นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 94
บทที่ 94 ความจริงในเล่ห์อุบาย(1)
ฮ่องเต้ไม่พูดพิธีรีตอง
อาจารย์ท่านนี้ นามว่าท่านเซียนก่วยกู!
เป็นเทพเซียนลึกลับอันดับหนึ่ง…….ตำนานเล่าขาน มีชีวิตนับพันปีไม่ตาย!”
ว่ากันว่าเซียนและเหล่าภูตผีจุติเป็นอมตะ!
เกิดเป็นครึ่งผีครึ่งเซียน ใช้ชีวิตเป็นพันปีไม่ตาย!
เพื่ออยู่อย่างลึกลับเรียบง่าย ที่ผ่านมาท่านเซียนก่วยกูจึงไม่เดินทางออกไปทั่วสารทิศ ซ่อนตัวอยู่แต่ในห้องลับในร้านเต้าหู้ท่ามกลางเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย………
จนกระทั่งโลกนี้ไม่รู้ว่าท่านเซียนท่านนี้อยู่
แต่ทว่า…….
ท่านเซียนกุ่ยกูยังมีลูกศิษย์สองคน!
คนในแผ่นดินย่อมรู้ตัวตนของเขา!
หนึ่งในนั้นก็คือหนุ่มยอดพรสวรรค์อายุหนึ่งร้อยสามสิบปี โจว๋อี้เฉิน!
โจว๋อี้เฉินเป็นคนแรกที่ท่านเซียนก่วยกูรับเป็นลูกศิษย์
ฮ่องเต่อำมหิตเป็นลูกศิษย์คนที่สอง!
แต่ท่านเซียนก่วยกูมีนิสัยพิลึก
ลูกศิษย์สองคนฉลาดเหนือคน!
แต่เขาสอนวรยุทธให้ลูกศิษย์แตกต่างกัน
วรยุทธที่เขาส่งทอดให้แก่โจว๋อี้เฉินคือวรยุทธอันแรงกล้า กระบี่หลีฮัว!
แต่วรยุทธที่เขาส่งทอดให้ฮ่องเต้อำมหิต เป็นวรยุทธสายมาร พลังเทียนโม๋!
“ลูกศิษย์”
เซียนก่วยกูเรียกเสียงทุ้ม
“ระยะนี้พลังมารยังทำร้ายเจ้าหรือไม่?”
“ขอรับอาจารย์”
“เดือนนี้โดนไปกี่ครั้งแล้ว?”
“สามครั้งขอรับ”
“อืม ยิ่งกำเริบบ่อยขึ้นแล้ว!”
“ท่านอาจารย์ ข้าจะบรรลุพลังมารขั้นแรกได้แล้วใช่หรือไม่?”
“ไม่ ยังไม่ถึงเวลา”
“อาจารย์ เมื่อไหร่ศิษย์จะบรรลุเป็นอาจารย์ขอรับ? ท่านบอกว่าพลังมากมีสามขั้น! แต่ศิษย์ได้พบอาจารย์ตั้งแต่อายุสามปี ฝึกฝนพลังมารกับท่านมาเป็นเวลายี่ปีแล้ว แต่ศิษย์ยังไม่สำเร็จแม้แต่ขั้นหนึ่ง!” ฮ่องเต้ชักอดทนไม่ไหวแล้ว! การบ่อนทำลายของพลังมารทำให้เขาคลุ้มคลั่งเหมือนกับสัตว์ป่า!
ตอนเขาอายุห้าขวบเคยเกิดอาการคลุ้มคลั่งครั้งหนึ่ง กัดคอแม่นมขาด!
หลังจากนั้น ทุกๆครั้งที่เขาคลุ้มคลั่ง เขายิ่งซ่อนตัวเข้าไปอยู่ในป่าลึกลับในภูเขาลึก รอให้ความดุร้ายดั่งสัตว์ป่าทุเลาลงไป ให้เหมือนสัตว์ป่าที่อ่อนโหยโรยแรง แล้วกลับมาเป็นเหมือนมนุษย์คนใหม่อีกครั้ง
แต่ในวันนี้ เขารอคอยมาตลอดยี่สิบปี
โดนทำร้ายครั้งแรกเมื่อสองปีที่แล้ว
หลังจากนั้นมันก็ทำร้ายเขาทุกปี
ต่อมาครึ่งปีมันทำร้ายเขาหนึ่งครั้ง
ต่อมาสามเดือนมันทำร้ายเขาหนึ่งครั้ง
ตอนนี้ในเวลาหนึ่งเดือน มันทำร้ายเขาไปแล้วสามครั้ง
และความโกรธแค้น ความเจ็บปวดที่ได้รับ ความรู้สึกพวกนี้เริ่มทำให้พลังมารคลุ้มคลั่งแว้งกัด!
เสียงท่านเซียนกุ่ยกูกล่าวอ่อนเบาดั่งหยุดสายน้ำ “เมื่อถึงเวลา เจ้าจะรู้เอง”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าวว่า “อาจารย์ ท่านมีวิธีควบคุมพลังมารทำร้ายหรือขจัดพลังมารในร่างกายบ้างหรือไม่?”
เซียนก่วยกูกล่าว “มี! มีวิธีหนึ่ง!ปลดล่อยพลัง! แต่หลังจากปลดปล่อยพลังไปแล้ว ที่เจ้าฝึกฝนมานับยี่สิบปีจะไร้ความหมาย! ถ้าเจ้ายังอดทนต่อไปได้ รอจนทะลวงแดนหนึ่ง เจ้าก็จะสามารถมีอำนาจไร้ผู้ใดเทียมทาน นับเป็นพรสวรรค์ของเจ้าแล้ว!”
“ท่านอาจารย์โปรดวางใจ ศิษย์เป็นถึงกษัตริย์แห่งใต้หล้า ต้องการสตรีมากมายเท่าใดก็ย่อมได้ ข้าแค่ต้องการสตรี เอาชนะเรื่องสตรี จะไม่เกิดความรู้สึกให้สตรีคนใดเป็นอันขาด!”
“ดีมาก! นี่เป็นสาเหตุแรกที่ข้าส่งทอดวิชาให้แก่เจ้า จำเอาไว้ มีความรักครั้งหนึ่ง จะทำให้พลังที่เจ้ามีมาทั้งชีวิตทำลายล้าง แม้สถานเบาก็ระเบิดร่างจนตาย!”
“สาหัสหรือไม่?”
ฮ่องเต้อำมหิตคิดตามด้วยความลำบากใจ แม้สถานเบาร่างก็ระเบิดเป็นจุณ!
ถ้าสาหัส ตัวเองจะมีสภาพเช่นไรกันหนอ?
ปากเซียนก่วยกูพูดออกมาทีละคำอย่างนิ่งสงบ “หนักก็ระเบิดคลุ้มคลั่ง เป็นสัตว์ป่าดุร้ายชั่วกาลนาน!”
“ศิษย์เข้าใจแล้ว ศิษย์จะจำไว้อย่างรอบคอบ จะไม่รู้สึกเกินเลยกับสตรีคนใดเป็นอันขาด!”
“วันนี้เจ้ามาที่นี่ มีเรื่องอันใด? ปกติเจ้ามาสามเดือนครั้ง แต่นี่ผ่านมาแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น”
“อาจารย์ ข้ามีเรื่องจะถามท่านอาจารย์”
“ว่ามาเถิด”
“อาจารย์มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลโจว๋……โจว๋อี้เฉินก็เป็นศิษย์คนโตของอาจารย์ ท่านอาจารย์มีความใส่ใจกับตระกูลโจว๋หรือไม่?”
“เจ้ากำลังคิดอะไร พูดออกมาตรงๆ”
“ขอรับ อาจารย์ แม้ที่ผ่านมาอาจารย์ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมืองและเรื่องทางโลก แต่ท่านคงทราบ ครอบครัวตระกูลขุนนางใหญ่สามตระกูลเป็นหอกข้างแคร่ของตระกูลเทียนซ่งมาโดยตลอด และในวันนี้ศิษย์พบหลักฐานที่ทั้งสามตระกูลจ้องจะทำลายราชสำนักแล้ว!”
“เจ้าจะต่อกรกับตระกูลโจว๋ แล้วกลัวว่าข้าจะโกรธเคืองเจ้างั้นหรือ?”
“ขอรับ โจว๋อี้เฉินเป็นศิษย์คนโตของอาจารย์ ศิษย์ไม่รู้ว่าในใจของอาจารย์คิดเห็นกับตระกูลโจว๋อย่างไร”
“โจว๋อี้เฉินก็ส่วนโจว๋อี้เฉิน ตระกูลโจว๋ก็ส่วนตระกูลโจว๋ ทั้งสองส่วนไม่เกี่ยวข้องกัน อีกอย่างโจว๋อี้เฉินตายไปนับร้อยปีแล้ว! เจ้าจะทำอะไรก็ทำไปเถิด อาจารย์ไม่ถามถึงเรื่องของใคร ฉะนั้นเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่เคยรบกวนใจอาจารย์”
“ขอรับ อาจารย์! ศิษย์ขอลา!”
ฮ่องเต้อำมหิตออกจาก “ร้านเต้าหู้หวงจี้” แสดงพลังมุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองหลวง
เขากลับมาถึงเมืองหลวง พึ่งจะเปลี่ยนชุดลายมังกรเสร็จ ท่าทางเย็นชาเคร่งขรึมกลับมาอีกครั้ง ฮ่องเต้ที่ไม่มีใครกล้าคาดเดา….ข้าราชบริพารขอเข้าเฝ้ารับราชโองการ
“จงประกาศ ให้คนตำหนักหลี่เด๋อเข้าเฝ้า”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” ข้าราชบริพารรับคำสั่ง
ฮ่องเต้อำมหิตมองใบหน้าอันหล่อเหลาท่าทางงดงามของตัวเองผ่านกระจก แอบพูดว่า “ตระกูลใหญ่สามตระกูล! ฮึ! เสด็จพ่อ พระองค์รับสั่งกับหม่อมฉันมาโดยตลอด อย่าได้ลงโทษตระกูลขุนนางทั้งสาม แต่ต้องพึ่งพาพวกเขา!หม่อมฉันจะทำให้พระองค์เห็น ว่าหม่อมฉันจะทำลายตำนานสามตระกูลแข็งแกร่งพวกนี้อย่างไร! ขั้นแรก ประหารคนจวนโจว๋!”