมาตรงๆเถอะ อีกอย่าง ต่อไปเรียกข้าว่าซินเหยา พี่สาวพี่สาวไม่น่าฟังเสียเลย!”
คำพูดนี้พูดออกมาจากใจจริง!
ซินเหยาไม่ชอบให้ใครเสียนางว่าพี่สาวจริงๆ
พี่สาว….
ในยุคของนาง เขาเอาไว้เรียกโสเภณี!
นายหญิงเซียวพูดเก้ๆกังๆ “เป็นฮองเฮาต้องปรนนิบัติฝ่าบาท!”
ซินเหยาพูด “ปรนนิบัติฝ่าบาท? เขาก็ปรนนิบัติข้าไม่ต่างกัน!”
นายหญิงเซียว “อย่าพะดเหลวไหล ชื่อเสียงของบ้านตระกูลสตรีสำคัญที่สุด”
ซินเหยาพูด “อย่าจริงจัง! อย่าจริงจังกันไปเลย!”
ซินเหยาพูด “ตื่นเต้นกันจริงๆ ยังไง…ยังไงข้าก็เปิดห้องกับฝ่าบาทไปแล้ว!”
“ห้ะ!”
นายหญิงเซียวแทบจะเป็นลม
พวกโจว๋จ้าวกางและโจว๋จ้าวฉีสีหน้าเปลี่ยน
เปิดห้อง…
ยุคนี้เขาไม่ใช้คำนี้กัน
แต่พวกผู้ใหญ่ที่เคยผ่านเรื่องรักชายหญิง เข้าใจความหมายของคำศัพท์นี้ดี
แต่ว่าโจว๋หวูนเฟิงไม่เข้าใจ ถามต่อด้วยความแปลกใจ “พี่สาว เปิดห้องคืออะไรเหรอ?”
โจว๋หวูนเฟิงเบ้ปากพูด “ข้าอายุมากกว่าน้องเกามาก ทำไมยังดูเป็นเด็กน้อยล่ะ”
โจว๋จ้าวกางพูดด้วยความโกรธ “นั่นไม่ควรถาม!”
โจว๋หวูนเฟิงถึงปิดปาก
ซินเหยาคาดเดาท่าทางของพวกเขาออก พูดว่า “พวกเจ้าไม่ต้องห่วง!ยังไงเสีย ข้าก็เป็นคนของฝ่าบาทไปแล้ว! แม้ไม่ได้เป็นฮองเฮา ต่อไปก็ต้องแต่งออกไป! ฉะนั้นนะ! ตำแหน่งฮองเฮานี่ ข้าไม่ได้เป็นก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ลองเป็นฮองเฮาเล่นๆก็แล้วกัน ทนโดนเอาเปรียบไม่ได้แล้ว!”
นางตั้งใจพูดคิดตามความคิดของตระกูลโจว๋ หวังว่าจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจมากเกินไป!
ที่จริงนางอยากพูดว่า “ทำไมเปิดห้องห้องไม่ใหญ่พอนะ?”
“ยุคสมัยของพวกเรา!”
“เด็กหญิงอายุสิบห้าก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว”
อยากจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมา แต่กลัวว่าคนทั้งหมดจะตกใจจนสลบไปเสียก่อน
สุดท้าย นางก็เงียบไปแล้ว
ผู้คนค่อยๆกระจายออกไป
เรือนลั่วหวี่ก็เงียบลง
ซินเหยาพอจำได้ในตอนนั้น นางอยู่เรือนลั่วหวี่ตัวคนเดียว
ถึงตอนนั้นนางอยู่เรือนลั่วหวี่ตัวคนเดียว
หิวก็หุงหาอาหารเอง
หิวน้ำก็ไปหาน้ำที่น้ำพุ….
และมีเสี่ยวป๋านที่น่ารักมาฝึกฝนเป็นเพื่อน….
วันนี้เกิดความวุ่นวายมากมาย นางเริ่มเหนื่อยแล้ว
กลางคืนดึกสงัด….นางวิ่งเข้าไปกอดเสี่ยวป๋าน แล้วหลับไปทันที เริ่มฝัน…..
แสงจันทร์สุกสกาวสะท้อนลงมาที่หน้าต่าง….
ซินเหยากอดเสี่ยวป๋านจนหลับไป….
ในแววตาไร้ความเจ็บปวดขมุกขมัว สะท้อนความเยือกเย็นพร้อมสังหาร…..
ใต้แสงจันทร์……
แรงอาฆาตของเสี่ยวป๋านเย็นชาและแปลกประหลาด!
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที……
แรงอาฆาตเผยออกมา
เสี่ยวป่านเพื่อนคู่ใจแสนน่ารักสัปหงกและหลับใหล…..
ฮือ..ฮือ…
มันอยู่ในอ้อมกอดซินเหยา พ่นหายใจแล้วหลับนิ่งๆไป
วันที่สองซินเหยาต้องเข้าวังหลวงแล้ว!
พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเสี่ยวป๋านแล้ว