นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 56
ตอนที่ 56 เจ้าเป็นผู้หญิงหรือ(1)
“เห้ย! ไอ้ขอทาน ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่ รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ มิฉะนั้นอย่ามาหาพวกเราจะไม่เกรงใจแล้วละกัน!” หนึ่งในลูกศิษย์ตระกูลตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด
“หึหึ!”
ทันใดนั้น….
มีเสียงสูงแหลมแปลกๆทะลุผ่านอากาศเข้ามา
“อ้ากกกกกกกก”
ลูกศิษย์คนนั้นมีเลือดออกจมูกและล้มตายลงทันที!
นักกระบี่นั้นกลับยืนนิ่งแม้กระทั่งนิ้วมือก็ไม่ได้ขยับ
ยอดฝีมือตระกูลโจ๋วต่างตกตะลึงหวาดกลัว !
นี่มันทักษะอะไรกัน? นี่มันเป็นการฆ่าคนด้วยตาเปล่าชัดๆ!
โจ๋วเส้าฉีนั้นจับตามองนักกระบี่สกปรกคนนั้นโดยไม่ได้คลาดสายตาแม้แต่นิด แต่ก็ไม่เห็นเขานั้นขยับสักนิดยิ่งไม่รู้เลยว่าเขานั้นทำยังไงศิษย์คนนั้นถึงได้ตาย!
“ข้าจะรออีกครึ่งชั่วยาม! ถ้าตาแก่นั่นยังไม่โผล่หัวออกมา ข้าจะทำให้จวนนี้นองไปด้วยเลือด! จะฆ่าไม่ให้เหลือเลยสักคนเดียว!”
เด็ดขาด!
เย็นชา!
คำพูดธรรมดาน้ำเสียงราบเรียบชัดเจนทุกถ้อยคำ ทว่ากลับแผ่รังสีอำมหิตหมายที่จะสังหารออกมา
“ตาแก่หาน ข้าไม่อยู่นี่เจ้าก็ถือโอกาสเข้ามากลั่นแกล้งลูกของของข้าเชียวหรือ ไม่เจอกันยี่สิบปี เจ้านี่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีอนาคตเสียจริง”
เสียงของนายท่านโจ๋วนำมาก่อนตัว กำลังภายในกลับมาสมบูรณ์เต็มที่
“ท่านพ่อกลับมาแล้ว!”
“นายท่านกลับมาแล้ว!”
เหล่าลูกศิษย์ตระกูลโจ๋วต่างก็พากันโล่งใจ ทีนี้ก็ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงแล้ว! นายท่านโจ๋วยังคงเป็นยอดฝีมือมือหนึ่งในโลกนี้ ไม่มีใครจะมากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาได้! นายท่านโจ๋วกลับมาแล้ว นักกระบี่สกปรกคนนี้กำลังรอความโหดร้ายอยู่หรืออย่างไร เหล่าลูกศิษย์ต่างพากันคิดสงสัย
โจ๋วเส้าฉีเรียกให้ลูกศิษย์สองคนนำศพหามออกไปจากนั้นเดินก้าวไปข้างหน้าสองก้าวเพื่อที่จะอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายท่านโจ๋วยกมือขึ้นมาขวางไว้ โจ๋วเส้าฉีจึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
นายท่านโจ๋วสังเกตนักกระบี่สกปรกคนนั้นอย่างละเอียดพลางพูดว่า “ตาแก่หาน ทำไมเจ้าถึงได้ดูทั้งเอ้อระเหยทั้งดูไม่เหมือนคนขนาดนี้นะ?”
นักกระบี่สกปรกตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า “ข้าฝึกกระบวนกระบี่อย่างยากลำบากที่ภูเขาทะเลทรายมายี่สิบปีก็เพื่อวันนี้!”
นายท่านโจ๋วตอบกลับไปด้วยความสนใจ “อย่างนั้นหรอ? ดูเหมือนว่าจะเจ้ามั่นใจในที่เจ้าฝึก….”
“ลองเดี๋ยวท่านก็รู้เอง!”
นักกระบี่สกปรกลืมตาขึ้นมาฉับพลัน ดวงตาสั่นไหว ไร้สิ้นความดุดัน ทว่านี่ถึงจะเป็นพลังภายในที่สั่งสมแท้จริงของยอดฝีมือ!
เขานั้นถือท่อนฟืนไฟด้วยมือข้างเดียวชี้ไปยังนายท่านโจ๋ว “สงครามครั้งนี้! ตัดสินแพ้ชนะของข้ากับเจ้า!”
นายท่านโจ๋วพูดว่า “กระบี่ของเจ้าละ นักกระบี่โหมไม่มีกระบี่เชอเม่ยยังนับว่าเป็นนักกระบี่ โหมได้อยู่หรือ”
“นักกระบี่โหม?”
“เจ้าคือนักกระบี่โหมหรือ?”
“เจ้าคือนักกระบี่โหมที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์และหลงใหลบ้าคลั่งในตำนานของยุทธภพหรือ?”
“หนึ่งในสี่ปรมาจารย์ของราชวงศ์เทียนส้ง?”
“นักรบผู้หญิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้มาจากสามตระกูล?”
เหล่าลูกศิษย์ตระกูลโจ๋วได้ยินคำว่านักกระบี่โหมต่างก็พากันตกใจ
ตัวตนที่แท้จริงของนักกระบี่สกปรกคนนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นหนึ่งในสี่ปรมาจารย์ในตำนาน! นักกระบี่โหมกับนายท่านโจ๋วไม่แน่ว่าระดับเทียบเท่ากัน
นักกระบี่โหมขมวดคิ้ว “ยี่สิบปีก่อนข้าแพ้ให้กับเจ้า กระบี่เชอเม่ยคือสิ่งอัปยศของข้า ข้าได้ทิ้งมันลงหน้าผาไปแล้ว! ท่อนฟืนในมือข้าวันนี้ คืออาวุธข้าใช้ฝึกที่ภูเขาลึกมาถึงยี่สิบปี!”
นายท่านโจ๋วพูดว่า “ไม่มีกระบี่ในมือของเจ้ายังดีกว่า ดูเหมือนว่าทักษะกระบี่ของเจ้าคงจะพัฒนาไม่น้อย”
นักกระบี่โฆมตอบกลับอย่างเยือกเย็น “เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! เข้ามาได้แล้ว!”
นายท่านโจ๋วตอบกลับไปว่า “ข้าจะไม่สู้กับเจ้า”
นักกระบี่โหมถามกลับไปอย่างโกรธเคือง “ทำไม!?”
นายท่านโจ๋วตอบว่า “สี่สิบปีที่แล้ว เจ้ากับข้าต่อสู้กัน ยี่สิบปี่ก่อน เจ้ากับข้าก็ยังสู้กันอีก มาจนวันนี้ก็ยังสู้กันอีก ถ้ายังขัดแย้งกันไม่หยุดแบบนี้ มันจะมีวันจบสิ้นหรืออย่างไรกัน”
นักกระบี่โหมตอบกลับไปว่า “ข้าเกิดมามีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว ก็คือทำให้เจ้าแพ้ต่อข้า! ข้าจะพิสูจน์ให้ทั้งโลกรู้ว่าข้านี่แหละถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งนักกระบี่ระดับหนึ่ง!”
นายท่านโจ๋วตอบกลับไปว่า “เจ้านี่สนใจนักกระบี่ระดับหนึ่งจริงหรือ”
นักกระบี่โหมตอบว่า “เพียงแค่ชนะต่าเฒ่าเต่าอย่างเจ้าได้ ข้าก็จะกลายเป็นนักกระบี่ระดับหนึ่ง! วันนี้แค้นเก่าแค้นใหม่จงลืมไปซะ! นักกระบี่ระดับหนึ่งถ้าไม่ใช่ข้า! พวกเจ้าตระกูลโจ๋วต้องชดใช้อย่างเจ็บปวด!”
“ทำไมต้องทำเช่นนี้”
นายท่านโจ๋วฉับพลันยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“พี่หาน นี่มันก็ผ่านมาห้าสิบปีแล้ว!”
“ท่านจะผูกใจเจ็บทำไมอีก?”
“เฟิ่งหลิงตายไปแล้ว!”
“พวกเราทั้งคู่ก็ไม่ใกล้ฝั่งเต็มที่แล้ว อีกไม่นานก็ตายแล้ว!”
“ต่อสู้กันอีกได้ชื่อเสียงอันจอมปลอมมาแล้วมันมีความหมายอะไร?”
“ไร้สาระ!” นักกระบี่โหมตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเคือง
“เจ้ากลายเป็นคนยืดยาดเหมือนหญิงแก่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
“นายท่านโจ๋วพูดกลับไปว่า “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนยังมียอดคน ถึงแม้ว่าเจ้าจะชนะข้าไปแต่เจ้าก็ไม่อาจใช่นักกระบี่ระดับหนึ่ง พูดไปเจ้าก็ไม่เชื่อ! แต่ข้าจะบอกอะไรเจ้าไว้อย่าง เพื่อที่จะได้ชื่อเสียงจอมปลอมถึงกับต้องละทิ้งชีวิตที่มีค่าไป มันไม่คุ้มกันเสียเลย!”