นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 779
ตอนที่ 779 ใคร ใครกันแน่
โอหยางจิ้งรู้สึกเหนื่อยแล้ว วันนี้ตอนเที่ยง ไม่ ควรจะเป็นเมื่อวานตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้ เพราะตอนนี้เลยเที่ยงคืนไปแล้ว
เมื่อวานตอนเที่ยงมาจนถึงตอนนี้นอกจากอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนซินเหยาแล้ว เขาก็ไม่มีเวลาหลับตาเลย ตอนนี้พอหลับตา เขาก็มีเสียงกรนออกมาที่จมูกแล้ว
ซินเหยาค่อยๆหมุนตัว มองดูโอหยางจิ้งที่อยู่ห่างกันแค่นิดเดียว ใบหน้าที่หล่อเหลา ไม่รู้ว่าทำไม เธอมักจะรู้สึกว่าบนตัวของโอหยางจิ้งมีความโดดเดี่ยว เดียวดายยิ่งนัก
เธอเองก็ค่อยๆเข้าสู่นิทราภายใต้ดวงดาว
แต่เธอไม่รู้เลยว่าห้อง2019ที่โรงแรมเซนต์พอลที่อยู่ห่างจากเธอไปไม่กี่สิบกิโลมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น คนร้ายหนีไปได้ และตำรวจกำลังตามหากันทั่วทั้งฮ่องกง
ณ ที่แห่งหนึ่งในฮ่องกง
ในห้องลับที่หรูหราห้องหนึ่ง ชายที่มีรูปร่างดีคนหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์อยู่ กำลังกดโทรศัพท์อยู่อย่างบ้าคลั่ง
คนนี้ก็คือคนที่ตอนเที่ยงรู้สถานที่จากปากของซินเหยาหมิงหนานเซวียน
สีหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ราวกับว่าอยากจะฆ่าคนให้ได้
“นังผู้หญิงที่สมควรตาย กล้าปิดโทรศัพท์อย่าให้เจอนะไม่งั้นตายแน่ ผู้หญิง”
แต่ไม่ว่าเขาจะกดโทรออกยังไง สุดท้ายก็ยังคงเป็นเสียงเตือนแค่นั้น
เพ้ง
หมิงหนานเซวียนโยนโทรศัพท์ไปที่กำแพง โทรศัพท์แตกออกเป็นสี่ห้าชิ้นตกลงบนพื้น บนกำแพงมีรอยทำให้รู้ว่าแรงที่โยนมาคงแรงมาก
เขาจุดซิการ์แล้วนั่งลงบนโซฟา สงบสติอารมณ์ หลับตา คิดถึงในห้องนั้น คนที่เจอกับเขาถูกยิงที่หัว
เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งในใจ “ใครกัน ใครกันแน่”
“ผู้หญิงบ้าคนนั้น พรุ่งนี้คือวันตายของเธอ” หมิงหนานเซวียนพูดขึ้นด้วยความโมโห
ซินเหยาที่อยู่ที่เภาเขาต้าหยู่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ตอนนี้เธอนอนหลับอย่างสบาย ส่วนโทรศัพท์สีดำนั่นเพราะเเบตหมดจึงถูกวางเอาไว้ข้างๆ
กลางดึกกลับมีฝนตกลงมา
ซินเหยาถูกเสียงฝนตกลงมากระทบกระจกด้านบนทำให้ตื่น ดวงตาที่สวยงามมองดูเม็ดฝนที่ตกลงมาตรงหน้าต่าง
“ตื่นแล้วหรอ”
ด้านหลังมีเสียงของโอหยางจิ้งดังขึ้น
ซินเหยาขยับตัวแล้วหันมา หาท่าที่สบายตัวแล้วมองดูโอหยางจิ้ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฝนตกแล้ว”
“ใช่แล้ว นานแล้วที่ผมเองก็ไม่ได้เห็นฝนตก หลังจากที่กลับมาที่ฮ่องกง” โอหยางจิ้งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วมองดูเธอ
“หลังจากที่กลับมาที่ฮ่องกง” ซินเหยาพูดทวนคำพูดนี้อีกรอบ แล้วถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “เมื่อก่อนคุณอยู่ที่ไหน”
“อิตาลี” โอหยางจิ้งเหมือนจะรู้มาก่อนว่าซินเหยาจะถามแบบนี้ จึงได้ตอบและพูดขึ้นว่า “ผมพึ่งกลับมาเมื่อเดือนก่อนนี้เอง”
“อะไรนะ คุณเองก็พึ่งกลับมาที่ฮ่องกงหรอ แต่ฉันดูแล้วเหมือนคุณจะคุ้นเคยกับฮ่องกงมากเลยนะ ฉันคิดว่าคุณเกิดและโตที่นี่นะเนี่ย”
“ผมเป็นคนฮ่องกงจริง แต่แค่เปลี่ยนสัญชาติเท่านั้น”
“สัญชาติของคุณคือที่ไหน”
“”ลิเบีย หมิงหนานเซวียนพูด “ทำไม คุณสนใจจะไปเที่ยวหรอ”
ซินเหยารู้สึกใจเต้นจริงๆ แต่พอคิดๆดู ตอนนี้มีเรื่องมากมายยังจัดการไม่เสร็จ ได้แต่เสียดาย “ช่างมันเถอะ ไม่สนใจหรอก”
“งั้นรอให้คุณอยากไปเที่ยวก็บอกผมแล้วกันนะ ผมจะพาคุณไปเที่ยวเอง ตอนนี้ที่นั่นก็ไม่เลวนะ อย่างน้อยก็เท่าที่ผมคิด ก็ดีกว่าฮ่องกง” โอหยางจิ้งพูดล่ออีกครั้ง
ซินเหยาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าที่นั่นในตอนนี้กำลังมีสงครามนี่ คุณยังกล้าไปอยู่ที่นั่นอีกหรอ คุณไม่รักชีวิตแต่ฉันรัก”
“แค่บางที่ที่มีเรื่องขัดแย้งกันเท่านั้น ไม่ได้มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตเท่าไหร่ ไม่งั้นคนก็หนีหายไปกัดหมดแล้ว”
“ได้ ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้ว ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันใหม่” ซินเหยาบีบขี้เกียจ ท่าทีนี้ที่ไม่ระวังทำให้ผิวขาวๆนวลๆของเธอโผล่ออกมาล่อตาของโอหยางจิ้ง
ซินเหยาแอบยิ้มในใจพูดขึ้นว่า “ดูอะไร”
โอหยางจิ้งรีบเข้าไปคว้าซินเหยาเข้ามาอุ้มแล้วพูดขึ้นว่า “รับปากผมเป็นแฟนผมนะ”
เขาดูจริงจังมาก แววตาที่เปล่งประกายมองดูซินเหยา มองดูใจของซินเหยาที่กำลังเต้น
ซินเหยารู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับการที่อยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้ แต่ก็ขัดขืนอ้อมกอดของโอหยางจิ้งไม่ได้ พูดขึ้นว่า “ไม่เอาหรอก”
“ทำไม”
“คุณเจ้าเล่ห์จะตาย ใครจะไปรู้ว่าประโยคไหนจริงประโยคไหนโกหก อีกอย่างแฟนของคุณมีมากมาย ฉันไม่อยากถูกแฟนพวกนั้นของคุณฆ่าในขณะที่ฉันยังหลับอยู่หรอกนะ ตายแบบไม่รู้อะไรเลย มันเกินไป”
“ฮ่าๆ” โอหยางจิ้งหัวเราะถามขึ้นว่า “ตาข้างไหนของคุณมองว่าผมเจ้าเล่ห์”
ซินเหยาหันหน้าหนี หลบสายตาที่เต็มไปด้วยความรักของโอหยางจิ้ง
“ซินเหยา” โอหยางจิ้งพูดขึ้นเบาที่หูของเธอ “ตอบตกลงผมเถอะ ผมจะทำให้คุณมีความสุข”
ซินเหยาพูดขึ้น “คุณรู้ไหม คุณทำแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่สำคัญ พวกเราพึ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วันเอง คุณก็พูดแบบนี้ ฉันจะบอกคุณ ถ้าเป็นคนอื่นฉันจะปฏิเสธทันที”
ซินเหยาพูดจบ ก็หันกลับมาจ้องสายตากับโอหยางจิ้ง
โอหยางจิ้งถูกเธอพูดตรงจุดอ่อนเสียแล้ว เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษ ผมรีบร้อนเกินไป ผมแค่กลัว ความสัมพันธ์ของคุณกับผู้ชายคนนั้น”
“ผู้ชาย คนไหน”
“คนที่พักอยู่ด้วยกันกับคุณไง”
“เจี่ยนส้าวจู้น”
“เขาชื่อเจี่ยนส้าวจู้นหรอ” โอหยางจิ้งพูดขึ้น “ผมรู้ว่าเขาคือลูกชายคนเดียวของบริษัทหมิงจ้าว แต่ไม่รู้ชื่อของเขา ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาดีไหม”
“อืม” ซินเหยารู้สึกอึดอัดพูดขึ้นว่า “ทำไมถามคำถามแบบล่ะ”
“เมื่อครู่ก็บอกไปแล้วว่าผมกลัวความสัมพันธ์ของคุณกับเขาถ้าคุณชอบเขา คุณบอกผมได้เลย ผมจะถอยเอง” โอหยางจิ้งพูดด้วยความจริงจัง
“นี่คืออะไรกับอะไร” ในใจของซินเหยาบ่นนี่คือการใส่ร้าย หรือว่าเห็นใจ
“ฉันกับเขา”
“ช่างเถอะ” โอหยางจิ้งพูดตัดบทของเธอ “ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ผมไม่อยากรู้แล้ว”
“คุณต้องการอะไรกันแน่” ซินเหยาจ้องมองดูเขาแล้วพูด
“เพราะผมกลัวว่าคำตอบที่ได้จะไม่ใช่คำตอบที่ผมอยากได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็ขอชอบคุณแบบนี้ไปดีกว่า รอให้วันนั้นมาถึง” โอหยางจิ้งหลับตาแล้วพูดขึ้น
“อ่อ” ซินเหยาพิงอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ มองดูข้างนอกอย่างนิ่งๆ ทั้งสองเงียบจนไม่มีเสียงอะไร ฝนยังคงตก และเหมือนว่ายิ่งตกก็ยิ่งหนักด้วย
ตอนเช้า เท้าของซินเหยาเหยียบไปที่พื้นที่เปียก ตอนนี้เธอยังอยู่พื้นราบกลางภูเขามองจากตรงนั้นลงไป ก็เห็นเพียงหมอกเต็มร่องภูเขาไปหมด ราวกับว่าเป็นดินแดนสวรรค์
หายใจลึกๆเอาอาการบริสุทธิ์เข้าปอด ซินเหยายิ้มหวานแล้วพูดขึ้นว่า “ตกมาทั้งคืนในที่สุดก็หยุดแล้ว”
โอหยางจิ้งเดินตามมา ยืนข้างๆเธอแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ ตอนนี้คุณคิดจะทำยังไงต่อ กลับไหม”
“อืม” ซินเหยาพยักหน้าแล้วพูด “เมื่อคืนไม่ได้กลับไปทั้งคืน เจ้านายเจี่ยนคงเป็นห่วงแล้ว ดังนั้นฉันต้องกลับไป อีกอย่างฉันยังมีเรื่องที่ยังจัดการไม่เสร็จ”
เธอพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เธอลืมไปเรื่องหนึ่ง และยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆด้วย นั่นก็คือห้อง2019ที่โรงแรมเซนต์พอล หมิงหนานเซวียนกับคนปริศนาคนนั้นเจอกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องเรียบร้อยดีไหม
“ได้ แต่ก่อนอื่น พวกเราควรกินอะไรกันก่อน” โอหยางจิ้งพูดไปก็เดินไปที่รถ หลังจากที่ทั้งสองขึ้นรถ ครั้งนี้โอหยางจิ้งเป็นคนขับ เพราะฝนตกถนนลื่น โอหยางจิ้งไม่ได้ขับเร็ว หรืออาจจะเพราะ เขาไม่อยากให้กลับไปเร็วขนาดนั้น
แต่ไม่ว่าจะขับช้าขนาดไหน รถลัมโบกีนี่ชื่อนี้ไม่ได้พ่นออกมาเปล่า ไม่นานทั้งสองก็ลงเขามา
“งั้นกินที่นี่แล้วกัน” ซินเหยาชี้ไปที่ร้านอาหารเช้าข้างทาง ขายพวกซาลาเปา น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋
“ได้คุณชอบก็พอแล้ว” โอหยางจิ้งจอดรถแล้วพูดขึ้น
ทั้งสองลงมาจากรถ แล้วสั่งอะไรบางอย่างมากิน
“พรุ่งนี้ว่างไหม” โอหยางจิ้งวางน้ำเต้าหู้ลงแล้วหยิบกระดาษทิชชูให้ซินเหยาพร้อมกับพูดขึ้น
“ทำไม” ซินเหยาพูด “จะนัดฉันอีกหรอ”
“แน่นอน สามารถนัดสาวสวยอย่างคุณได้คือความภูมิใจของผม” โอหยางจิ้งพูดล้อเธอเล่น
“ไป..” ซินเหยาดื่มโจ๊กทั้งหมดแล้วพูดขึ้นว่า “ดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากัน คุณคิดว่าฉันเป็นคุณหรอ วันๆเอาแต่เล่น ฉันคือคนทำงาน ฉันต้องทำงาน”
โอหยางจิ้งถูกเธอพูดแบบนี้ก็หัวเราะ “ดูออกคุณขยันมาก”
“แน่นอน” ซินเหยาน้อมรับคำชมนี้
“คุณผู้ชาย คุณหนู แขวนป้ายสักอันมั้ย ศักดิ์สิทธิ์นะ”
ทันใดนั้นก็มีคนแก่หลังค่อมสวมชุดสีเหลืองมาจากไหนไม่รู้ ในมือถือแผ่นยันต์สีขาว
โอหยางจิ้งและซินเหยาหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นคนแก่คนหนึ่งใส่แว่นดำเก่าๆในมือถือแผ่นยันต์ที่เขียนคำว่า เทพเจ้าแห่งคู่
นี่คือสิบแปดมงกุฎใช่ไหม เหลือแค่ไม่เขียนตรงหน้าผากว่าหลอกลวง
โอหยางจิ้งและซินเหยาสบตากัน และรับรู้ได้ทันทีว่าอีกคนคิดเหมือนตนเอง
“ลุงพวกเราไม่ต้องการหรอก ขอบคุณนะ” ซินเหยาพูดขึ้น
“คุณหนู ฉันเห็นว่าเธอเป็นคนสวย แต่ถูกเมฆดำปกคลุมไปทั่ว เกรงว่าในไม่ช้านี้เธอจะต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายแน่ ถ้าให้ฉันดูดวงให้……..”
“คุณพูดว่าอะไรนะ” โอหยางจิ้งผลักจนคนแก่คนนั้นล้มลงไปกับพื้น แววตาปรากฏความโกรธอยากจะฆ่า
ซินเหยารับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นของเขา
โอหยางจิ้งลุกขึ้นยืน จะเดินเข้าไปต่อยคนแก่คนนั้น ซินเหยารีบเข้าไปห้ามแล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ เขาเองก็ทำเพื่อเลี่ยงปากท้อง” พูดจบก็หยิบเงินจากกระเป๋ายื่นให้ใส่มือของคนแก่คนนั้น แล้วพูดกับคนแก่คนนั้นว่า “ครั้งหน้าไม่ต้องทำแบบนี้แล้ว ไม่ว่าจะจริงหรือโกหก ก็ไม่มีใครชอบถูกคนอื่นพูดว่าจะโชคร้าย ” พูดจบก็ลากโอหยางจิ้งที่ยื่นมองตาเขม็งขึ้นรถ
คนแก่เห็นเงาหลังของพวกเขาจากไป ก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “เฮ้ยคนหนุ่มสาวสมัยนี้ทำไมไม่ฟังคนเฒ่าคนแก่บ้าง” แต่พอเห็นเงินในมือก็ดีใจจนตัวจะลอยอยู่แล้ว รีบลุกขึ้นมาปัดฝุ่นบนตัวแล้ววิ่งไปซื้ออาหารเช้า
“เมื่อกี้ทำไมต้องดุขนาดนั้นด้วย” ซินเหยาถามขึ้น
ตั้งแต่ที่ขึ้นรถมาโอหยางจิ้งก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ซินเหยารู้สึกว่าบรรยากาศอึดอัดเลยเริ่มพูดขึ้น
โอหยางจิ้งถอนหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา “เมื่อครู่ผมรู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ราวกับว่าเหมือนจะถูกตาแก่คนนั้นพูดโดนเรื่องในใจยังไงอย่างนั้น”
“ความหมายของคุณคือ คุณมีความรู้สึกอะไรไม่ดีใช่ไหม” ซินเหยาถามขึ้น