นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 2
ตอนที่2 การข้ามภพปริศนา
ราชวงศ์เทียนส้ง
วันที่เจ็ด เดือนสี่ เป็นวันที่ทั้งประเทศร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ พสกนิกรทั้งสองฟากฝั่งราวกับคลื่นมนุษย์ เรือทหารหลวงอันเข้มงวดกวดขันขนาดมโหฬารกำลังล้อมเรือลำหรูที่ประดับด้วยรูปแกะแกะสลักจักรพรรดิมังกรสีทองส่องแสงเรืองรองที่ล่องอยู่ผิวแม่น้ำซิงเฉิน กราบไหว้เทพธิดาสดใสโอติน
มู่หรงฉู่ ทรราชย์แห่งยุคสมัยเปี่ยมไปด้วยท่าทีขึงขังและสูงส่ง ฉลองพระองค์ด้วยเสื้อคลุมลายมังกรอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ ภายใต้การต้อนรับของเหล่าอัครเสนาบดีและผู้ประกอบพิธี เขาถวายของบูชากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์์ด้วยความนับถือส่วนพระองค์คืนหนึ่งเมื่อสามร้อยปีในกาลก่อนเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ประกายอัสนีวาดผ่านขอบฟ้าเป็นทางขนาดใหญ่ หลังจากนั้นชาวประมงรายหนึ่งก็เก็บกู้กล่องโบราณประหลาดขึ้นมา
กล่องลึกลับใบนี้ยังสร้างจากโลหะลึกลับชนิดนึ่งที่ไม่เคยปรากฏในราชวงศ์เทียนส้งมาก่อน มีดหอกฟันแทงไม่เข้า น้ำไฟมิอาจกล้ำกราย
สรรพสิ่งล้วนหวาดกลัว ต่างก็คาดเดากันว่านี่คือของขวัญที่เทพสวรรค์ทรงประทานให้กับแดนมนุษย์
ทางราชสำนักจึงยึดถือกล่องลึกลับใบนี้กราบไหว้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์์ วันที่เจ็ด เดือนสี่ของทุกปี ทั่วทั้งประเทศจะล่องเรือแม่น้ำซิงเฉินสักการะพระมหากรุณาของโอดินเทพธิดาแห่งแสง เพื่อวิงวอนต่อเหล่าทวยเทพ! นี่เป็นธรรมเนียมที่สืบเนื่องมาถึงสามร้อยปี!
มู่หรงฉู่นำพสกนิกรและเหล่าข้าราชบริพารคุกเข่าไปยังทิศเหนือ สักการะด้วยความศรัทธาเลื่อมใส
“ขอวิงวอนต่อเหล่าทวยเทพ! คุ้มครองแคว้นเทียนส้งสงบสุข ไพร่ฟ้าร่มเย็น ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ทั่วสารทิศ!” มู่หรงฉู่กล่าวอธิษฐานด้วยน้ำเสียงอันขึงขัง
เหล่าขุนนางล้วนคุกเข่าหมอบกราบ! บรรดาประชาชนร้องตะโกนทรงพระเจริญหมื่นปี! เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังอื้ออึง
ทันใดนั้น
บู้ม!
ณ เส้นขอบฟ้าในฉับพลันนั้นเกิดประกายอัสนีอันน่าแตกตื่นสายหนึ่ง!
เสียงอัสนีกัมปนาทกึกก้องก่อให้เกิดความโกลาหลและความหวาดกลัวขนานใหญ่! พ่อมดหมอผีกล่าวว่านี่เป็นการตอบรับจากสวรรค์ที่รับรู้ถึงความศรัทธาของเหล่ามนุษย์ อวยพรให้ใต้หล้าสงบสุข ประชาชนหลงเชื่อโดยมิลังเล ยิ่งตะโกนแซ่ซ้องด้วยเสียงดังมากขึ้น คุกเข่าหมอบกราบต่อฟ้าเบื้องบน
มู่หรงฉู่ที่ยืนโค้งคำนับตรงหัวเรือ มองลงไปเห็นประชาชนกราบไหว้ แล้วชำเลืองมองไปที่กล่องเหล็กอันเย็นเยือกที่แน่นิ่งอยู่บนแท่นบูชาเทพ “เจ้าที่แท้คืออะไร? ไม่ว่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์์์หรือไม่ เจ้าก็ได้ช่วยเหลือราชวงศ์เทียนส้งรักษาระบอบการปกครองอันมั่นคงมาตลอดสามร้อยปี จากจุดนี้ก็นับได้ว่าเจ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์์์! เจิ้นแต่ไรก็มิเคยเชื่อว่าบนโลกมีผีสางเทวดาจริง ยิ่งไม่มีเครื่องรางสิ่งศักดิ์สิทธิ์์ แต่หากเจ้าไม่ใช่เครื่องราง แล้วที่แท้เจ้าเป็นสิ่งใด? เหตุใดแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเปิดออกได้? ด้านในซ่อนสิ่งใดไว้กันแน่?
(朕 เจิ้น*แปลว่า ข้า เป็นคำเรียกแทนตัวเองของกษัตริย์ในสมัยก่อน)
ทันใดนั้นที่ท้ายเรือเกิดความชุลมุน
มู่หรงฉู่มุ่นคิ้วถาม “องครักษ์! ด้านหลังเกิดอะไรขึ้น?”
องครักษ์ที่ทราบเหตุการณ์คุกเข่าลงเบื้องหน้ารายงาน ดูเหมือนว่าขณะที่ฟ้าร้องแตกตื่นเมื่อสักครู่นี้มีหญิงสาวตกลงไปในน้ำ ยามนี้ได้ถูกคนช่วยเหลือขึ้นมาแล้ว
นัยน์ตาเย็นเยือกของมู่หรงฉู่เกิดประกายรุนแรง “เจ้าไปตรวจสอบ แล้วเรียกแพทย์ไปด้วย!วันนี้เป็นวันฉลองสักการะใหญ่ จะปล่อยให้เกิดเรื่องคนจมน้ำตายไม่ได้เด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษณ์น้อมรับบัญชา!
มู่หรงฉู่กล่าวในใจ “ยามล่องเรือสักการะมิใช่ว่าควรดำเนินจัดการเส้นทางชลมารคแต่แรกหรอกหรือ? ไฉนจึงมีหญิงสาวตกไปในน้ำได้? เจ้าเมืองหลวงทำงานช่างเฉื่อยแฉะเสียจริง! สมควรสับคนเปลี่ยนตำแหน่งเสีย!”
ยามแรกที่ซินเหยาฟื้นขึ้นมาสิ่งที่รู้สึกก็คือความปวดร้าวทั่วทั่งร่างอันไร้ที่เปรียบ
“แปลก ร่างกายของฉันไม่เคยอ่อนแอเช่นนี้มาก่อน!”
ซินเหยารู้สึกสับสน ในฐานะสายลับ นางเคยได้รับการฝึกฝนอันเข้มงวดและโหดร้ายตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่ว่าร่างกายหรือจิตสำนึกล้วนบรรลุถึงขีดสูงสุดนานแล้ว แล้วเหตุใดยามนี้นางคล้ายนกับว่าเจ็บระบมทั่วทั้งร่าง กระทั่งแทบจะทนไม่ได้จนเหมือนเช่นคนธรรมดาทั่วไป?
“เอ๋? นี่คือที่ใด?”
ซินเหยาพบเห็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างรวดเร็ว! สถานที่ที่นางอยู่มีกลิ่นอายโบราณ ห้องตกแต่งเรียบง่ายทว่าหรูหรา กลื่นหอมของไม้จันทน์ค่อนข้างฉุน…
แพทย์หลวงได้รับบัญชาจากองค์กษัตริย์ว่าจะต้องมารักษาสตรีที่ตกน้ำในตอนสักการะ ซินเหยาที่ถูกนำตัวเข้าส่งไปในวังหลวงอย่างลึกลับ แต่ตัวนางเองกลับไม่รู้ว่าอยู่ในสถานที่เช่นไร
“เหตุใดฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“เหตุใดในความทรงจำของฉันจึงไม่เคยมีสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน?”
“สิ่งที่ไม่รู้จักย่อมมีกลิ่นอันตราย! นี่คือกฎข้อที่สี่ของสายลับ”