นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 501
ตอนที่ 501 เป็นคนของใคร2
“ซึก!”ก้อนหินก้อนหนึ่งหล่นลงมาตกใส่มือ ทำให้มือของนางสั่นแม้แต่มืออีกข้างที่จับต้นไม้อยู่อ่อนลง เห็นเพียงผ้าผืนหนึ่งรัดตัวนางไว้อย่างรวดเร็ว ดึงตนเองขึ้นมาจากด้านบน หลังจากนั้นก็ใช้แรงดึง ดึงร่างของนงขึ้นไป ซินเหยารู้สึกลอยเคว้งอยู่กลางอากาศแล้วถูกผ้าผืนหนึ่งลากขึ้นไปอย่างปลอดภัย
“เป็นเจ้า?”หากบุคคลที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านางคือน้าเมิ่ง ซินเหยาก็คงไม่ไปประหลาดใจขนาดนี้ แต่ตอนที่นางเห็นว่าเจ้าใบ้เป็นคนช่วยตนเอง นางคิดไม่ถึงว่าเจ้าใบ้จะมีวรยุทธ์
“อย่าไปแตะหญ้ากอนั้นนะ!”เจ้าใบ้พูดไม่ได้ แต่ใช้มือชี้ไปยังหญ้า แล้วส่ายหน้า
ซินเหยาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด จ้องมองนัยน์ตาของเจ้าใบ้อย่างสงสัย“เพราะอะไร?”
การที่ไม่สามารถพูดได้ช่างเป็นอะไรที่ทรมานยิ่งนัก เจ้าใบ้ได้แต่เอานิ้วชี้ไปยังหญ้าต้นนั้น หลังจากนั้นก็ใช้มือทำท่าทำทาง แต่มองดูสายตาไม่เข้าใจของซินเหยา เจ้าใบ้จึงต้องหมุนไปรอบๆ
สุดท้ายเจ้าใบ้ก็ร้อนใจ หยิบก้อนหินก้อนหนึ่งขึ้นมาแล้วโยนไปที่ข้างๆต้นหญ้ากอนั้น
“ซือ”งูสีน้ำตาลตัวเล็กกำลังขู่ฟ่อลิ้นสองแฉกใส่ทั้งคู่อยู่ เลื้อยไปมาไม่หยุด ราวกับโมโหที่พวกเขาบุกรุกพื้นที่อาณาเขตของพวกมันอยู่ รบกวนความสงบของพวกมัน
“ขอบใจเจ้านะ!”นอกจากคำๆนี้แล้ว ซินเหยาก็ไม่รู้จะหาคำอะไรมาพูดขอบคุณเจ้าใบ้แล้ว แต่ใบหน้าของนางกลับมีความกังวลใจ ในบางครั้งการให้คำสัญญาหนึ่งก็อาจจะต้องแลกมาซึ่งชีวิตหนึ่ง อีกทั้งซินเหยาคิดว่าตนคงไม่ตายง่ายขนาดนั้น เหมือนกับหลายปีก่อน ที่นางบาดเจ็บปางตาย ก็ยังอยู่ดีมีสุขอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่หรือ!
“ข้ารู้ว่ามันอันตราย แต่นางไม่สามารถหักหลังคำมั่นสัญญาของตัวเองได้!”ซินเหยามองเจ้าใบ้ที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับเห็นสีหน้าขาวซีดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของซินเหยา ทำให้ซินเหยาตกตะลึง นางจึงใจอ่อนลง ตอนแรกก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาหรือพูดอะไรให้มากความ สายตาเดียว การกระทำเดียว การรู้จักกันเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นตลอดชีวิต
ซินเหยาใช้สายตานิ่งสงบกับเจ้าใบ้ นัยน์ตานิ่ง กลับมาอีกแล้ว นางรู้สึกถึงลมหายใจหนึ่งผ่านหน้าอกของนางออกมา กลิ้งไปกลิ้งมา หลังจากนั้นก็รู้สึกว่านางร้อนไปทั้งร่าง
มีเสียงหนึ่งกำลังนำทางนางไป ซินเหยาใช้จังหวะที่ร่างกายของตนเปลี่ยนไป ส่งสายตาให้เจ้าใบ้ ทั้งสองจ้องตาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ซินเหยาใช้เข็มเงินที่ซ่อนอยู่นำขึ้นมาเล็งไปยังงูตัวนั้น
ซินเหยารู้สึกได้ว่าขณะที่ตนโยนเข็มออกไป มีพลังงานบางอย่างออกมาหน้าอกแล้วถ่ายทอดไปยังมือข้างขวาของนาง
“ซือ ซือ”งูตัวนั้นเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ร่างกระตุกไปหนึ่งที ทำให้โดนเพียงผิวหนังเล็กน้อย ตอนแรกงูตัวนี้ก็โกรธจากการโดนรบกวนแล้วยิ่งโกรธเข้าไปอีก ตัวของมันยังคงขู่ฟ่อไม่ยอมห่างออกห่างหญ้าต้นนั้น
เจ้าเหมือนจะรู้นิสัยของงูชนิดนี้ แล้วก็รู้ด้วยว่าเป้าหมายของมันคือปกป้องหญ้าต้นนั้น
เจ้าใบ้อาศัยที่งูตัวนั้นบาดเจ็บ ส่งกำลังภายในไปยังมือ หลังจากนั้นก็ปล่อยผ้าผืนหนึ่งไปทางทิศทางของงูตัวนั้น
งูตัวนั้นกลับใช้หางของมันปัดออกไป ทำให้ผ้าขาดไป ทำให้ซินเหยากับเจ้าใบ้สูดหายใจพร้อมกัน สายตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง หางของงูตัวนี้เป็นเหมือนใบมีด
ซินเหยาหยิบก้อนหินขึ้นมาถือไว้ในมือ พยักหน้าให้เจ้าใบ้ที่ยืนอยู่ด้วยกัน เจ้าใบ้เข้าใจจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาหลายก้อน
สายตาประสานกัน หลังจากนั้นก็เขวี้ยงหินออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน
งูตัวนั้นก็คาดไม่ถึงว่าทั้งคู่จะใช้วิธีนี้ต่อกรกับตน พยายามหลบเลี่ยงอย่างเต็มที่ เคลื่อนไหวหางไปมา แต่ตามร่างกายของมันเองก็มีบาดแผลหลายแห่ง
ผ่านไปครู่เดียวงูตัวนั้นก็เปลี่ยนเป็นหายใจรวยริน ซินเหยาใช้กำลังแรงส่งพลังของตัวเองจากมือไปยังเข็มเงินเล่มนั้น เล็งไปยังข้างหน้าอย่างแม่นยำ
สุดท้ายงูตัวนั้นก็ดิ้นอย่างทุรนทุรายแล้วก็อ่อนลงไป
ซินเหยาจึงค่อยรู้สึกโล่งอก ทำให้ร่างกายผ่อนคลายลง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายราวกับแตกสลาย
มองดูหญ้าเฉี่ยนเหมียนที่ยังตูมอยู่ ตอนนี้ได้เบ่งบานออกเป็นดอกไม้งามดอกหนึ่ง สีม่วงสว่างช่างงามยิ่งนัก
ซินเหยามองดูหญ้าเฉี่ยนเหมียนข้างหน้า ก็รู้สึกดีใจ ที่แท้ชื่อของมันก็ได้มาอย่างนี้นี่เอง กำลังก้าวเท้ายื่นมือออกไป
ทันใดนั้นมือของนางที่ไปแตะโดนตัวของงูตัวนั้น งูตัวนั้นจึงชูคอมันขึ้น
ขณะเดียวกันนั้น ร่างกายของมันก็ตรงเข้าโจมตีทันที
ซินเหยารู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว ใช้มือข้างหนึ่งมีก้อนหินอยู่ในมือทุบลงไป
สุดท้ายงูตัวนั้นก็คลายตัวมันออกอย่างอัศจรรย์ หญ้าเฉี่ยนเหมียนต้นนั้นก็บานยิ่งขึ้น ราวกับจะบานแข่งกับดอกไม้ทั้งหลังเขา
เจ้าใบ้พูดอะไรไม่ได้ ได้เพียงแค่หายใจอย่างแรงทนกับบาดแผลที่ถูกงูกัดเมื่อครู่ หหน้าของนางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงเรื่อยๆ ริมฝีปากก็เริ่มคล้ำ
“เจ้าใบ้ อดทนไว้นะ!”ซินเหยารีบดึงมือมาตรวจชีพจร สีหน้าของนางก็ดำคล้ำมากยิ่งขึ้นไปอีก
ซินเหยารีบเด็ดหญ้าเฉี่ยนเหมียนออกมา พยุงเจ้าใบ้ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง
ตอนที่พวกนางเดินออกไป ก็มีคนคนหนึ่งกระโดดลงมาจากต้นไม้ต้นหนึ่ง ร่างของเขายืนตรงจุดที่พวกเขาเคยอยู่ หยิบงูตัวนั้นขึ้นมาแล้วเดินจากไป ขณะที่กำลังหมุนตัวออกไป มุมปากของเขาก็แสยะยิ้มอย่างเยาะเย้ย
บรรยากาศยามค่ำคืนสวยมาก แต่กลับมีความมืดปกคลุมอยู่ ซินเหยานั่งลงข้างๆเจ้าใบ้ด้วยความเหนื่อยล้า ในสายตานั้นมีความหน่าย มีความเสียดาย ยังมีบาดแผลที่ยากจะรักษาอีก
“เจ้าใบ้ เจ้าว่าการช่วยชีวิตของเจ้าเพียงครั้งเดียว จะแลกมาซึ่งการตอบแทนของเจ้า แต่เจ้าว่าข้าจะแบกรับมันไหวไหม?”ค่อยๆพยุงใบหน้าไร้สีเลือดที่เปลี่ยนเป็นทรุดโทรม ซินเหยาพึ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าชีวิตอันเปราะบางทำให้นางรู้สึกผิด
กวาดสายตาไปยังหญ้าเฉี่ยนเหมียนต้นนั้น แล้วซินเหยาก็ถอนหายใจ ในตอนแรกนั้นนางจะติดค้างอะไรก็ได้ แต่สิ่งที่ไม่ควรติดค้างคือหนี้บุญคุณ ไม่อย่างนั้นนางคงไม่ลำบากใจขนาดนี้