นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 311
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 311 ทุกอย่างพร้อมพรักขาดแต่ลมบูรพา2
เขาตกใจเสียจนเขียวอืด รีบวิ่งพรวดพราดกลับไปสำนักชิงหลง
บุกทะลุตรงเข้าไปในห้องของซินเหยา เห็นว่านางกำลังกอดเสี่ยวป๋านอย่างจริงจังพอดี และกำลังทำบางสิ่งบางอย่าง…
ส่วนส้งชิงยืนอยู่ด้านข้าง สีหน้าตกใจและจริงจัง
หลัวเสี่ยวหู่ถามเบาๆ “ส้งชิง ท่านอาจารย์คนงามเป็นอะไรไป”
ส้งชิงตอบกลับเสียงแผ่ว “มีเขาสองอันงอกบนหัวของเสี่ยวป๋าน ทั้งเจ็บทั้งคัน ท่านอาจารย์กำลังคิดหาวิธีช่วยให้มันหยุดอาการคันอยู่!”
“อะไรนะ มีเขาสองอันงอกอยู่บนหัว?”
“อืม”
“ประหลาด! แมวจะมีเขางอกออกมาได้อย่างไรกันเล่า”
“เจ้าโง่! ใครบอกเจ้าว่าเสี่ยวป๋านเป็นแมว” ส้งชิงมองหลัวเสี่ยวหู่ด้วยสายตาดูแคลนยิ่งนัก
“เช่นนั้นหมาก็ไม่มีเขางอกบนหัวได้เหมือนกันนี่นา” หลัวเสี่ยวหู่กล่าวอย่างหัวชนฝา
“เสี่ยวป๋านไม่ใช่หมา!”
“เช่นนั้นเป็นอะไรกันแน่”
“อะไรถึงจะงอกเขาได้”
“งอกเขา? กวางดาว!” หลัวเสี่ยวหู่นึกถึงสัตว์ประเภทหนึ่งขึ้นมาในทันที
“เจ้าคิดว่าเสี่ยวป๋านมีส่วนไหนที่คล้ายกับกวางดาวบ้าง” ส้งชิงมองเขาอย่างดูถูก
“เอ่อ มันก็ดูไม่ค่อยเหมือนจริงๆ นั่นแหละ”
“อะไรที่เรียกว่าไม่ค่อยเหมือน มันแตกต่างกันสุดขั้วเลยต่างหากเล่า ข้าได้ยินนักบอดี้การ์ดทั้งสี่พูด เมื่อคืนวานนั้นเสี่ยวป๋านกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายพ่นไฟขนาดมหึมาตัวหนึ่งเพื่อช่วยพวกเขาเชียวนะ! ก็แม้แต่อาจารย์ของข้า ก็ได้เสี่ยวป๋านช่วยชีวิตเอาไว้เชียวนะ!”
“สัตว์ร้ายพ่นไฟ สัตว์ร้ายพ่นไฟอะไรกัน”
หลัวเสี่ยวหู่มีสีหน้าพิศวงและรู้สึกน่าเหลือเชื่อ “ไม่! ไม่! นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า เสี่ยวป๋านดูๆ แล้วก็แค่แมวตัวหนึ่ง จะเป็นสัตว์ร้านพ่นไฟอะไรได้อย่างไรกันเล่า มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
ส้งชิงเอ่ย “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าก็ไม่ได้เห็นกับตา! แค่ได้ยินยักบอดี้การ์ดทั้งสี่พูด จู่ๆ เสี่ยวป๋านก็ขยายใหญ่ขึ้นตั้งหลายเท่า ใหญ่มหึมาเสียยิ่งกว่าสิงโต ทั้งร่างติดไฟ เดินไปไหน เปลวไฟก็เผาไหม้ที่นั่น…”
“นั่นไม่ใช่กิเลนไฟตามตำนานเล่าขานหรอกหรือ”
“เจ้าโง่! กิเลนไฟนั่นเป็นแค่สัตว์เทพเจ้าในตำนานเท่านั้น!”
“แต่ว่าสัตว์ร้ายพ่นไฟที่ทั้งร่างติดไฟ มันก็ดูมหัศจรรย์มากเลยนะ ไม่แน่ใจเสี่ยวป๋านก็คือสัตว์เทพเจ้าในตำนานนั่นก็ได้ ทางเหนือไม่ใช่ว่ามีป่าดึกดำบรรพ์ตั้งแต่ยุคบรรพกาลหรอกหรือ ได้ยินว่าด้านในมีสัตว์ประหลาดดุร้ายจำนวนมากอาศัยอยู่เชียวนะ! หลายเดือนก่อนในเมืองหลวงเองก็ไม่ใช่ว่าเคยได้ยินเรื่องภัยพิบัติจากสัตว์ร้ายอึกทึกกันอยู่หรอกหรือ ได้ยินว่ามีสัตว์ประหลาดอะไรสักตัวออกทำร้ายผู้คนจำนวนมากที่อ่าวเฉียนหลง…ไม่แน่ว่าเสี่ยวป๋านเองก็หนีออกมาจากป่าอะไรนั่นเหมือนกันก็ได้…”
สิ่งที่หลัวเสี่ยวหู่ดูมีความผิดปกติ!
ส้งชิงกล่าวอย่างดูแคลน “กิเลนไฟ? ชื่นชมที่เจ้าคิดออกมาได้! กิเลนไฟนั่นก็คือกิเลนดีๆ นี่เอง”
หลัวเสี่ยวหู่เอ่ย “กิเลนไฟนั้นทั่วทั้งร่างสามารถปะทุไฟได้นะ!”
ส้งชิงพูด “แต่ว่าเสี่ยวป๋านไม่ใช่กิเลนเสียหน่อย!”
หลัวเสี่ยวหู่กล่าว “ไม่น่ว่ามันเป็นกิเลนที่ยังไม่โตเต็มวัยก็ได้ ตอนนี้บนหัวของมันไม่ไช่ว่ามีเขาออกมาหรือ บนหัวกิเลนก็มีเขาเหมือนกันนะ!”
ส้งชิงบอก “เช่นนั้นทั้งร่างของกิเลนก็น่าจะห่อหุ้มด้วยเกราะสีดำที่มิอาจทำลายได้ มีหางเหมือนงู เขี้ยวแหลมคมดุร้าย…เจ้าดูสารรูปเสี่ยวป๋านแบบนี้ เหมือนกิเลนงั้นหรือ”
“เอ่อ…มันต่างกันลิบลับจริงๆ นั่นแหละ”
หลัวเสี่ยวหู่ลูบศีรษะตนเอง ก่อนกล่าว “อัยยะ! เกือบลืมเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไปเสียสนิทเลย!”
ส้งชิงกล่าว “เรื่องอะไร”
หลัวเสี่ยวหู่บอก “เจ้ารีบไปเรียกท่านอาจารย์คนงามมาเร็วเข้า! มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง เร่งด่วนมาก!”
ส้งชิงกล่าว “ท่านอาจารย์กำลังนวดเขาให้เสี่ยวป๋านอยู่แหนะ”
หลัวเสี่ยวหู่พูดว่า “เรื่องฉุกเฉินร้ายแรง! เจ้ารีบไปเถอะน่า!”
ส้งชิงพูด “ทำไมเจ้าไม่ไป”
หลัวเสี่ยวหู่บอก “นางเป็นอาจารย์ของเจ้านะ!”
ส้งชิงเอ่ย “ยามปกติเจ้าเองก็ยังเรียกว่าท่านอาจารย์ตามข้าอย่างไร้ยางอายอยู่นี่นา”
หลัวเสี่ยวหู่พูด “เจ้าจะไปหรือไม่ไป”
ส้งชิงบอก “เจ้าไปเองสิ!”
หลัวเสี่ยวหู่กล่าว “ถ้าหากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะเอาเรื่องที่เจ้าชอบคุณหนูหกไปบอกอาจารย์ของเจ้า!”
บัดนั้นสีหน้าของส้งชิงเปลี่ยนไปในทันที “เจ้า…เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน”
หลัวเสี่ยวหู่กล่าว “ดูแววตาของเจ้าก็รู้แล้ว ตอนที่มองคุณหนูดุร้ายผู้นั้น ดวงตาทั้งสองข้างดูเหมือนจะเปล่งประกาย! พวกเราสองคนเติบโตมาด้วยการสวมกางเกงตัวเดียวกัน เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่!”
“ส้งชิง เจ้าชอบใครไม่ชอบ ดันไปชอบเด็กสาวเอาแต่ใจคนนั้น?”
ดวงตาของซินเหยาแฝงแววจนปัญญา มองส้งชิงด้วยความเห็นอกเห็นใจ!
ส้งชิงคิดไม่ถึงว่าท่านอาจารย์จะได้ยินบทสนทนาของพวกเขาสองคน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย
ซินเหยาลูบหัวเสี่ยวป๋านพลางเอ่ยถาม “เสี่ยวป๋าน! หัวของเจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่”
เสี่ยวป๋านส่ายหน้า
ซินเหยากล่าว “เขาของเจ้างอกแล้ว ย่อมเจ็บๆ คันๆ เป็นธรรมดา ไม่ต้องไปเกา ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นแผลเหวอะหวะ ฟันงอกก็ยังต้องทั้งเจ็บทั้งคันอีก นับประสาอะไรเจ้ามีเขางอกออกมาคู่หนึ่ง! จำเอาไว้ ไม่อนุญาตให้เกาอีกแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะเชิญสาวใช้กลับมา ช่วยเจ้านวด!”
ครั้นเสี่ยวป๋านได้ยินว่าจะเชิญสาวใช้ ดวงตาพลันแพรวพราวขึ้นมา!
ซินเหยาสบถพลางหัวเราะ “พอได้ยินสาวใช้แล้วก็อย่าได้หลุ่มหลงไปเชียว ถึงตอนนั้นข้าจะหาหญิงชราที่ทั้งไม่มีหน้าอกทั้งแก่มาให้เจ้า!”
“ก๊อกก๊อก!”
เสี่ยวป๋านคัดค้านการประหัตประหารครั้งนี้อย่างรุนแรง!
ซินเหยาไม่สนใจการประท้วงของมัน ก่อนเอ่ย “เสี่ยวหู่ เมื่อครู่เจ้ารีบร้อนวิ่งเข้ามาทำอะไร”
หลัวเสี่ยวหู่กล่าว “ใช่แล้ว! ใช่แล้ว! เมื่อครู่บนถนนใหญ่ข้าเห็นฮ่องเต้นำกองทัพที่มีทหารจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องโจว๋แล้ว!”
ซินเหยาเอ่ย “ฮ่องเต้มักจะออกลาดตระเวนอยู่บ่อยครั้ง มีอะไรแปลกประหลาดกันเชียว”
หลัวเสี่ยวหู่กล่าว “ท่านอาจารย์คนงามท่านไม่รู้หรือพักนี้ตามท้องตลาดลือกันว่าฮ่องเต้ส่งคนไปล้างบางจวนเฉิงเสี้ยง!”
สำหรับผลลัพธ์ข้อนี้
ดูเหมือนซินเหยาจะไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด
อันที่จริงคนที่ฉลาดเยี่ยงนางนั้นคิดเอาไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว
พลังอำนาจที่สามารถทำลายล้างจวนเฉิงเสี้ยงให้มอดดับภายในคืนเดียว ก็มีเพียงแต่จวนอ๋องโจว๋และฮ่องเต้อำมหิตเท่านั้น!
จวนอ๋องโจว๋ย่อมไม่กระทำเช่นนี้อย่างแน่นอน!
เช่นนั้น ก็มีเพียงฮ่องเต้อำมหิตเท่านั้นแล้ว!
แต่ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันแน่ชัด นางลังเลที่จะปักใจเชื่อเรื่อยมาว่าฮ่องเต้อำมหิตจะเป็นคนเลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้…
เขาเพียงแค่เย็นชา…
แต่ไม่ได้เลือดเย็นเสียหน่อย!
ซินเหยารู้มาโดยตลอด เขาไม่ใช่คนเลือดเย็น!
คราแรกตอนอยู่จวนตระกูลเก่อ เขาใช้ร่างกายตนเองเป็นโล่กำบังอาวุธลับอาบยาพิษที่พุ่งมาทั่วทุกสารทิศ!