นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 744
ตอนที่ 744 ล้วนเป็นเพราะความผลีพลามของเขา
“ซิงเฉินเจ้ายังเดินได้อยู่ไหม” ซินเหยามองดูใบหน้าที่ขาวซีด เมื่อครู่เพราะความเจ็บปวด เขาก็ยังไม่กัดแขนของซินเหยา นั่นก็เท่ากับว่าเขากัดจนริมฝีปากของตนเองแตกไปแล้ว ตอนนี้ยังมีรอยเลือด ในใจของนางรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ
โอหยางซิงเฉินส่ายหัวไปมาให้รู้ว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร จากนั้นก็ยื่นมือออกมาข้างหนึ่งให้ซินเหยาเข้ามาพยุงตัวเขา
“พวกเราไปกันเถอะ”
ถึงแม้จะไม่มีแรงแต่สำหรับเขาที่ฝึกวรยุทธแผลพวกนี้เขาชินกับมันไปแล้วดังนั้นเขาไม่กลัวกับแผลพวกนี้หรอก
ยื่นมือออกมาข้างหนึ่งเขาวางมือไว้ที่ไหล่ของซินเหยา ซินเหยาเองก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม ยังไงเสียที่โอหยางซิงเฉินบาดเจ็บก็เพราะตนเอง และตอนนี้เขาคงอ่อนแอมากแน่ๆ
ทั้งสองค่อยๆเดินแบบนี้ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเจอกับอันตรายอะไรอีก แต่ในเมื่อยังเดินเข้ามาได้ก็ต้องเดินออกไปได้เช่นกัน
ซินเหยามองดูเก้อปิงอย่างลังเล สุดท้ายหลับตาแล้วหมุนตัวหันกลับมา ขอให้เขาฟื้นได้สติกลับมาเร็วๆเถอะนะ ในใจของซินเหยาพูดอยู่แต่ประโยคนี้
ซินเหยาพยุงโอหยางซิงเฉินค่อยๆเดินไปทางประตูทางออก
ถึงแม้จะช้า แต่ซินเหยาก็รับรู้ได้ถึงความพยายามของโอหยางซิงเฉินที่เดินออกมากับตน
“ประตูทางออกทำไมปิดแล้ว” ซินเหยาเดินเข้ามาใกล้ถึงได้พบว่าประตูหินเมื่อครู่ที่เข้ามาปิดแล้ว นางลองผลักประตูดูแต่เพราะมือข้างหนึ่งพยุงโอหยางซิงเฉินเอาไว้ จึงออกแรงได้ไม่เต็มที่นางรวบรวมแรงเอาไว้ที่มือแล้วผลักดูว่าจะเปิดได้ไหม
โอหยางซิงเฉินเองก็รู้ว่าซินเหยากำลังใช้กำลังภายใน จึงพยายามดันตัวเองออกเพื่อให้ดันซินเหยาเอาไว้
“ยังเปิดไม่ออกหรือ” โอหยางซิงเฉินมองดูซินเหยาด้วยสายตาที่เสียดาย และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
ซินเหยาส่ายหัวไปมา “ไม่รู้ว่าคนแก่เมื่อครู่ออกไปยังไง ดูท่าตอนเขาเข้ามาก็ราบรื่นดี แต่ว่าตอนนี้พวกเราถูกขังเอาไว้ที่นี่ ข้ามักจะมีความรู้สึกไม่ดีขึ้น ถ้ายังเปิดไม่ออกอีกสงสัยว่าพวกเราคงออกไปไม่ได้แน่” ความรู้สึกของซินเหยาเป็นจริงตลอด ดังนั้นนางจึงเป็นห่วงมาก นางก็แปลกใจว่าทำไมถึงมีความรู้สึกเช่นนี้ ความรู้สึกแบบนี้
เห็นซินเหยากังวลแบบนี้ โอหยางซิงเฉินเองก็คิดหนัก “ให้ข้าลองดู”
เขาคิดลองใช้กำลังภายในของตนเอง ใช้กำลังภายในทั้งหมดบางทีอาจจะเปิดประตูได้ ถึงจะเปิดไม่ได้แต่ก็คงทำให้แตกบ้าง
“ไม่ต้อง……..”
ซินเหยาเห็นโอหยางซิงเฉินยื่นมือออกมาเลยยื่นมือเข้ามาขวางมือของโอหยางซิงเฉินเอาไว้ ทั้งสองมือประสานกัน
ซินเหยายังไม่ทันได้รู้สึกเขินอายที่มือของตนเองและมือของโอหยางซิงเฉินประสานเข้าด้วยกัน ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น ประตูนั่นเปิดออกเองแล้ว
ซินเหยาดีใจมองไปทางโอหยางซิงเฉิน ทั้งสองสบตากัน จากนั้นซินเหยาก็รีบพยุงโอหยางซิงเฉินเดินออกมาข้างนอก
เดินออกมาจากทางออกนี้ ข้างนอกไม่ได้มีลมพัดแรงเหมือนตอนแรกที่มาแล้ว มีเพียงแค่ความเงียบสงบและเยือกเย็น
ซินเหยานึกถึงตอนนั้นที่เก้อปิงและเก้อเหลี่ยงคุยกัน พวกเขาพูดถึงแต่ว่าสองคนจะต้องมีใจเป็นหนึ่งเดียวกันถึงจะผ่านจุดที่ยากที่สุดได้ งั้นเมื่อครู่นางกับโอหยางซิงเฉินก็มีใจตรงกัน ถึงได้ผ่านออกมาได้
ซินเหยาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางโอหยางซิงเฉิน
ทั้งสองยังไม่ทันได้เป็นห่วงซึ่งกันและกัน ถ้ำหินข้างหลังก็ถล่มลงมาแล้ว
ซินเหยาใจหาย มองดูถ้ำหิน นางจำได้เก้อปิงยังอยู่ข้างใน งั้นก็เท่ากับว่าเก้อปิงถูกฝังทั้งเป็นอยู่ข้างในนั้นหรือ นางนึกขึ้นมาว่ามีคนคนหนึ่ง นางนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง เก้อปิงมองดูแล้วยิ้มให้กับตนเอง นางยังจำได้เก้อปิงวาดภาพนาง นางยังจำได้วันนั้นเพื่อช่วยนางเก้อปิงกังวลมากขนาดไหน
“เขาตายแล้ว”
คำพูดนี้ของซินเหยาถึงจะฟังไม่ออกว่านางอั้นความรู้สึกเอาไว้ แต่โอหยางซิงเฉินรู้ได้ว่านางเสียใจ
เขาเข้ามากอดนางเอาไว้ ความเยือกเย็นของที่นี่ ความสับสนในใจเขาอยากจะช่วยทำให้หายไปจากนาง
ความอุ่นข้างๆกายทำให้นางได้สติกลับมา นางอดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเอง ตอนนี้ตัวเองยังออกมาไม่ได้เลย ไหนเลยยังจะมามีเวลาไปสนใจคนอื่นอีก ตอนนี้ที่นางต้องเป็นห่วงคือคนที่อยู่ข้างๆนี้
ซินเหยายื่นมือมาพยุงโอหยางซิงเฉิน ทั้งสองเหมือนกับคู่สามีภรรยาในช่วงพลบค่ำยังไงอย่างนั้น ข้างหลังคือกลีบดอกเหมยที่ร่วงลงมาทีละกลีบทีละกลีบ ไม่รู้ว่าเวลานี้ใครกันที่ร้องเพลงที่เศร้าเสียใจ ดอกมนี้ร่วงลงดินแสดงถึงความเจ็บปวดเสียใจ
ตอนที่ซินเหยาและโอหยางซิงเฉินออกมา นอกจากเห็นซากตอนที่พวกเขาเข้ามาก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไรอีกเลย ทุกๆอย่างเงียบสงบ ราวกับว่าไว้อาลัยให้กับคนที่ตายระหว่างทางพวกนั้น
ตรงทางออก เสี่ยวจาช้า หรือเพราะหุบเข้าเถาหยวนใหญ่เกินไป บวกกับที่เก้อปิงเลี้ยงดูเสี่ยวจาดีเกินไป หรือดูแลดีเกินไป ทำให้นางออกมาได้ไม่ไกล เดินวนอยู่หลายรอบ นางถึงหาที่ที่เรียกว่าสถานที่ลับ ในใจกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้ว่าตนเองจะมีความกล้าเข้าไปข้างในไหม นางครุ่นคิด ตนเข้าไปจะถูกเจ้าบ้านรองต่อว่าไหม ถ้าเป็นเช่นนั้น ตนเองก็ยิ่งไม่มีโอกาสไปกับซินเหยาออกจากเถาหยวนซานม้ายนี้ ยิ่งออกไปไม่ได้ ดังนั้นนางจึงครุ่นคิดอยู่ตรงหน้าทางออกนี้
ซินเหยาพยุงโอหยางซิงเฉินออกมา ทางมันไกลเกินไป ในที่สุดก็อดทนมาถึง วันนี้สามารถออกมาได้แล้ว ซินเหยาแอบดีใจ
สีหน้าที่ดีใจพูดกับโอหยางซิงเฉินว่า “ซิงเฉิน มองเห็นไหม อีกเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้ว พวกเราใกล้จะออกไปได้แล้ว”
ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยเกินไปแล้ว หรือเพราะตอนที่โอหยางซิงเฉินได้ยินคำว่าทางออก ใจที่ยืนหยัดของเขากับตัวของเขาอ่อนระทวยล้มลงมาทันที
“ซิงเฉินเจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจสิ”
รู้สึกว่ามีอะไรหนักๆหล่นลงมาทับตัวเองไว้ ซินเหยาสะดุ้ง รีบดูลมหายใจของโอหยางซิงเฉิน รู้สึกว่ายังหายใจอยู่ แต่อ่อนมาก แต่ก็ยังมี นางรีบเร่งความเร็วออกไปข้างนอก
“เอ่อ……………………..”
ซินเหยาดึงเขาอย่างยากลำบาก แสดงให้เห็นว่าเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะร้องออกมา นางเหนื่อยมากพึ่งจะสู้กัน แล้วก็ถูกงูฟาดอีก ตอนนี้ยังต้องมาพยุงคนคนหนึ่งอีก จะไม่ให้นางเหนื่อยจนร้องออกมาได้อย่างไร
เสี่ยวจาที่รออยู่ตรงประตูจนใกล้จะหลับแล้วพอได้ยินเสียงก็รีบขยี้ตา
“ย้า ซินเหยาเจ้าเป็นอะไร”
เห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้าของซินเหยา เสี่ยวจารีบกระโดดเข้าไปข้างกายซินเหยา
ไม่รู้ว่าทำไม ณ เวลานี้ซินเหยาได้ยินเสียงของเสี่ยวจาเหมือนราวกับความแห้งแล้งที่ได้รับฝน เสียงนั้นทำให้นางรู้สึกคิดถึง นางเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยวจาแล้วยิ้มให้ด้วยความรู้รู้สึกว่าเป็นยิ้มที่สวยที่สุด แต่เสี่ยวจาเห็นคือน่ากลัวยิ่งนัก
“เสี่ยวจาช่วยข้าหน่อย”
ตอนที่ซินเหยาพูดประโยคนี้ แรงแทบจะไม่มี เบามาก
เสี่ยวจาเห็นซินเหยาพยุงคนคนหนึ่งเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไรมาก เข้ามาช่วยซินเหยาอย่างว่าง่ายเพื่อเตรียมออกจากที่นี่ไป
รู้หลังจากที่เก้อปิงจากไปเก้อเหลี่ยงถึงได้ฟื้นได้สติกลับมา
“เจ้าบ้านรองล่ะ”
เขาไม่รู้ว่าตนเองหลับไปนานแค่ไหน กลัวว่าจะเสียเวลาพอตื่นขึ้นมา เก้อปิงก็ถามคนที่เฝ้าตนเองอยู่ข้างๆ
คนพวกนั้นเห็นเก้อเหลี่ยงไม่มีแรง กลัวว่าเขาจะเป็นห่วง ตอบอย่างอ้ำๆอึ้งๆไม่จริงจัง
“ข้าถามว่าเจ้าบ้านรองล่ะ”
ไม่รู้ว่าทำไมใจของเก้อเหลี่ยงถึงหดหู่ยิ่งนัก หนักใจ ราวกับว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วแน่ ทำให้เขาอยากจะใจเย็นแต่ก็เย็นไม่ลง จึงได้ตะคอกอย่างแรง แต่เพราะใช้แรงเยอะไปหน่อยทำให้มีผลกระทบไปถึงแผล ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
“เรียน เรียน เจ้าบ้านใหญ่ เจ้าบ้านรองพาคนในยุทธภพนั้นเข้าไปในสถานที่ต้องห้าม” คนนั้นมองดูเก้อเหลี่ยงที่ดุ ก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที
เก้อเหลี่ยงได้ยิน ในหัวคิด เข้าไปในที่ต้องห้ามแล้ว
“พ้า”
เขาโยนถ้วยในมือทิ้ง ยาก็ไม่กินแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ แล้วก็ความเป็นห่วงลึกๆเก้อปิงอาเก้อปิง เจ้ารออีกหน่อยไม่ได้หรือ เจ้าอยากเข้าไปคนเดียวขนาดนั้นเลยหรือ เจ้าลืมคำพูดของท่านพ่อไปแล้วหรือไง ว่าพี่น้องต้องมีใจเป็นหนึ่งเดียวกันถึงจะทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายได้ วันนี้เจ้าเข้าไปเผชิญหน้ากับมันคนเดียว เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรดี
“พาข้าไปที่ทางออกของสถานที่ต้องห้าม”
เก้อเหลี่ยงเป็นห่วง แต่สภาพนี้ของเขาในตอนนี้ไม่อาจเข้าไปข้างในได้ ทำได้เพียงรออยู่ข้างนอก
“ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว”
เก้อเหลี่ยงนั่งอยู่บนพรมนุ่มๆแล้วถูกยกออกไปที่สาถนที่ต้องห้าม เขาลืมถามคำถามที่สำคัญไป
คนติดตามข้างๆตอบอย่างเคารพว่า “เรียนเจ้าบ้านใหญ่เจ้าหลับตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ฟื้นมาเลย”
เก้อเหลี่ยงนับดู มันสิบกว่าชั่วยามแล้ว ถ้าปลอดภัยก็คงออกมากันแล้ว
“พวกเจ้าเร็วหน่อย”
ใจของเขาร้อนรนขึ้นมา คิดว่าตนเองคงไม่สามารถเจอหน้าน้องชายได้อีกแล้ว ความคิดนี้ทำให้เขาเจ็บปวดใจยิ่งนัก
คนพวกนั้นพอได้รับคำสั่งก็เร่งฝีเท้ากัน
ใกล้ที่จะถึงทางเข้าสถานที่ต้องห้าม พอดีเจอกับซินเหยาและโอหยางซิงเฉินกับเสี่ยวจา
“เสี่ยวจา”
สำหรับสภาพนี้ของซินเหยา แน่นอนว่าเก้อเหลี่ยงดูไม่ออก เขาประหลาดใจยิ่งนักว่าทำไมเสี่ยวจาถึงมาอยู่ที่นี่
เสี่ยวจาเห็นว่าเป็นเจ้าบ้านใหญ่ทันใดนั้นก็เกิดความกลัวขึ้นมาแล้วถอยหลังไปนิดหน่อย แต่ก็รู้ว่าต้องทำความเคารพ “ข้าน้อยคำนับเจ้าบ้านใหญ่”
เก้อเหลี่ยงไม่พูดอะไรไม่แต่จ้องซินเหยาไม่ไปไหน ถามขึ้นว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วก็เสี่ยวจา ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่อยู่ที่เรือนรอเจ้าบ้านรองมาทำอะไรที่นี่”
พอพูดถึงเจ้าบ้านรองใจของเสี่ยวจาก็เย็นวูบขึ้นมา “แม่นางซินเหยาเจ้าบ้านรองของพวกเราล่ะเขาไปด้วยกันกับพวกเจ้าไม่ใช่หรือ”
เดิมซินเหยาได้ยินเสียงของเก้อเหลี่ยงก็กลัวอยู่ในใจแล้ว ก้มหน้าไม่อยากจะสนใจ นึกไม่ถึงว่าเหมือนเก้อเหลี่ยงจะจำนางไม่ได้ ซินเหยาถึงได้นึกขึ้นได้ว่าตนได้แปลงเป็นชาย ดังนั้นนางคิดเกรงว่าเขาคงดูไม่ออก แต่คิดไม่ถึงว่าในเวลาสำคัญเช่นนี้เสี่ยวจากลับทำเสียเรื่อง
พอได้ยินว่าคนคนนี้ตือซินเหยาแววตาของเก้อเหลี่ยงก็แลดูราวกับไฟ มองดูใบหน้าของซินเหยาแววตาเต็มไปด้วยการสืบความจริง “แม่นางซินเหยาคนข้างหลังเจ้าคือใคร เจ้าอย่าบกข้านะว่าเจ้าไม่มีแรงแล้วแต่ยังช่วยคนของเถาหยวนซานม้ายกลับมาอีก”
ใจของซินเหยาเต้นตุบๆดีนะที่เก้อเหลี่ยงยังดูไม่ออกว่าเป็นโอหยางซิงเฉินถ้าเช่นนั้นนางก็ทำให้ความเข้าใจผิดให้มันผิดไปจริงๆ ไม่สนใจยังไงก็ถูกดูออกแล้วจึงได้เอาหน้ากากคนดึงออกมา เปิดใบหน้าที่สวยงามของนางออกมา
“ข้าพูดได้แค่ว่าชายผู้นี้โชคดี แต่เจ้าบ้านรองเกรงว่าคงไม่โชคดีขนาดนั้น”
ซินเหยามองดูเก้อเหลี่ยงที่บาดเจ็บหนักแต่ก็ยังมาในที่แบบนี้ ในใจนึกคิดเก้อเหลี่ยงคงเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เป็นแน่ นางจึงได้พูดกับเก้อเหลี่ยงอย่างไม่ปิดบัง
“เจ้า เค่อเค่อ……….เจ้าพูดว่าอะไรนะน้องชายข้าเป็นอย่างไรแล้ว”
นั่นไง เก้อเหลี่ยงตื่นเต้นไปหน่อย ขนาดบาดแผลของตนเพราะความผลีพลามของเขาทำให้ได้รับผลไปด้วย
ซินเหยาไม่เกรงใจ พูดเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเก้อเหลี่ยง “โชคไม่ดี น้องชายเจ้าตายไปแล้ว และคำสั่งเซวียนฮยถูกคนแก่คนหนึ่งแย่งไปแล้ว”
สองประโยค แค่สองประโยคทำลายความหวังของเก้อปิง น้องชายตายแล้ว คำสั่งเซวียนฮยก็ถูกคนแย่งไปอีก แต่ทำไมซินเหยายังมีชีวิตอยู่ล่ะ นางพูดโกหกหรือเปล่า