นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 221
บทที่ 221 ข้าแต่งกับท่านแน่นอน2
ไม่กี่ปีมานี้ ซินเหยาเคยเห็นถางเปิ่นหู่
เป็นบุตรชายอัครเสนาบดีถางเปิ่นจิ้ง!
เป็นบุตรชายหนึ่งในสามคน คนหนึ่งถูกกุหลาบดำสังหารตาย คนหนึ่งถูกฮองเฮาพาไปอยู่กับซิ่วหนู่โจว๋ชิงหยี่ หลังจากที่บุตรสองคนนั้นไม่อยู่ในลู่ในทาง ก็เหลือเพียงบุตรชายคนนี้เพียงคนเดียว!
หนึ่งแสนตำลึง?
ขนาดพวกโจว๋หวูนเฟิง โจว๋หยุนถิงเป็นกลุ่มตระกูลโจว๋ ได้ยินยังตกใจจนหน้าซีด
โจว๋หวูนเฟิงกระซิบ “น้องสี่ เจ้าอย่าได้ยกป้ายเชียว”
น้ำเสียงของเขามีความกดดัน
หนึ่งแสนตำลึง
ราคาสูงมาก!
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้สืบทอดตระกูลอย่างเขาจะรับได้
เถ้าแก่จินหรี่ตายิ้ม พูดเสียงสุภาพ “ท่านชายสองถางเปิ่นหู่เสนอราคาหนึ่งแสนตำลึง! ยังมีใครจะเสนอราคาสูงกว่านี้อีกไหม?”
เถ้าแก่จินพูดไม่ทันสิ้นเสียง ถางเปิ่นหู่ตะโกนเสียงดัง “สหายนักวิทยายุทธ สหายราชการทุกท่าน ตระกูลถางเปิ่นของข้าจำเป็นต้องมีหินทดสอบ ไม่ว่าใครเสนอราคาสูงต่อ ตระกูลข้าจะเสนอราคาสูงขึ้นอีก!”
รูปงามดั่งสายรุ้ง
แต่อัตตาสูงบ้าอำนาจ
แม้จะดูอ่อนเยาว์ แต่เป็นคนกล้าหาญเฉียบขาด…..
ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์เหมือนถางเปิ่นป้าวที่ตายไปแล้ว
ซินเหยาเห็นถางเปิ่นหู่ ในใจแอบคิด “พี่สี่ตาเฉียบคมนัก เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนมีพรสวรรค์ ไม่รู้ว่านางกับถางเปิ่นหลงไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”
คนทั้งร้านพูดกันเสียงเซ็งแซ่
“ที่แท้เป็นบุตรชายของท่านอัครเสนาบดีนี่เอง”
“คนตระกูลถางเปิ่น”
“ไอ้หยา”
“แม้แต่คนตระกูลถางเปิ่นก็ยังมาร้านจี้โม่”
“ต่อไปร้านจี้โม่ต้องครึกครื้นเป็นแน่”
“มิน่าล่ะเขาถึงกล้าจ่ายแบบนี้”
“คนพูดกันว่าตำหนักเสนาบดีมั่งคั่งกว่าฝ่าบาท”
“คนตระกูลถางเปิ่นมีทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งของแผ่นดิน”
“เหลือสมบัติอีกครึ่งหนึ่ง ที่ราชสำนัก ตระกูลโจว๋และอ๋องป๋ายครอบครองไว้ทั้งหมด….”
“เห็นแบบนี้ก็รู้แล้วว่าตระกูลถางเปิ่นร่ำรวยมากขนาดไหน”
ผู้คนเคลื่อนไหวฮือฮาถึงขีดสุด
แววตาทุกคนเผยความซับซ้อนซ่อนเงื่อนกำลังมองไปที่ถางเปิ่นหู่……
น่าอิจฉา!
น่าตะลึง!
แววตาทุกคนซับซ้อนจนยากจะเห็นความคิดที่อยู่ภายใน
ซินเหยาแอบพูด “เจ้าถางเปิ่นหู่ไม่ได้รับราชการทหารรึ? ทำไมถึงมาปรากฏตัวทำอวดดีในกลุ่มวิทยายุทธ ในงานขุมทรัพย์? นี่เป็นเจตนาของตระกูลถางเปิ่น หรือเป็นที่ตัวเขาเอง เขาต้องการให้ตัวเองเป็นกำลังสำคัญแทนพี่ชายหรือ ถึงกล้าเข้ามาเช่นนี้?”
คนวัยหนุ่มมีความต้องการมุ่งมั่นมานะ
พวกถางเปิ่นหู่ ถางเปิ่นหลง โจว๋หวูนเฟิงเป็นคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์ สิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเปิดเผยออกมาตรงๆได้
สิ่งที่พวกเขาต้องการจะค่อยๆปรากฏให้เห็นตามกาลเวลา
ช่วงวัยหนุ่มผ่านการฝึกฝนตลอด ฝึกนับร้อยวิชาถึงจะสามารถเป็นบุคคลจับตัวได้ยากมีชื่อเสียง
ซินเหยาคิดว่าถางเปิ่นจิ้งเป็นแค่จิ้งจอกเฒ่า
เขาผลักดันหลานขึ้นไปอยู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารองครักษ์
แต่ให้ลูกสองคนของตัวเองฝึกฝนอยู่ในค่ายทหาร
จนผลสุดท้ายถางเปิ่นจิ้งต้องรับผลที่แสนขมขื่นย้อนเข้าตัวเอง
คนหนุ่มที่อยู่ในตำแหน่งสูง ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี
ถางเปิ่นหู่เป็นตัวอย่างที่ยังรอดชีวิต
โจว๋หวูนเฟิงเองก็เช่นกัน!
โจว๋หวูนเฟิงถูกฟักเลี้ยงเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก ฝึกฝนวิทยายุทธเต็มที่ จนผ่านวัยมาแล้ว ก็ยังไม่ได้แต่งงาน
วิทยายทุธของเขาก้าวหน้ามากขึ้น
แต่ตัวเขายังไม่คุ้นชิน พวกผู้ใหญ่ในตระกูลโจว๋จึงหวังให้เขาฝึกฝนเยอะๆ ให้คุ้นเคยจนหนักแน่นและมีความมั่นคง
ตอนนั้นให้เขาไปฆ่าหมาป่าสองหัว จึงทำให้เป็นเช่นนี้
ตอนนี้นายท่านโจว๋ให้เขาฝึกฝนอย่างหนัก จึงเป็นแบบนี้!
เจ้าถางเปิ่นหู่ได้รับเชิญเข้ามาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี
ซินเหยารู้สึกน่าเสียดายนัก
นางเกลียดชังตระกูลถางเปิ่น แต่นางไม่ได้เกลียดชังถางเปิ่นหลงกับถางเปิ่นหู่เลย
ถางเปิ่นหู่ทำตัวหยิ่งผยอง คนทั้งงานมองออกกันหมดแล้ว!
สำหรับตระกูลถางเปิ่นแล้วหินทดสอบคงไม่พ้นเป็นของตน
ไม่ว่าเจ้าจะเสนอราคามากเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางสูงเกินราคาของตำหนักอัครเสนาบดี!
แต่ถ้าใครกล้าเสนอสูงกว่า นั่นแสดงว่ากำลังต่อต้านตระกูลของอัครเสนาบดี
เช่นนั้น เท่ากับว่ากำลังถือดี!
ถางเปิ่นหู่พูดคำสั้นๆ แต่ความหมายทุกคนกลับเข้าใจกระจ่างชัด!
เถ้าแก่จินเป็นคนฉลาด ย่อมเข้าใจเรื่องในสถานการณ์ จึงหัวเราะ
“ฮ่าๆ ท่านชายรองบุตรท่านเสนายังอ่อนเยาว์แท้ๆ หนึ่งแสนตำลึง วันนี้ข้าคงได้เงินทองไม่น้อย”
“ฮ่าๆ”
แขกด้านล่างหัวเราะก้องห้องโถง
บรรยากาศที่ต้องการให้เป็นได้เกิดขึ้นแล้ว เถ้าแก่จินพูดต่อ “หนึ่งแสนตำลึง เกรงว่าไม่มีใครเสนอราคาสูงกว่านี้แล้วสินะ? ถ้าไม่มีใครเสนอราคาสูงกว่านี้แล้ว เช่นนั้นข้าจะยกหินทดสอบให้ท่านชายรองแล้ว”
คนด้านล่างเวทีเงียบลงแล้ว……..
เถ้าแก่จินยิ้มพูดว่า “หนึ่งแสนตำลึงครั้งที่สอง นายท่านผู้มั่งคั่งทุกท่านอย่าเสนอราคาให้ข้าผู้ต่ำต้อยตกใจเลย ข้าร่างกายอ้วนท้วน หัวใจไม่แข็งแรง เกรงว่าจะรับไม่ไหวนะ”
คนด้านล่างเวทีหัวเราะ
ไม่มีใครกล้าเสนอราคาสูงกว่านี้แล้ว
ฮ่องเต้อำมหิตขมวดคิ้ว
“ถางเปิ่นจิ้ง!”
“ตาเฒ่าโง่”
“ทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงเยี่ยงนี้”
“หินทดสอบจะต้องมีแค่ราชสำนักกับตระกูลโจว๋ที่ครอบครองได้!”
“เขาก็อยากได้หินทดสอบด้วยรึ?”
“จะชุบเลี้ยงคนมากๆเพื่อก่อกบฏหรือไง?”
“ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
“ฮึ!”
“วันนี้ข้าจะให้ประชาชนได้เห็น อัครเสนาบดีกับข้าใครมีเงินมากกว่ากัน”
ในแววตาฮ่องเต้อำมหิตเผยแรงอาฆาต พูดว่า “หลี่เหลียนคาง เจ้าไปยืนที่ระเบียงเตรียมตัวยกป้าย ทำตัวให้นอบน้อม เสนอราคาให้สูงกว่าฝ่ายอัครเสนาบดี ข้าจะชี้แนะอยู่ด้านหลัง!”