นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 263
บทที่ 263 พ่นไฟอีกสักดวง2
โกนขน?
นั่นไม่ใช่ว่าจะเอาชีวิตมันไปหรอกหรือ
ไม่มีขนแล้ว ก็มีรูปร่างน่าอัปยศ จะไปพบปะผู้คนได้อย่างไรกัน
โดยเฉพาะ…ไม่ได้สวม “เสื้อผ้า” ทุกคนต่างต้องมองเห็นคุณลักษณะเฉพาะของ “เพศผู้” ของมันน่ะสิ!
“ไม่ได้! ไม่ได้! ไม่ได้!”
เสี่ยวป๋านผู้เหนียมอายประท้วงสุดชีวิต
ซินเหยาได้ยินมันร้องพร่ำสุดชีวิต ก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “เสี่ยวป๋าน โกนขนก็ไม่เลวนะ อากาศแบบนี้ร้อนจะตายไป โกนขนแล้วจะเย็นสบายเป็นอย่างยิ่งเชียว…”
“ไม่เพียงแต่เย็นสบายเท่านั้น แต่มันยังเท่มากๆ ด้วยนะ”
“เสี่ยวป๋าน ปีนี้การเปลือยกายเป็นกระแสนิยมเชียวนะ…”
“เสี่ยวป๋าน?”
ซินเหยาพยายามโน้มน้าวจิตใจเสี่ยวป๋านให้ยอมรับการโกนขน
แต่ว่าจะเป็นหรือตายเสี่ยวป๋านกลับไม่ยอมลงมา ซ่อนตัวอยู่ใต้คานหลังคา มีท่าทีหวาดผวา…
ซินเหยากล่าว “ที่ข้าพูดเจ้าฟังเข้าใจ แต่ว่าคำที่เจ้าพูดข้าฟังไม่รู้เรื่อง…เอาแบบนี้ ข้านึกวิธีหนึ่งขึ้นได้แล้ว ถ้าหากเจ้ายินดีที่จะยอมรับข้อเสนอการงดดื่มเหล้า ให้พยักหน้า ถ้าหากเจ้ายินดียอมรับข้อเสนอการโกนขน ให้เจ้าส่ายหน้า…”
“ซ่าซ่าซ่า…”
ซินเหยายังเอ่ยวาจาไม่ทันจบ
เสี่ยวป๋านก็พยักหน้าอย่างหนักราวกับไก่จิกข้าว!
ซินเหยากล่าวกลั้วหัวเราะ “เช่นนั้นก็เอาเถิด ยึดการตัดสินใจเยี่ยงนี้ ต่อไปเจ้าต้องงดเหล้านะ!”
“ก๊อกก๊อก”
เสี่ยวป๋านพยักหน้าเต็มแรง
ถึงแม้งดเหล้าจะทรมานยิ่งนัก แต่ก็ดีกว่าการโกนขนหลายเท่านัก!
ผ่านไปไม่นาน ส้งชิงและหลัวเสี่ยวหู่ก็ปรากฏตัว
“ท่านอาจารย์ ไฉนในห้องของท่านนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นไหม้เกรียม” ครั้นส้งชิงเข้ามาก็เอ่ยถามอย่างใคร่รู้
ซินเหยาเอ่ย “จุดกันยุงน่ะ ไฉนเจ้าจึงมาแล้ว พักนี้นักดาบซื่อเทียนไม่ไปสอนวรยุทธ์แก่พวกเจ้าใช่หรือไม่”
ส้งชิงส่ายหน้า “น้องอาจารย์ไปสอนพวกเราทุกวัน! เขาบอกว่าพวกเรามีพัฒนาการเร็วมาก สอนอีกสองเดือนก็เข้าท่าแล้ว เขาเฝ้ารอวันที่สามารถสอนพวกเราสำเร็จ อาจารย์จะมอบภารกิจใหม่ที่ทั้งสำคัญและลึกลับอย่างหนึ่งให้แก่เขา!”
ซินเหยายิ้มเล็กน้อย แอบคิดในใจว่า นักดาบซื่อเทียนคนนี้ช่างเป็นเด็กน้อยซุกซนจริงๆ!
เดิมที ในใจของนางยังแอบรู้สึกว่ามันไม่เป็นการดีที่จะหยอกล้อผู้อาวุโสคนหนึ่ง ดีร้ายเขาก็เป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือผู้สูงส่งคนหนึ่งเชียวนะ!
ให้เขาสอนวิทยายุทย์รองลงมาที่พอจะตัดก้อนอิฐได้แก่เด็กๆ เหล่านี้ ยังให้เขาช่วยอาบน้ำให้เสี่ยวป๋านอีก รู้สึกราวกับว่าไม่ค่อยเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เอาเสียเลย…
ก่อนหน้าซินเหยารับเขาเป็นศิษย์ เพียงเพราะไม่อยากให้นักดาบซื่อเทียนไปวุ่นวายที่จวนอ๋องโจว๋…
ทั้งสองคนก็ยังไม่ถึงขั้นศิษย์อาจารย์ที่แท้จริงอะไรนักหรอก…
ต่อมาซินเหยาพบว่านักดาบซื่อเทียนคนนี้ถึงแม้จะซุกซน แต่เขาก็มีจิตใจที่ดีทีเดียว อุปนิสัยแปลกประหลาดน่าสนใจ ไม่ใช่คนเลวแต่อย่างใดเลย
เดิมทีซินเหยาอยากจะกำจัดศิษ์คนนี้อย่างเขา ให้เขาไปเป็นนักดาบปรมาจารย์ที่มีผู้คนหลายหมื่นเลื่อมใสด้วยตัวเอง
ทว่าซินเหยากลับค้นพบ ระยะนี้นักดาบซื่อเทียนค่อนข้างมีความสุข ถึงแม้เขาจะมาวอแวซินเหยาเพราะเลื่อมใสในวรยุทธ์ของซินเหยา แต่เขาก็ดูราวกับเป็นเด็กคนหนึ่ง เล่นกันอย่างแข็งขันกับเจ้าเด็กส้งชิงคนนี้เข้าขากันดีนัก!
นอกจากนี้ในใจเขายังค่อนข้างมีความรับผิดชอบ นอกจากเรื่องที่ต้องฝึกฝนแล้ว คนทั้งคนก็ดูแจ่มใสมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ซินเหยารู้ว่าเขาเป็นนักดาบงี่เง่าคนหนึ่ง
เคยหมกตัวอยู่ในภูเขาลำเนาไพรเป็นเวลายี่สิบสามสิบปีเพื่อฝึกฝนวิชาดาบ…
ต่อให้กลายเป็นยอดฝีมือที่หนึ่งใต้หล้า การฝึกฝนวิถีดาบครอบงำจิตใจเยี่ยงนี้ ชีวิตมนุษย์ยังจะมีความหมายอะไรอีกเล่า
เขาอายุปาไปเจ็ดสิบแปดสิบปีแล้ว…
ซินเหยาคิดว่าเป็นการดีที่จะให้เขาปล่อยวางความหัวรั้นต่อดาบลง ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขและสนุกสนานจะดีกว่า
ดังนั้น ซินเหยาจึงเลิกล้มความคิดจะที่กำจัดนักดาบซื่อเทียน ปล่อยให้เขาเป็นศิษย์ที่ฝึกหนักแต่สนุกไปเลยจะดีกว่า…
ส้งชิงเอ่ย “ท่านอาจารย์ ระยะนี้สำนักชิงหลงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เจอเข้ากับเรื่องยากประมือเข้าอย่างจัง”
ซินเหยาเอ่ย “เรื่องอะไร?”
ส้งชิงกล่าว “กองกำลังของสำนักชิงหลงของพวกเราเริ่มบุกเข้าไปในย่านการค้าเมืองเขตตะวันตก ทว่ากลับเผชิญกับอันธพาลคนหนึ่งเข้า”
ซินเหยามองส้งชิงและหลัวเสี่ยวหู่เด็กหนุ่มผู้มีกล้ามเนื้อบึกบึน ก่อนกล่าวกลั้วหัวเราะ “ระยะนี้พวกเจ้ามีวรยุทธ์สูงขึ้น ร่างกายก็เริ่มแข็งแรงขึ้นแล้ว จัดการกับอันธพาลทั่วไปคงจะไม่มีปัญหาอะไรกระมัง”
ส้งชิงเอ่ย “อันธพาลธรรมดาย่อมไม่มีปัญหาอะไร ทว่าอันธพาลคนนี้ มีนามว่าเฉินเปียว เขาเป็นผู้บงการเบื้องหลังเรือขนส่งสินค้าทางเขตเมืองตะวันตก ธุรกิจลับเองก็มีเรือร้อยกว่าลำ มีลูกน้อยอย่างน้อยห้าร้อยคน พวกเราเปิดสาขาย่อยในเมืองเขตตะวันตก รับสมาชิกใหม่ไม่กี่คน ผลลัพ์คือพวกเขาก็มาเยือนเสียแล้ว!”
ซินเหยามุ่นคิ้ว “พวกเจ้าจัดการไม่ได้รึ”
ส้งชิงกล่าว “เฉินเปียวคนนี้มีกลุ่มของยอดฝีมือปรมาจารย์ เขาส่งคนไปทุบสาขาที่เมืองเขตตะวันตกของพวกเรา ข้าและหลัวเสี่ยวหู่นำคนคนจำนวนร้อยกว่าคนไปป่วนท่าเรือของเขาแล้วรอบหนึ่ง ทำร้ายคนของพวกเขาไปสิบกว่าคน ต่อมาเขาส่งนักฆ่ายอดฝีมือมาหลายคนไปที่สำนักหลักทางเมืองเขตใต้ของพวกเรา”
ซินเหยากล่าว “เช่นนั้นไม่ดีหรือ ท่านอาจารย์เจ็บสิบแปดสิบปีคนนั้นของเจ้าถึงแม้จะบอกว่าไม่อาจช่วยพวกเจ้าออกหน้าแทนได้ แต่หากมีคนมีรังแกระราน เขาคงไม่อาจนั่งมองดูอย่างเพิกเฉยกระมัง”
ส้งชิงกล่าว “นี่สิที่มันแย่”
ซินเหยากล่าว “เป็นอะไรไป?”
ส้งชิงกล่าวพลางยิ้มเจื่อน “ตอนที่พวกเขาไปถีบสำนักหลัก ผลลัพธ์คือทั้งหมดล้วนถูกอาจารย์น้องเล่นงานจนพิการ เฉินเปียวผู้นั้นเกลียดฝังใจ พักนี้ได้เชิญยอดฝีมือชั้นสูงคนหนึ่งไปปราบปรามกองกำลังของสำนักชิงหลงที่เมืองเขตตะวันตก พวกเราเพิ่งจะพัฒนาขึ้นในเมืองเขตตะวันตก ก็ถูกเฉินเปียวทุบจนแตกสลายไปเสียแล้ว”
ซินเหยาเอ่ย “เฉินเปียวคนนี้มีความสามารถขนาดนี้เชียวหรือ”
หลัวเสี่ยวหู่เอ่ย “ตัวเขาเองน่าจะเป็นแค่หุ่นเชิด แต่ว่าเขาควบคุมเรือบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่ในน่านน้ำเมืองเขตตะวันตก คนหลายคนต้องพึ่งพาเขาหาเลี้ยงปากท้อง อีกทั้งยังได้ยินว่าเขาเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ลักลอบสินค้าริบเข้าส่วนตัว กองกำลังเบื้องหลังนั้นแกร่งกล้ายิ่งนัก พวกเราไปรุกรานอาณาเขตเมืองเขตตะวันตก ก็มิได้ยั่วโทโสเขาเลย แต่ว่าในเขตเมืองตะวันตกนี้เขาเรียกลมได้ลมเรียกฝนได้ฝน ทำให้มองพวกเราว่าไม่รื่นหูรื่นตา