นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 580
ตอนที่ 580 ต้องดึงความสนใจของฮ่องเต้
ซินเหยาลูบมัน นางชอบมันมากทำให้นางสบายใจขึ้นเยอะ
มันได้ยินซินเหยาชมก็วิ่งรอบออดอ้อนซินเหยาด้วยความน่ารักเชื่อฟัง
“พี่ข้าเคยฝันเห็นมัน เหมือนมันจะฟังข้าออก” ซินเหยานึกถึงความฝันที่เคยฝัน ในฝันมันมายุ่งวุ่นวายกับนางไม่หยุดแล้วก็ได้ยินเสียงมันบ่อยครั้งนัก นั่นมันอยู่ทางเหนือไม่ใช่หรือทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
โจว๋หยูนถิงรีบอธิบายให้ซินเหยาฟัง “เจ้าว่ามันน่ารักแต่ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเก่งขนาดไหน อีกอย่างมันยังเข้าใจคนด้วย แต่เชื่อฟัง ก็เชื่อฟังแค่เจ้าคนเดียวมันคือเซียนสัตว์”
“ปัง” ได้ยินเซียนสัตว์สองคำนี้มือของซินเหยาก็ปัดเหมือนกับว่านางกำลังแบกคำสั่งชีวิตอะไรสักอย่างเอาไว้ แต่นางอยากจะปัดมันออก นางสะบัดมือทำให้มันกระเด็นตกลงมา
“วู วู วู” มันถูกซินเหยาปัดจนตกลงมา ร้องอ้อนอยู่ที่พื้น เหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังเกาะขาซินเหยาเอาไว้ กลัวว่าซินเหยาจะไม่สนใจมัน มองดูซินเหยาที่กำลังมองมัน มันรีบทำหน้าน่าสงสารทันที
ซินเหยาดูแล้วใจอ่อน ซินเหยายิ้มแล้วก้มลงมา “เจ้าช่างเชื่อฟังดีจริง ข้าไม่ทิ้งเจ้าหรอก” พูดไปซินเหยาก็ใช้มือลูบตัวมัน
มันอยู่ในอ้อมอกของซินเหยาอย่างเชื่อฟังแล้วปล่อยให้ซินเหยาลูบขนของมัน
โจว๋หยูนถิงเห็นซินเหยายอมรับมันได้ก็ถามขึ้นว่า “เจ้าพอจะนึกอะไรออกไหม”
สำหรับคำถามของโจว๋หยูนถิงทำให้ซินเหยารู้สึกสับสน “ความจำของข้าสับสนวุ่นวายไปหมดที่ข้าจำได้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง นั่นคือ ข้ากระโดดลงหน้าผา ข้างหลังมีคนมากมาย แล้วก็มีเด็กคนหนึ่งเด็กที่ยังไม่สามารถเดินได้ ” ทุกครั้งที่เห็นภาพพวกนี้จะเป็นตอนที่นางตกอยู่ในอันตรายหรือคิดอยากจะไปจากโลกนี้
โจว๋หยูนถิงได้ฟังซินเหยาพูดแบบนี้เขาก็ขมวดคิ้ว
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แล้ววหันไปทางเหนืออย่างสับสน
ซินเหยามองตามโจว๋หยูนถิงแววตาสับสน “พี่ ถ้าจะดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้ เกรงว่าคงจะอันตรายหน่อย ยังมีอีกวิธีหนึ่ง แต่มันอันตรายมาก”
สำหรับอีกวิธีหนึ่งของซินเหยา โจว๋หยูนถิงเห็นสีหน้าของนางก็รู้ว่ายาก แต่เขาก็อยากฟังดู
ซินเหยาพยักหน้า แล้วนั่งลงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าประเมินดูแล้วชายแดนนี่เป็นเขตของเว่ยโก๋กง ตอนนี้ฮ่องเต้ส่งคนมาถึงที่นี่ก็เท่ากับว่าฮ่องเต้ร็แล้วว่าเว่ยโก๋กงคิดจะกบฎ ตอนนี้คือต้องล่อเสือออกจากถ้ำ”
โจว๋หยูนถิงอึ้งแต่ก็ยังคงงง “แล้วทำไมเป็นตระกูลโจว๋ล่ะ นี่มันไม่ค่อยเหมาะสมไม่ใช่หรือ แล้วยังทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าฮ่องเต้กำลังบอกเว่ยโก๋กงว่าเขาได้กันเว่ยโก๋กงแล้ว”
ซินเหยาโบกมือไปมายิ้มแล้วพูขึ้นว่า “ข้าเคยเจอฮ่องเต้ แต่เพราะข้าจำไม่ได้ รวมไปถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮ่องเต้แซ่ซ่างกวน ตอนนั้นเขาต้องการที่จะทำให้การค้าของเว่ยโก๋กงยิ่งใหญ่ แบบนั้นถ้าหากเว่ยโก๋กงกบฏแน่นอนว่าต้องลำบาก แต่ฮ่องเต้คงคิดว่านี่มันก็หลายปีแล้วดังนั้นถึงได้คิดที่จะถอนรากถอนโคนไง” ซินเหยาหยุดแล้วมองดูโจว๋หยูนถิงที่ยังงงอยู่ นางยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ถ้าตามที่เจ้าพูดมาเมื่อครู่ที่ฮ่องเต้จัดการกับตระกูลโจว๋ เกรงว่าฮ่องเต้คงกำลังหลอกใช้ตระกูลโจว๋ เจ้าคิดถ้าหากตระกูลโจว๋คิดจะกบฏจริง งั้นเสือสองตัวก็ไม่อยากอยู่ในถ้ำเดียวกันได้ งั้นพวกเขาก็เลือกที่จะดูฮ่องเต้กับเว่ยโก๋กงสู้กัน แต่ถพวกเขาคิดเช่นนี้เว่ยโก๋กงจะต้องชักชวนพวกเขาแน่ ให้คิดเสียว่าฮ่องเต้ส่งพวกขามา ไม่งั้นก็จัดการกับตระกูลโจว๋ งั้นฮ่องเต้ก็ได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว แค่รอดู”
ซินเหยาพูดอย่างมีเหตุมีผล ในขณะที่พูดนางก็หยุดพักดื่มน้ำด้วย แต่ไม่ได้สังเกตเห็นแววตาของโจว๋หยูนถิงเลย ว่าเขาดีใจแค่ไหน
“เป็นอะไร มีปัญหาอะไรหรือเปล่า แน่นอนว่ายังมีบางที่ที่ข้าพูดได้ไม่ชัดเจน แต่ข้าก็พึ่งประเมินสถานการณ์เองนะแน่นอนว่ายังไม่รอบคอบ” ซินเหยาพูดขึ้น
โจว๋หยูนถิงถึงได้สติกลับมา “ไม่ ข้าดีใจ ซินเหยาเจ้าทำให้ข้านับถือเจ้าจริงๆ ทำไมเจ้ารู้มากมายขนาดนี้ เรื่องพวกนี้ข้ายังคิดไม่ถึงเลย” โจว๋หยูนถิงพูดขึ้นด้วยความดีใจอย่างไม่ปิดบัง
ซินเหยาได้ยินโจว๋หยูนถิงชมตัวเองเช่นนี้ ไม่รู้ทำไมนางถึงได้รู้สึกกลัว ราวกับว่าสิ่งพวกนี้ไม่ใช่อยู่ในโลกนี้รวมไปถึงของที่นางกำลังพัฒนาอยู่ในช่วงนี้ นี่มันคือของที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทำเลย บางครั้งนางก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่านางไม่ใช่คนของโลกนี้ แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือทำไมนางถึงมีความทรงจำกับโจว๋หยูนถิงมากมายขนาดนี้ แต่ความทรงจำอื่นๆกลับจำไม่ได้ นางอยากจะรวบรวมความจำ แต่เกรงว่าคงจำไม่ได้
โจว๋หยูนถิงกำลังตั้งใจฟังที่ซินเหยาพูดทำให้เขาไม่ทันสังเกตสีหน้าของซินเหยาในตอนนี้
อ่อใช่แล้วงั้นพวกเราจะตอบกลับน้องรองเขาไปว่าอย่างไร โจว๋หยูนถิงก็ไม่ปิดบังสถานะของตนอีกต่อไป เพราะเขาก็ได้เห็นความสามารถของซินเหยาแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคนเดียวคงต่อกรด้วยไม่ได้แน่
“บอกพวกเขาให้คอยคุ้มกันชายแดน คงให้พวกเขาขัดราชโองการในตอนนี้เลยไม่ได้ หลังจากนั้นพวกเราก็แสดงตัวแล้วกลับไปยังเมืองหลวง จากนั้นค่อยว่ากันใหม่” ซินเหยาพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ “แต่ข้ากำลังคิดว่าข้าจะแสดงตัวดีไหม” สำหรับปัญหานี้ซินเหยายังคิดไม่ตก
“พี่ฮ่องเต้รู้สถานะที่แท้จริงของข้าไหม” พอถึงตรงนี้ซินเหยาถึงได้รู้ว่าตนนั้นยังไม่เข้าใจสถานะของตนดี
“ล้วนไม่รู้สถานะของพวกเราทั้งสองคน พูดให้ชัดก็คือมีคนรู้น้อยมาก” โจว๋หยูนถิงพูดด้วยความแน่ใจ
ซินเหยากับเขาจ้องตากันแล้วยิ้ม จากนั้นซินเหยาก็อุ้มมันออกไปจากห้องนี้ ตอนนี้ต้องรอให้แม่ทัพใหญ่โจว๋มาถึงเมืองนี้ก่อน ที่จริงแล้วนางไม่ได้ถามว่าทำไมถึงต้องปกปิดสถานะของนางกับโจว๋หยูนถิงด้วย แล้วทำไมตระกูลโจว๋ถึงเป็นแบบนี้ ยังคงมีความไม่เข้าใจอีกมากมายที่นางต้องหาคำตอบด้วยตนเอง
“เจ้าพูดอะไรนะเขาให้เราไป” โจว๋เวยพูดขึ้น
โจว๋จวู้นมองเขาด้วยความโกรธ “ที่เขาพูดมามีเหตุผลตอนนี้พวกเราไม่สามารถขัดราชโองการได้ ข้าดูจากที่เขาพูดมา เหมือนว่าเขาจะเตรียมให้พวกเราไปที่นั่น หลังจากนั้นเขาจะกลับมายังเมืองหลวง ที่จริงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” แววตาของโจว๋จวู้นขณะที่พูดเต็มไปด้วยความหวังแล้วมองไปยังพี่น้องของตนเองอย่างมั่นใจ
ทุกคนเห็นเขาพูดเช่นนี้ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ยังไงเสียจวนนี้อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ง่ายเลย
ตระกูลโจว๋แค่ขยับเว่ยโก๋กงก็ได้รับข่าวแล้ว
“เจ้าบอกว่าที่ฮ่องเต้ส่งพวกเขามาก็เพื่อมาป้องกันไม่ให้ประเทศเพื่อนบ้านมารุกรานงั้นหรือ” ขณะที่เว่ยโก๋กงพูดประโยคนี้เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดง จะไม่ให้โกรธได้ไง ฮ่องเต้ตั้งใจทำแบบนี้เหมือนอยากจะบีบให้เขากบฏยังไงอย่างนั้น
แต่พอเว่ยโก๋กงนึกถึงคนที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ในห้องลับนั่น เขาก็ผุดรอยยิ้มที่ยากจะเดาได้ออกมา ดูท่าคงจะเป็นไปตามที่เขาพูดไว้แล้ว ถ้าหากให้คนตระกูลโจว๋รู้เรื่องนี้ พวกเขาจะทำอย่างไร
ฮ่องเต้คิดอะไรอยู่กันแน่ เว่ยโก๋กงคิดยังไงเขาก็ควรไปเจอคนตระกูลโจว๋ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
พอโจว๋จวู้นพาเหล่าพี่น้องมาถึงเขตชายแดนนี่ พึ่งจะจัดการอะไรเรียบร้อย เก้าอี้ยังนั่งไม่ทันอุ่นเลยเว่ยโก๋กงก็มาหาถึงที่แล้ว
“ไม่ร็ว่าแม่ทัพใหญ่โจว๋มาถึง เสียมารยาทแล้ว ขอแม่ทัพใหญ่อย่าได้คิดมากเลย” เว่ยโก๋กงกำลังพูดยออยู่
แต่โจว๋จวู้นยังคงดูมีบารมีสำหรับคนนอก เขายิ้ม “ควรเป็นพวกเรามากกว่าที่ไปเยี่ยมหาเว่ยโก๋กง แต่พึ่งมาถึง นี่คิดว่าจัดการอะไรเรียบร้อยแล้วจะไปหาท่านที่จวนเว่ยอยู่พอดี”
เว่ยโก๋กงได้ฟังโจว๋จวู้นพูดเช่นนี้ เขาก็ดีใจ นี่คือเป้าหมายที่ทำให้เขามาที่นี่ เขาอยากให้โจว๋จวู้นไปที่จวนเว่ย เรื่องจะได้ง่ายขึ้น
“ดีสิ ข้ายินดีต้อนรับ มีคนมาดื่มกับขาก็ดี” เว่ยโก๋กงพูดอย่างวางอำนาจ
นั่นทำให้โจว๋จวู้นไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ได้แต่ตกลง
ข่าวเว่ยโก๋กงไปหาแม่ทัพใหญ่จวนก็ถูกส่งไปให้ซ่างกวนเหมิงห้าวอย่างรวดเร็ว
“คิดไม่ถึงว่าเว่ยโก๋กงจะใจร้อนขนาดนี้ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาดี แต่อย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ข้าจะรอดูความพ่ายแพ้ของเขา”
ซ่างกวนเหมิงห้าวนั่งอยู่ในตำหนักยู้ซูฟังรายงาน สีหน้าเขาดูดุ เขาต้องการให้เว่ยโก๋กงลงมือก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆจัดการกับเขาทีละนิด ตกลงมาจากที่สูงยังไงมันก็เจ็บกว่าอยู่แล้ว
“คอยสังเกตทุกการกระทำเอาไว้ ข้าอยากร็ว่าโจว๋จวู้นจะทำอย่างไร อย่าทำร้ายความไว้ใจที่ข้ามีให้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเลวร้ายกว่าตอนนั้น” ซ่างกวนเหมิงห้าวนึกถึงเรื่องในปีนั้น แววตาเต็มไปด้วยเลือด
ซินเหยากับโจว๋หยูนถิงออกจาเมืองนี้ไปเมื่อโจว๋จวู้นมาถึงและไปเจอเว่ยโก๋กง ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่อยากเจอ แต่เพราะซินเหยาคิดว่า ตอนนี้โจว๋จวู้นต้องถูกฮ่องเต้จับตาดูอยู่แน่ เพื่อไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสองอย่าพึ่งเจอกันจะดีกว่า อย่าพึ่งพูดถึงว่าโจว๋หยูนถิงกับโจว๋จวู้นแซ่เดียวกันแต่นี่คนหนึ่งคือพ่อค้าอีกคนคือแม่ทัพฮ่องเต้ต้องสงสัยแน่
พอถึงตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะไปถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยได้ไหม
เข้าเมืองหลวงอีกครั้งซินเหยารู้สึกคุ้นเคยกับมันแปลกๆ นางรู้ว่านางควรคุ้นเคย เพราะนางคือสนมของฮ่องเต้ งั้นก็พูดได้ว่าเมืองหลวงคือบ้านของนาง ความคุ้นเคยนี้ทำให้ความทรงจำของนางค่อยๆกลับมา เพราะมักจะมีภาพจางๆโผล่เข้ามาในหัวของนาง
“ซินเหยา เป็นอะไรไม่สบายตรงไหนเปล่า” โจว๋หยูนถิงเห็นซินเหยาท่าทางไม่ค่อยดีเป็นห่วงกลัวว่าแผลเก่ายังไม่หายดีแล้วยังมาโดนธนูยิงอีก
ซินเหยาส่ายหัวไปมาแล้วมองโจว๋หยูนถิงนางยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ข้าแค่รู้สึกว่าความทรงจำของข้าอยู่ที่นี่”
โจว๋หยูนถิงได้ยินซินเหยาพูดแบบนี้เขาก็ดีใจปนเป็นห่วง
ถนนในเมืองหลวงนั้นกว้างมากทำให้ซินเหยาอดที่จะเปิดผ้าแล้วมองดูไปข้างนอก
“ไม่ต้องดูเจ้าไม่ได้เอาผ้าปิดหน้าเอาไว้” โจว๋หยูนถิงดึงผ้าลงแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
ซินเหยาพยักหน้าแล้วครุ่นคิดอยู่เงียบๆ
รถม้าสองคันก็เดินผ่านถนนเส้นนี้ไป
ซ่างกวนเหมิงห้าวรู้สึกว่าซินเหยาอยู่ตรงหน้าของตนเอง แต่แค่ภาพลวงตา ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทั้งสองข้างผู้คนมากมาย หลับตาลืมตาขึ้นซ่างกวนเหมิงห้าวรู้สึกว่าเขาคงคิดถึงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นคงไม่เห็นภาพหลอนของซินเหยาหรอก