นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 136
บทที่ 136 คุยเรื่องการอภิเษก1
เพื่อนคู่ใจตัวนี้ขี้เกียจเหมือนหมู หลับตลอดไม่ยอมลุก แม้จะกินอาหารก็ต้องรอให้อาหารเข้าปากถึงจะกิน
วันนี้ทำไมถึงคล่องแคล่วลุกขึ้นไปกินอาหารเองล่ะ?
ซินเหยารู้สึกแปลกใจ
หรือว่าเมื่อคืนเหตุการณ์มันสะเทือนใจเกินไป มันเลยตกใจ?
ทำเจ้าปุกปุยที่แสนขี้เกียจตกใจวิ่งหนีไปเสียแล้วหรือ?
ซินหยาคิดว่าเสี่ยวป่านแค่หิว เลยออกไปหาของกินเอง จึงไม่สนใจอะไร
นายหญิงเซียวเข้ามาช่วยนางเก็บกวาดตั้งแต่เช้าแล้ว
เพราะว่าซินเหยาไม่มีสาวใช้ข้างกาย ฉะนั้นเรื่องละเอียกอ่อนพวกนี้ ต้องให้นายหญิงเซียวช่วยนางเสียหน่อย
ต่อมาไม่นาน โจว๋หวูนเฟิงก็ตื่น
เขามารายงานซินเหยา เข้าวังหลวงต้องระมัดระวัง
ซินเหยายิ้มตอบรับ
โจว๋หวูนเฟิงเริ่มทำท่าลับๆล่อๆพูดว่า “น้องหญิง พี่ใหญ่รู้ว่าท่านมีวรยุทธแกร่งกล้า! แม้ท่านปู่ไม่บอกว่าทำไมท่านมีวรยุทธแกร่งกล้า แต่แท้จริงแล้วพวกข้าก็พอคาดเดาได้ ด้วยวรยุทธของเจ้านั้น เดินทางไปที่ใดก็ย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่…..ในวังหลวงนั้น วรยุทธไม่ได้มีประโยชน์มากนัก! พี่สาวต้องระวังให้มาก!”
ซินเหยาแปลกใจถาม “ระวังอะไร?”
โจว๋หวูนเฟิงตอบ “ระวังผู้หญิงในวังหลวง โดยเฉพาะไทเฮา!”
ซินเหยาพูด “เหมือนพวกเจ้ากลัวไทเฮากันหมด ไทเฮาเป็นคนยังไงกันแน่?”
โจว๋หวูนเฟิงพูด “เอ่อ….ข้าบอกไม่ถูกหรอก! แต่ว่า เจ้าต้องระวังให้มาก น้องสี่ก็อยู่ในวังหลวง เจ้าต้องไปหานาง! นางช่วยดูแลเจ้าแน่นอน! น้องสี่ดีกับผู้คน รู้จักธรรมเนียมประเพณี แต่เวลาเจอกัน เจ้าต้องประเมินน้องสี่ให้มาก ในวังหลวง นางจะช่วยเจ้าได้มาก”
ซินเหยาพูด “พี่สี่? พี่สี่ก็อยู่ในวังหลวงหรือ?”
โจว๋หวูนเฟิงพยักหน้า “เดิมทีคนที่แต่งเจ้าวังหลวงคือน้องสี่ เพราะน้องสี่ถึงวัย จึงได้ทาบทามอภิเษกเป็นเหนียนเฟย อีกอย่างน้องสี่เป็นผู้เงียบสงบและอ่านหนังสือตั้งแต่เล็ก นิสัยเช่นนั้นจึงใช้ชีวิตในวังหลวงได้ง่าย”
ซินเหยายิ้ม “พี่ใหญ่ เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าสงสัยว่าเจ้ากำลังด่าข้านะ เจ้าว่าข้าเป็นคนเหี้ยมโหดมุทะลุงั้นสินะ?”
โจว๋หวูนเฟิงเริ่มถูกต้อน จึงพูดว่า “น้องหญิง เจ้าอย่าคิดเป็นอย่างอื่นสิ!”
ซินเหยาพูด “พี่ใหญ่ ข้าแค่พูดเล่นกับเจ้าเท่านั้นเอง ยังไงก็ขอบคุณเจ้าแล้ว เจ้าเป็นคนดี ท่านปู่กับท่านพ่อบอกเสมอ ความหวังของตระกูลโจว๋อยู่ที่เจ้า! เจ้าต้องขยันหมั่นฝึกฝน ข้ามองออก คุณสมบัติของเจ้ายังไม่พอ อีกอย่างวรยุทธของเจ้าเหนือกว่าถางเปิ่นจิ้งไม่กี่ส่วน ท่านปู่กับท่านพ่อต้องปลื้มใจอย่างแน่นอน ถ้าต่อไปมีเวลาว่าง พวกเราจะมาทักทายคุยสนุกๆกับเจ้า แต่ข้าต้องเข้าวังหลวงในทันที จึงไม่มีเวลามากแล้ว”
“ขอบคุณน้องหญิง”
โจว๋หวูนเฟิงเสียดายจริงๆ โอกาสดีๆแบบนี้ทำไมมันช่งสั้นนัก
เขาเข้าใจที่ซินเหยาพูดอยากพูดคุยระหว่างพี่ชายน้องสาว ที่จริงแล้วนางกำลังพูดถึงฝึกวรยุทธของเขา!
แต่เขาไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
ซินเหยาต้องไปแล้ว!
วัยหนุ่มมีความหวังจะประสบความสำเร็จ!
เมื่อผู้ใหญ่ได้เป็นวีรบุรุษทรงพลัง!
ที่สำคัญที่สุดเขามีจิตใจโอบอ้อมอารีตรงไปตรงมามากกว่าคนอื่น
ไม่งั้น ซินเหยาคงจะแย่งตำแหน่งสำคัญในตระกูลโจว๋ไปแล้ว เขาจะไม่รู้สึกเกลียดชังได้อย่างไรกัน?
อีกอย่างยังเข้ามาเตือนซินเหยา เข้าวังหลวงแล้วต้องระวัง!
เห็นได้ว่าเขาเป็นคนเปิดใจรับอะไรได้หลายอย่าง!
รถม้าวังหลวงมากแล้ว หยุหน้าตำหนักอ๋องโจว๋ ซินเหยาต้องเข้าวังหลวงแล้ว….
ตอนนี้ซินเหยาเริ่มร้อนใจ
เสี่ยวป๋านยังไม่กลับมาน่ะสิ!
หัวหน้าขันทีหลี่เหลียนคางมาต้อนรับซินเหยาด้วยตัวเอง
เหล่าพระสนมคนอื่นๆไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้!
เมื่อรู้ว่าหลี่เหลียนคางเป็นหัวหน้ามหาขันที เขาออกจากวังหลวงเพื่อต้อนรับสตรี นับว่าเป็นหน้าเป็นตายิ่งใหญ่!
รอนานแล้วทำให้หลี่เหลียนคางรักษาสีหน้าไว้ไม่ไหวแล้ว ซินเหยาตัดสินใจไม่รอเสี่ยวป๋านแล้ว
แต่ซินเหยาสั่งนายหญิงเซียว ถ้าเห็นเสี่ยวป๋านช่วยดูแลมันให้ดี หาของกินให้มันเยอะๆหน่อย
แต่พอมาคิดทีหลัง ซินเหยารู้สึกว่าตัวเองห่วงมันมากเกินไป
ก่อนที่นางจะพบเสี่ยวป๋าน เจ้าเพื่อนรู้ใจตัวนี้ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ตำหนักอ๋องโจว๋กับเรือนลั่วหวี่มานานแล้วไม่ใช่หรือ?
แต่ไม่เห็นมันจะหิวตายเลย!
ไม่แน่มันอาจจะในรังเก่าสักแห่ง แถวๆเรือนลั่วหวี่ มันกลับไม่นาน คงจะคิดถึงบ้าน
อย่างไรมันก็อยู่ในตำหนักอ๋องโจว๋ ซินเหยาไม่ห่วงว่าเสี่ยวป๋านจะเป็นอันตรายอะไร
รถม้าสั่นโคลง ซินหยาเริ่มทนไดม่ไหวแล้ว ดีที่รถม้าหยุดลงแล้ว