นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 775
ตอนที่ 775 ติดกับแล้ว
“เรื่องบนรถหรอ” ซินเหยาพูดขึ้น “คุณขับรถ จากนั้นฉัน จากนั้นฉันก็หลับไป”
“หลังจากนั้นล่ะ”
“หลังจากนั้น” ทันใดนั้นซินเหยาคิดขึ้นได้ เธอหลับไปเพราะโรคนั้นกำเริบขึ้นแน่
“อืม ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ” โอหยางจิ้งเห็นว่าเธอเงียบไป จึงได้ถามขึ้นมา
“เรื่องหลังจากนั้นก็จำไม่ได้แล้ว” แน่นอนว่าซินเหยาไม่บอกโอหยางจิ้งหรอกว่าตนเองเป็นโรคสลบ
“จำไม่ได้แล้ว” โอหยางจิ้งยิ้ม “หลังจากที่คุณหลับไปผมก็ทำกับคุณเหมือนที่ผู้ชายเข้าทำกับผู้หญิง หลังจากนั้นผมกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรเลยพาคุณมาหาหมอไง”
“เดี๋ยวก่อน…” ซินเหยาพูดตัดบทเขา “อะไรที่เรียกว่าผู้ชายควรทำกับผู้หญิง อธิบายให้ชัดเจนหน่อย ไม่งั้นฉันจะทำให้คุณเสียใจตลอดชีวิตที่เป็นผู้ชาย ชาติหน้ามีหวังเกิดเป็นผู้หญิง” ซินเหยาจ้องหน้าโอหยางจิ้งด้วยสายตาที่โกรธและขู่เขา
โอหยางจิ้งเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าเธอจะทำเช่นนี้ เขายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องที่ผู้ชายทำกับผู้หญิงคุณไม่รู้หรอ”
“ไม่รู้” ซินเหยาพูด
“งั้นผมทำให้คุณดูอีกรอบดีไหม” โอหยางจิ้งพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจะถอดเสื้อผ้า
“ทำให้ดูอีกรอบบ้าหรอ ถ้าจะทำให้ไปทำกับผู้หญิงคนอื่น” ซินเหยามองค้อนโอหยางจิ้ง เมื่อครู่เธอเองก็ได้สังเกตดูร่างกายของตนเองแล้วไม่ได้ถูกกระทำชำราวใดๆถึงได้วางใจ เธอรู้ว่าโอหยางจิ้งแค่แหย่เธอเล่นๆ
“อ่ะๆ พอแล้วพอแล้ว ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว” โอหยางจิ้งพูดขึ้น “บอกผมหน่อยทำไมคุณถึงสลบไป”
“ฉันจะรู้ได้ยังไง” ซินเหยาไม่ยอมพูดออกมาหรอก
“ไม่พูดใช่ไหม งั้นเรื่องหลังจากที่คุณสลบไปผมก็ไม่ต้องบอกคุณแล้วสินะ” โอหยางจิ้งทำหน้าเหมือนจะชนะเธอแล้ว
ซินเหยาติดกับแล้ว รีบพูดขึ้นว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหลังจากที่ฉันสลบไปรีบบอกมา”
ที่เธอเป็นห่วงคือกลัวว่าหลังจากที่เธอสลบไปแล้วจะแอบพูดความลับอะไรออกมา
โอหยางจิ้งมองดูดวงตาที่สวยงามคู่นั้นแล้วพูดขึ้นว่า “หลังจากที่เธอสลบไป…” เขาตั้งใจจะพูดลากเสียงยาว ทำให้ซินเหยาตื่นเต้น “คุณยังไม่บอกผมเลยว่าทำไมถึงสลบไป” โอหยางจิ้งเปลี่ยนเรื่องทันที
หลังจากที่ซินเหยาโดนหลอก ก็ตีไปที่ไหล่ของโอหยางจิ้ง โอหยางจิ้งเจ็บจนต้องกัดฟัน
“นี่คือโรคที่ฉันมีมาตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แค่นี้พอไหม” ช่วยไม่ได้เธอต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกเขา แต่เธอไม่ได้พูดอะไรผิดนะ นี่คือโรคชนิดหนึ่งจริงๆ แต่พึ่งจะมาสลบเป็นเอาช่วงครึ่งปีหลังมานี้เอง
“เป็นบ่อยไหม หรือนานๆครั้ง” โอหยางจิ้งถามขึ้นอย่างจริงจัง “ก่อนที่จะสลบไปคุณรู้สึกยังไง หรือว่ากินอะไรหรือดื่มอะไรเข้าไป แล้วทำให้อยากนอนหลับ คุณกินยานอนหลับเป็นประจำไหม”
ซินเหยาถูกโอหยางจิ้งยิงคำถามมารัวๆแบบนี้ทำให้เอทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ หลังจากที่ตื่นมาก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
โอหยางจิ้งเป็นห่วงเธอขนาดนี้เลย
ถึงแม่สำหรับโอหยางจิ้งแล้วนี่ไม่ได้มีค่าอะไร แต่ในใจของซินเหยากลับรู้สึกขอบคุณ หลังจากที่เธอมาที่ฮ่องกง เธอก็ไม่ได้รับความรู้สึกเป็นห่วงที่เหมือนกับป้าหวังพวกเขาให้เธออีกเลย
ไม่เหมือนความรู้สึกที่อยู่กับเจี่ยนส้าวจู้นด้วย ได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงเช่นนี้จากปากของโอหยางจิ้งมันทำให้เธอรู้สึกประทับใจมาก
“ทำไมหน้าผมมีอะไรติดอยู่หรอ” โอหยางจิ้งเห็นว่าซินเหยาเอาแต่จ้องหน้าเขา เขาจึงยิ้มแล้วถามขึ้น
“ไม่มีอะไร” ซินเหยาพูดจบก็หันตัวหนี มองดูผนังสีขาวของห้อง
เธอและโอหยางจิ้งกับเจี่ยนส้าวจู้นไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน พวกเขามีที่มาของตนเอง พวกเขารู้ว่าพวกเขาคือใคร แต่เธอล่ะ
เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่พอจะหน้าตาดีคนหนึ่ง
ไม่มีอดีตไม่มีบ้าน ขนาดชื่อยังอาจจะเป็นชื่อปลอมเลย
เธอไม่อาจเข้ามาอยู่ในสังคมนี้ได้เลยจริงๆ
โอหยางจิ้งถูกอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันของเธอทำให้ทำตัวไม่ถูก ไม่ต้องคิดอะไรเขาก็กอดเธอจากด้านหลัง กอดเธออยู่อย่างนี้
ผ่านไปครู่หนึ่งซินเหยาพูดขึ้นว่า “หิวแล้วทำไงดี”
โอหยางจิ้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองดูเวลา “ตอนนี้พึ่งจะห้าทุ่มเองพวกเราออกไปหาอะไรกินกัน”
“หลังจากที่กินเสร็จแล้วล่ะ”
โอหยางจิ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันใหม่”
“ได้” ซินเหยาคิดแล้วก็คิด รู้สึกว่าที่ตนเองถามไปนั้นมันช่างโง่เขลายิ่งนัก ข้าวยังไม่กิน ก็คิดว่าจะไปไหนแล้ว
โอหยางจิ้งออกจากห้องคนไข้ไปก่อน ซินเหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ เปลี่ยนกลับมาใส่ชุดเดิม จัดการนิดหน่อยถึงได้เดินออกมาจากโรงพยาบาล กลางดึกเช่นนี้ โรงพยาบาลเงียบสงบ ซินเหยานึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินเรื่องผีเรื่องหนึ่ง ก็รู้เย็นๆสันหลังขึ้นมาทันที รีบเดินกึ่งวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล โอหยางจิ้งขับรถมารออยู่ตรงหน้าประตูก่อนแล้ว
เพราะว่าดึกแล้วทั้งสองจึงไม่ได้เรื่องมากนัก เลือกร้านที่บรรยากาศไม่เลวนักอยู่ใกล้ๆกินข้าวกัน
นี่คือร้านอาหารสไตล์ฝั่งเศษซินเหยาสั่งพาสตาและเครื่องดื่ม เธอไม่ได้หิวอะไรมากนักจึงสั่งไปแค่สองอย่าง
“ดื่มไวท์มั้ย” โอหยางจิ้งถาม
“ดื่มบ้านคุณสิ ฉันยังเป็นคนไข้อยู่นะ คุณอยากให้ฉันป่วยให้นานกว่านี้ถึงจะสบายใจใช่ไหม………” ซินเหยามองค้อนเขาแล้วพูดขึ้น
โอหยางจิ้งยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมลืมไป” แล้วพูดต่อว่า “เอาเหมือนกันสองจานแล้วกันส่วนเครื่องดื่มเป็นนมสดทั้งหมดคงไม่มีปัญหานะ”
“ไม่มีปัญหาครับ” พนักงานยิ้มตอบแล้วเดินถอยออกไป
“นี่” ซินเหยาพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ “คุณทำไมเป็นแบบนี้ตัวเองอยากดื่มนมก็ให้แค่ตัวเองสิ ทำไมต้องเปลี่ยนของฉันด้วย”
ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเธอพูดกับโอหยางจิ้งก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากขนาดนั้นแล้ว อาจจะเพราะว่าเมื่อครู่นี้ที่โรงพยาบาลเขาทำให้เธอรู้สึกประทับใจมั้ง
ถึงแม้จะไม่อาจยกมาเป็นคนรักได้ แต่ก็นับเป็นเพื่อนที่ดีได้ นี่คือความคิดของซินเหยา
“คุณกำลังป่วยอยู่ไม่ใช่หรอ ดื่มนมสดนั่นแหละดีที่สุด” โอหยางจิ้งมองดูท่าทีที่ซินเหยากำลังโกรธด้วยความรู้สึกที่น่ารัก
ในสายตาของเขาซินเหยาก็เหมือนกับสตอเบอรี่ที่เปรี้ยวๆหวานๆ เขาอดไม่ได้ที่จะกัดกินสักคำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำร้ายเธอ
“ช่างมันเถอะ คุณเลี้ยงคุณว่าไงก็เอาแบบนั้นแหละ”
ทั้งสองรอด้วยความเบื่ออยู่ไม่กี่นาที อาหารก็ถูกยกมา ระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะลงมือก็มีผู้หญิงสองคนปรากฏตรงหน้าพวกเขา
ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งรูปร่างอ้วนเตี้ย อีกคนสูงผอม ตาแดงๆเหมือนว่าร้องไห้มา
“โอหยางจิ้ง” หญิงสาวที่รูปร่างอ้วนหน่อยพูดขึ้นและมองด้วยสายตาที่ดุมาทางโอหยางจิ้ง
“คุณคือ?”
โอหยางจิ้งยังพูดไม่ทันจบผู้หญิงคนนั้นก็หยิบแก้วนมที่อยู่บนโต๊ะแล้วสาดไปทางโอหยางจิ้ง
ซินเหยาขมวดคิ้ว เธอคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงบ้าที่มานี้จะกล้าทำขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่ได้หยุดอะไรเลย สายตาว่องไวมือเร็วรีบแย่งถาดจากพนักงานเสิรท์ฟคนหนึ่งมาแล้วบังไปที่นมที่ถูกสาดมา นมก็ถูกสาดมาพอดีกับถาด ซินเหยาไม่ใช่คนดีอะไร ในเมื่อคนอยากมาหาเรื่อง งั้นเธอก็เล่นด้วยแล้วกัน มือออกแรงนิดหน่อย แล้วสาดนมที่อยู่บนถาดกลับไปที่ผู้หญิงอ้วนคนนั้นอย่างไม่พลาดแม้แต่หยดเดียว
ผู้หญิงอ้วนคนนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ เธอยังมองมาทางโอหยางจิ้งด้วยสายตาที่เยาะเย้ย จนถึงตอนที่นมถูกสาดไปที่ตัวของเธอ เธอถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา
เธอโกรธจนตัวสั่น นมสีขาวนวลบนตัวของเธอไหลลงมาที่พื้น
พนักงานที่อยู่ข้างๆดูท่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเลยรีบเข้าไปหาผู้จัดการร้าน
“คุณ…..พวกคุณ….กล้าสาดใส่ฉัน เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ผู้หญิงอ้วนคนนั้นชี้มาที่ซินเหยาด้วยอาการสั่น
สายตาของซินเหยาไม่แม้แต่จะเหลือบขึ้นมามอง พูดขึ้นว่า “ฉันไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่ฉันรู้ว่าตอนนี้มีหมาตัวหนึ่งที่บ้าคลั่งกัดคนไปทั่ว และยังเป็นหมาอ้วนด้วย”
“อะไรนะ”
ผู้หญิงอ้วนคนนั้นเบิกตากว้าง จ้องซินเหยาเขม็ง โกรธจนจะกินเธอไปทั้งตัว
ผู้หญิงอ้วนคนนั้นเหมือนจะอยากตีซินเหยา แต่เหมือนว่าผู้หญิงที่รูปร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ข้างๆจะทนดูต่อไปไม่ไหว น้ำตาไหลร้องไห้ ร้องไห้ไป มือก็เข้าไปดึงผู้หญิงอ้วนคนนั้นไป แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ฮัวช่างมันเถอะ พวกเราไปกันเถอะ”
“ไปหรอ” ผู้หญิงอ้วนคนนั้นพูดขึ้น มือชี้ไปที่ซินเหยาแล้วพูดขึ้นว่า “นางผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้สาดนมใส่ฉัน เธอจะให้ฉันไปงั้นหรือ เธอยังต้องการตามหาคนใจดำนั่นอีกไหม”
“แต่ว่า อาเจ๋ไม่อยู่ที่นี่” ผู้หญิงที่รูปร่างสูงคนนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาแล้วมองไปทางคนที่ถูกเรียกว่าพี่ฮัว
หญิงสาวอ้วนคนนั้นชื่อว่า เฉินฮัว ส่วนหญิงสาวที่รูปร่างสูงนั้นชื่อว่า เว่ยซาน
เดิมทีเว่ยซานเคยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าอาเจ๋ แต่อาเจ๋เป็นคนเจ้าชู้ พอเบื่อก็ทิ้งไป ดังนั้นเว่ยซานเลยไปหาเฉินฮัวเพื่อปรับทุกข์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอโอหยางจิ้งที่นี่เฉินฮัวเคยเห็นอาเจ๋กับโอหยางจิ้งเหมือนจะสนิทกัน ดังนั้นจึงคิดว่าจะมาหาความยุติธรรมหน่อย แต่เพราะได้ยินว่าพี่น้องของตนเองถูกเล่นเป็นของเล่น จึงได้โกรธ และโมโหขนาดนั้น หยิบนมขึ้นมาสาดใส่โอหยางจิ้ง เดิมคิดว่าอยากจะทำให้โอหยางจิ้งขายหน้า ให้เขาบอกมาว่าอาเจ๋อยู่ไหน
แต่คิดไม่ถึงว่า ซินเหยาจะยื่นมือเข้ามาช่วยทำลายแผนการของเธอทั้งหมด
โอหยางจิ้งเองก็พึ่งจะได้สติกลับมา เห็นว่าตนเองเต็มไปด้วยนม ส่วนซินเหยาถูกเรียกว่าผู้หญิงชั้นต่ำ สีหน้าของเขาค่อยๆขรึมลง
“ให้เวลาเธอสิบวินาทีในการออกไปจากสายตาของฉัน ไม่งั้นเธอจะเสียใจไปตลอด………………” โอหยางจิ้งพูดขึ้น
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร มาสั่งให้ฉันไปอย่างนั้นหรอ รีบบอกมาว่าเจ้าบ้านั่นอยู่ไหน ฉันจะไม่เอาเรื่องกับเธอ” เฉินฮัวพูดขึ้น
ถูกเรียกว่าคนชั้นต่ำ ซินเหยาคิดอยากจะพูด แต่กลับถูกโอหยางจิ้งแย่งพูดไปเสียก่อน เลยกลืนคำพูดที่จะพูดลงคอไป ดูว่าผู้หญิงอ้วนคนนี้จะมาไม้ไหนอีก
เวลานี้เอง ผู้จัดการร้านได้ยินเสียงเอะอะ ก็รีบเดินเข้ามาถามด้วยความเคารพว่า “ไม่ต้องโกรธ ทุกคนค่อยๆคุยกัน ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น……….”
“ยุ่งอะไรด้วย ออกไป”
ผู้จัดการร้านยังพูดไม่ทันจบก็ถูกคำพูดของเฉินฮัวพูดตัดบทเสียก่อนแล้ว ที่เหลือคือถูกกลืนกลับเข้าไปหมด ผู้จัดการร้านยืนนิ่งแบบทำอะไรไม่ถูกอยู่ข้างๆ ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสนี้ราคาก็ใช่ว่าจะธรรมดาเสียที่ไหน คนที่สามารถเข้ามาในร้านนี้ได้ล้วนแล้วแต่เป็นคนรวยมีเงินหรือมีอำนาจกันทั้งนั้น เขาไหนเลยจะกล้ามีเรื่องด้วย