นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 203
บทที่ 203 ไม่ตายไม่จบสิ้น2
ด้วยเหตุนี้การตายของหญิงเฟยเขาจึงจำเป็นต้องปกปิดเอาไว้เป็นการชั่วคราว…
อีกอย่างเขาเองก็ไม่สามารถใช้อำนาจใดๆ ของราชสำนักไปต่อสู้ได้ในช่วงเวลานี้…
ราชสำนักจำต้องรักษาอำนาจเอาไว้
ขั้วอำนาจของตระกูลถางเปิ่นในเมืองหลวงนั้นใหญ่โตเสียจนผู้คนตกใจ!
ถ้าหากไม่มีการคุกคามจากกองกำลังทหารที่เข้มแข็ง กลัวเพียงแต่ว่าแผนการใดๆ ก็ไม่อาจดำเนินจนสำเร็จได้!
เฉิงเสี้ยงกล่าว “ฮ่องเต้ เรื่องนี้…”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าวเสียงเย็น “เฉิงเสี้ยงเจ้าไม่จำเป็นต้องบ่มสอนว่าข้าต้องทำอย่างไร! ถ้าหากเฉิงเสี้ยงมีวิธีกำจัดกองทัพได้โดยไม่ต้องออกศึก ข้าเองก็เต็มใจจะอวยยศเจ้าขึ้นเป็นท่านอ๋องอีกหนึ่ง! จะได้รับอำนาจพิเศษและความยำเกรงจากราชวงศ์ตลอดกาล!”
เฉิงเสี้ยงหุบปากไปโดยปริยาย
เขาย่อมไม่มีวิธีโดยเด็ดขาด!
เขาเป็นเพียงเฉิงเสี้ยงคนหนึ่ง!
มิใช่แม่ทัพเจนศึกร้อยสนาม!
โจว๋เส้ากวางกล่าว “ฮ่องเต้! อันที่จริง วิธีกำจัดกองทัพโดยไม่ทำศึก ก็มิใช่ว่าไม่มีเลยทีเดียว!”
ฮ่องเต้อำมหิตเอ่ย “ท่านแม่ทัพโปรดกล่าว!”
โจว๋เส้ากวางพูด “ฮ่องเต้! ผู้ส่งสาส์นที่ฮ่องเต้เหอถูส่งมาเจรจากับราชสำนักยังอยู่ในเมืองหลวงหรือไม่”
ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า ก่อนกล่าว “มาได้หลายวันแล้ว ยังคงอยู่ใจกลางเมือง ข้อตกลงที่พวกเขาเสนอมานั้นป่าเถื่อนเกินไป หลายวันนี้ข้าก็ยังปวดหัวกับเรื่องนี้อยู่เป็นนิจ!”
โจว๋เส้ากวางเอ่ย “ฮ่องเต้! มีอยู่หนึ่งวิธีที่จะขับสู้อ๋องถู่ซือโดยไม่เปลืองทหารแม้เพียงนายเดียว!”
ฮ่องเต้อำมหิตตรัส “เกี่ยวข้องกับผู้ส่งสาส์นของฮ่องเต้เหอถู?”
โจว๋เส้ากวางพยักหน้าเล็กน้อย พลางกล่าว “ฮ่องเต้เหอถูอยู่บนยอดคีรีแยก จึงนึกอยากแยกตัวจากการควบคุมของราชสำนัก ในฐานะเป็นขั้วอำนาจที่ทรงพลังที่สุดในอำนาจพันธมิตรเขตชายแดน ฮ่องเต้เหอถูย่อมไม่เต็มใจฟังคำบัญชาของอ๋องถู่ซือ ยิ่งไม่เต็มใจส่งส่วยให้ราชสำนักในทุกๆ ปี และเรียกตัวเองว่าเป็นเชลยตลอดไป!”
รูม่านต่าของฮ่องเต้อำมหิตเคร่งขรึม ฟังอย่างตั้งใจ
โจว๋เส้ากวางเอ่ยคำต่อไป “ฮ่องเต้ ถ้าหากฮ่องเต้มีวิธีชักจูงฮ่องเต้เหอถูมาใช้ประโยชน์ ทำให้ฮ่องเต้เหอถูไปตีอ๋องถู่ซือ นี่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย!”
“ดี! วิธีที่ดีที่สุดสำหรับสองฝ่าย เยี่ยงนี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาการกบฏอลหม่านของฮ่องเต้เหอถู แต่ยังขับไล่การจลาจลของอ๋องถู่ซือได้อีกด้วย! แม่ทัพโจว๋ ท่านรีบว่ามา ในใจท่านคิดอย่างไรกันแน่”
ฮ่องเต้อำมหิตปรีติยิ่ง!
โจว๋เส้ากวางเอ่ย “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าฮ่องเต้เหอถูไม่ใคร่เต็มใจเป็นเมืองเชลยเล็กๆ ในกลุ่มชนเผ่าพันธมิตรตลอดกาล เขาก่อกบฏก็เพียงเพื่อสนองความต้องการแห่งพลังอันยิ่งใหญ่เท่านั้น!”
ฮ่องเต้อำมหิตเอ่ย “พูดต่อไป!”
โจว้เส้ากวางว่า “อ๋องถู่ซือกลับแก้แค้นเพื่อลูกสาว ความโกรธแค้นประเภทนี้จะต้องไม่มลายลงไปอย่างง่ายดายเป็นแน่ ดังนั้น เทียบกับการก่อกบฏของฮ่องเต้เหอถูแล้ว การต่อต้านของอ๋องถู่ซือจึงจะยิ่งทำให้ผู้คนปวดหัวหนักยิ่งกว่า”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “ที่ท่านแม่ทัพโจว๋ว่ามานั้นมีเหตุผล อ๋องถู่ซือมาด้วยจิตใจโกรธเคืองอยากแก้แค้น เป็นการยากที่จะปรองดองได้สำเร็จ! ฮ่องเต้เหอถูกลับมาเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ มันง่ายกว่ามากที่จะปรองดองกับเขา! แต่ปัญหาคือ เงื่อนไขที่ผู้ส่งสาส์นของฮ่องเต้เหอถูจัดส่งมา ก็ยากจะยอมรับได้จริงๆ!”
“เขาต้องการให้ข้ายกเลิกการส่งส่วยและภาษีทั้งหมดที่ส่งเข้ามาจากเผ่าของฮ่องเต้เหอถู นี่ก็ช่างมันเถิด เขายังอยากจะให้ข้าประกาศสู่ใต้หล้า ถึงตำแหน่งของฮ่องเต้เหอถู ทำให้แคว้นเหอถูและราชสำนักอยู่ในเงื่อนไขที่ทัดเทียมกัน จิตใจสามานย์เยี่ยงนี้ น่าเกลียดชังเสียจริง!”
โจว่เส้ากวางเอ่ย “ตอนนี้ฮ่องเต้เหอถูครอบครองการได้เปรียบก่อน อีกอย่าง ถ้าหากเขารู้ว่าอ๋องถู่ซือก่อกบฏขึ้นมาล่ะก็ เกรงว่าจะมีคำร้องขอมากขึ้นเรื่อยๆ! ดังนั้นการที่สิงโตอ้าปากกว้างจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้!”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนว่าแม่ทัพโจว๋จะมีกลอุบายอยู่ในใจแล้ว? แม่ทัพโจว๋มีวิธีที่จะสามารถแก้ไขปัญหายุ่งเหยิงนี้ได้จริงๆ หรือไม่”
โจว๋เส้ากวางเอ่ย “ฮ่องเต้! วิธีนั้น…ไม่มีว่าไม่มี! เพียงแต่ต้องดูว่าฮ่องเต้จะเต็มพระทัยหรือไม่แล้ว”
ฮ่องเต้อำมหิตตรัส “น่าละอายยิ่งกว่าการยอมรับให้แคว้นเหอถูเล็กๆ ของพวกเขานั่งในระดับทัดเทียมกับราชสำนักอีกหรือ”
โจว๋เส้ากวางส่ายหน้า
ฮ่องเต้อำมหิตเอ่ย “เช่นนั้นแม่ทัพรีบพูดตรงๆ มาเถิด!”
จู่ๆ โจว๋เส้ากวางกลับหยุดชะงัก
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “แม่ทัพโจว๋เหตุใดจึงไม่เอ่ยวาจา”
โจว๋เส้ากวางเอ่ยถาม “ฮ่องเต้! เมื่อครู่ที่ฮ่องเต้ทรงตรัสมานั้น เป็นเรื่องจริงหรอกหรือ”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง! ข้าเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ของแคว้น ตรัสคำไหนคำนั้น วาจาเด็ดขาด ไม่เคยเสียใจภายหลัง ดังนั้นหากแม่ทัพโจว๋สามารถกำจัดกองทัพทหารโดยไม่ทำศึก ข้าจะรีบเขียนโองการอวยยศท่านแม่ทัพโจว๋เป็นอ๋อง นับจากนี้ไปเข้าเฝ้าข้าก็ไม่ต้องคุกเข่า ลูกหลานจะได้รับตำแหน่งขุนนางสืบไป”
โจว๋เส้ากวางเอ่ย “ฮ่องเต้! กระหม่อมไม่ต้องการตำแหน่งขุนนาง”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าว “เช่นนั้นข้าจะตอบรางวัลท่านเป็นทองคำ! ท่านต้องการกี่มากน้อยข้าก็จะให้ท่าน!”
โจว๋เส้ากวางพูด “ฮ่องเต้ กระหม่อมไม่ต้องการทองคำ”
ฮ่องเต้อำมหิตตรัส “เช่นนั้นท่านต้องการอะไร เกียรติยศความมั่งคั่ง อำนาจเงินทองแล้วแต่ท่านจะเลือก!”
โจว๋เส้ากวางมองทางถางเปิ่นขุย ในดวงตาทอประกายเกลียดชังและความทุกข์ตรม “กระหม่อมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ขอเพียงเฉิงเสี้ยงถางเปิ่นทำสามอย่างอก่ข้า เทชา รินน้ำ ผลัดรองเท้า!”
หลังจากถางเปิ่นขุยฟังจบก็โกรธเป็นอย่างยิ่ง!
“โจว๋เส้ากวาง เจ้าอย่าได้รังแกผู้อื่นมากเกินไปนัก!”
โจว๋เส้ากวางกล่าวอย่างเย็นชาและเจ็บร้าว “เฉิงเสี้ยง! ตอนที่บุตรของข้าตายอย่างอนาถ เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าอย่าได้รังแกผู้อื่นให้มากนัก ตอนนี้เฉิงเสี้ยงถางเปิ่นเพิ่งจะมาพูดกลั่นแกล้นผู้อื่นมากเกินไปกับข้า มันช่างน่าขันเหลือเกินว่าหรือไม่”
ฮ่องเต้อำมหิตกลับเห็นพ้องอย่างรวดเร็ว “ดี! ขอเพียงแม่ทัพโจว๋มีวิธีถอยทัพ ข้าอยากให้ใต้เท้าเฉิงเสี้ยงทำเรื่อฃเล็กๆ น้อยๆ แก่ขุนพลโดยไม่เกี่ยง นับประสาอะไร นี่คือความคิดที่จะทำเพื่อความสะดวกสบายและมั่นคงของประชาชนใต้หล้าเชียวนะ! ถ้าหากมีการสู้รบเมื่อไร ไม่รู้ว่าจะมีประชาชนสักกี่มากน้อยต้องตกทุกข์ได้ยาก!”
“ประชาชน?”
“เฮอะ!”
“ท่านมันฮ่องเต้ผู้โหดเหี้ยม ยังใส่ใจประชาชนเป็นด้วยหรือ”
เฉิงเสี้ยงหัวเราะเย็นชาในใจ
แต่ว่าเขาไม่กล้าหัวเราะออกมา!
ต่อให้ตระกูลถางเปิ่นยโสมากเพียงใด ก็มิบังอาจหัวเราะเย้ยหยันฮ่องเต้ต่อหน้าธารกำนัลได้เป็นอันขาด!
สีหน้าโจว๋เส้ากวางขึงขัง จริงจัง พลางกล่าวทีละถ้อยทีละคำ “ฮ่องเต้! ขอเพียงเฉิงเสี้ยงถางเปิ่นสามารถทำเรื่องสามอย่างนี้ได้! กระหม่อมรับประกัน จะต้องมีวิธีทำให้อ๋องถู่ซือถอยทัพได้โดยไม่ต้องเปลืองทหารแม้แต่นายเดียวแน่นอน