นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 103 ฉันอยากไปทำงานที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ป
รักเขาภายในสองเดือนงั้นหรอ
ซูฉิงกัดริมฝีปากบางของตัวเอง แล้วพูดอย่างหน้าจริงจัง”เป็นไปไม่ได้ ”
“แล้วถ้าหากล่ะ ถ้าหากว่าเธอรักฉันเข้าจริงๆ จะอยู่ที่นี่ต่อมั้ย”ฮ่อหยุนเฉิงยังดึงดันถามต่อ แววตาบ่งบอกว่าจะต้องตอบคำถามนี้
“ไม่มีคำว่าถ้าหาก “พอพูดจบ ซูฉิงก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานท่านประธานแล้วไม่หันกลับมามองอีกเลย
แต่ในใจกลับเต้นแรง
ฮ่อหยุนเฉิงหมายความว่ายังไง เขาอย่างให้เธออยู่ที่นี่งั้นหรอ
แล้วถังถังของเขาล่ะ
ซูฉิงพร่ำบอกกับตัวเองมาตลอดว่าที่ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างนี้ เพราะว่าเธอหน้าเหมือนกับถังถังแค่นั้นเอง
เธอซูฉิง จะไม่ยอมเป็นตัวแทนของใครเด็ดขาด!
หลายวันต่อมา ทั้งหมดก็เหมือนไม่มีอุปสรรคอะไร
เซี่ยซิงซิงที่ได้รับโทษเจตนาทำร้ายร่างกายถูกตัดสินโทษจำคุกหนึ่งปี
“คอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟประสบความสำเร็จอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้บรูซพอใจเป็นอย่างมาก แล้วก็กลับไปฝรั่งเศสพร้อมกับผู้ช่วยของเขา
ส่วนยวี๋น่านั้นถูกหลินหนานชวนห้อยู่ต่อ เพื่ออยู่เที่ยวที่เมือง a ก่อน ค่อยกลับไปฝรั่งเศส
“คอลเลคชั่นอัญมณีน้ำแข็งและไฟดังแทบระเบิดได้รับคะแนนล้นหลาม จนทำให้บริษัทตระกูลฮ่อกรุปแซงหน้าlove&loveเจเวลรี่ มาเป็นผู้นำด้านอัญมณีแล้ว
ช่วงนี้ตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้สร้างโรงงานอัญมณีที่เขตชานเมือง a และมีโรงงานสาขาที่ฝรั่งเศสด้วย ล้วนต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อผลิตคอลเลคชั่นน้ำและไฟ”
ส่วนซูฉิง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจคน้ำแข็งและไฟ ก็ได้รับคำชอบจากฮ่อหยุนเฉิง ไม่หยุด
บ้านตระกูลสวี
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ดูคลิปวิดีโอสื่อที่ออกข่าวของฮ่อหยุนเฉิงอยู่กับซูฉิงอยู่ด้วยกัน ก็แสดงสีหน้าเกลียดแค้นขึ้นมาทันทีพร้อมกับขว้างแจกันที่อยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นจนแตกกระจาย “ซูฉิง ซูฉิง ซูฉิงอีกแล้ว! แกมีอะไรดีหนักหนา”
ไป๋หลานที่ตกใจเสียขวัญกับการกระทำของสวีหว่านเอ๋อร์ แต่ก็รีบเข้าไปพูดปลอบ “หว่านเอ๋อร์ เธออย่าพึ่งอารมณ์เสียไป ซูฉิงก็อาจจะแค่โชคดีก็เท่านั้นมั้ย ก่อนหน้านี้ล้วนทำให้เธอพ้นจากคำครหาและอันตรายได้
ฉันว่าฮ่อหยุนเฉิงก็คงแค่ชื่นชอบกับของใหม่อยู่ สักวันหนึ่งฮ่อหยุนเฉิงเบื่อแล้ว ก็จะต้องไล่ซูฉิงไปแน่ เมื่อถึงตอนนั้นตำแหน่งคุณนายแห่งตระกูงฮ่อ จะต้องตกเป็นของเธอหว่านเอ๋อร์แน่นอน ”
“แล้วจะต้องไปจนถึงเมื่อไหร่กัน!”สวี่หว่านเอ๋อร์เอ่ยถามอย่างโมโห “ยัยบ้านนอกนั่นดีกว่าฉันตรงไหน”
“แน่นอนว่าไม่มีตรงไหนเทียบกันเธอไม่ได้เลย!”ไป๋หลานที่พูดตาโต “ฉันว่านะ ยัยบ้านนอกนี่จะต้องมือยาวสาวได้สาวเอาแน่ เธอคิดสิ หล่อนกับฮ่อหยุนเฉิงทำงานด้ววชยกัน ยังพักอยู่ด้วยกันอีก จะไม่อ่อยเขาได้ไหวหรอ”
“และจะทำยังไงดี รีบช่วยวิธีไล่มันออกไปเร็วๅ!”สวีหว่านเอ๋อร์ใจร้อนดั่งไฟ อยากจะทำให้ซูฉิงหายสาบสูญไปเลย หายไปตลอดกาลยิ่งดี
“หว่านเอ๋อร์ งั้นคิดหาวิธีที่จะได้ไปทำงานที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปสิ “ไป๋หลานเสนอความคิดเห็น “คืออย่างนี้นะข้อแรกซูฉิงก็จะได้อยู่ในสายตาของเธอ เธอยังกลัวว่าหล่อนจะมาไม่ไหนได้ไง ข้อสอง เธอก็จะได้อยู่ใกล้ชุดประธานฮ่อด้วย เชื่อว่าเขาจะต้องเห็นว่าเธอนั้นดีกว่าซูฉิงเป็นร้อยเท่าพันเท่า เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต้องสลัดซูฉิงมาตามจีบเธอแน่”
“เป็นวิธีการที่ดี “สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้าอย่างพอใจ
แต่ว่าแล้วเธอจะทำยังไงถึงจะได้เข้าไปทำงานที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปละ
ดูท่า ทำได้เพียงไปขอร้องพี่ชายของเธอให้ช่วย
สวีหว่านเอ่อร์ตักซุปใส่ถ้วยแล้วเดินขึ้นไปในห้องทำงานที่อยู่ด้านบนบ้าน เคาะประตู”พี่ใหญ่ ฉันเข้าไปได้มั้ย”
“เข้ามา “สวีมู่หยางส่งเสียงตอบ
สวีหว่านเอ๋อร์ก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับนำซุปไก่เอามาวางบนโต๊ะ “พี่ใหญ่ ดึกป่านนี้แล้วทำไมพี่ยังทำงานอยู่อีก ฉันเลยตั้งใจให้คนใช้ตุ๋นซุปไก่มาให้พี่ พี่รีบกินในตอนร้อนๆ เถอะ”
สวีมู่หยางเหลือบมองซุป “พูดมาเถอะ จะเอาเท่าไหร่.
“เฮ่อ พี่ใหญ่ พี่คิดไปถึงไหนกัน “สวีหว่านเอ๋อร์เขย่าแขนของสวีมู่หยางไปมาอย่างอ้อนๆ “ฉันแค่เป็นห่วงสุภาพของพี่นะ”
สวีมู่อย่างยิ่งมองอย่างสงสัย ทุกครั้งที่สวีหว่านเอ๋อร์มาทำดีกับเขาจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ไม่ใช้มาขอเงินก็ต้องมาขอให้ช่วยทำอะไรแน่
ไม่รู้ว่าครั้งนี้ น้องสาวที่มักจะทำให้เขาปวดหัวนี่คิดจะทำอะไรอีก
“พูดมาเถอะ เรื่องอะไร”สวีมู่หยางลูบขมับ
สวีหว่านเอ๋อร์ยิ้ม “คืออย่างนี้ค่ะ พี่ใหญ่คะ พี่กับคุณปู่มักบอกว่าฉันวันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ตอนนี้ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้ว อยากจะทำงาน”
“เธออยากจะทำงาน ง่ายมากเลย ไปเลือกตำแหน่งที่สวีกรุ๊ปสิ ” สวีมู่หยางรู้สึกแปลกใจมาก ที่น้องสาวที่เอาแต่ใจจะมีสักวันที่อยากจะทำงานขึ้นมา
ไปทำงานที่ตระกูลสวีกรุ๊ปจะได้อะไร ทุกคนล้วนว่าฉันเป็นน้องสาวของพี่น่ะสิ ไม่มีความท้าทายเลย “สวีหว่านเอ๋อร์เอ่ยปาก “ฉันอยากไปทำงานที่ตระกูลสวีกรุ๊ป”
สวีมู่หยางก็รู้ได้ทันทีว่าน้องสาวจองเขาอยากได้อะไร พูดว่าอยากจะไปทำงาน แต่ก็มีเรื่องแอบแฝง เป้าหมายแท้จริงก็คือฮ่อหยุนเฉิง
“ไม่ได้ “สวีมู่หยางตอบออกไปอย่างชัดเจน ฮ่อหยุนเฉิงไม่รับปากที่จะให้สวีหว่านเอ๋อร์เข้าทำงานที่ตระกูลฮ่อหรุ๊ปแน่
สวีหว่านเอ๋อร์ยังไม่ยอมแพ้ “ทำไมอ่า พี่คะ ฉันชอบหยุนเฉิงนะ พี่ที่เป็นพี่ชาย จะช่วยสักหน่อยไม่ได้หรอ”
สวีมู่หยางคิ้วขมวด “ฮ่อหยุนเฉิงมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอไม่รู้รึไง”
“ก็แค่ยัยบ้านนอก!”สวีหว่านเอ๋อร์พูดอย่างโมโห”พี่ใหญ่ ฉันไม่ยอมหรอกนะ ยัยบ้านนอกนั่นมีอะไรดีกว่าฉันเชียว มีสิทธิ์อะไรมาเป็นคู่หมั้นของหยุนเฉิง”
สวีมุ่หยางเอ่ยเสียงเรียบ”เธอหมายถึงซูฉิงหรอ พี่ว่าหล่อนก็ไม่เลวนะ”
สวีหว่านเอ๋อร์กระทืบเท้า “พี่ ทำไมพี่ไปเข้าข้างหล่อนนะ พี่ก็รู้นี่ว่าฉันชอบหยุนเฉิง!”
“ถ้าหากว่าฉันได้กลายเป็นคู่หมั้นของหยุนเฉิง ตระกูลสวีของเราก็จะได้ทำความร่วมมือกับตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้อย่างราบรื่นมั้ย พี่ใหญ่ ถ้าพี่ไม่รับปาก งั้นฉันก็จะตายต่อหน้าพี่เลย ” สวีหว่านเอ๋อร์ที่ทั้งพูดแล้วก็หยิบเอามีดปอกผลไม้ขึ้นมา
สวีมู่หยางรีบเข้าไปจับมือของสวีหว่านเอ๋อร์ไว้”อย่าทำเรื่องวุ่นวาย!”
“งั้นพี่ก็รับปากฉันมั้ย “สวีหว่านเอ๋อร์พูดอ้อน
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะช่วยเธอคิดหาวิธี”สวีหว่านเอ๋อร์ที่ทำเรื่องที่ไม่มีเหตุผล สวีมู่หยางก็รู้สึกหมดความอดทน
เพราะว่า เขาก็มีแค่น้องสาวคนเดียว
สวีมู่หยางยังคิดไม่ออกว่าจะไปคุยกับฮ่อหยุนเฉิง ตระกูลฮ่อก็เกิดเรื่องขึ้นก่อน
วันนี้ ซูฉิงที่กำลังคำนวณยอดขาย “น้ำแข็งและไฟ” ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากับผู้จัดการฝ่ายขายที่ดูแลการขายเครื่องประดับในแผนกขาย ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบเข้ามา
“เลขาซู เกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ มีคนมาก่อความวุ่นวายครับ”พนักงานรักษาความปลอดภัยพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
ซูฉิงหยุนงานที่อยู่ในมือ แล้วก็ลุกขึ้นถาม”มีอะไรหรอ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยพูดเสียงหอบ”มีคนอยู่หน้าประตู บอกว่าสวมใส่เครื่องประดับคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟของบริษัทเราแล้วเกิดเป็นพิษ อยากจะพบคุณ บอกว่ามาเรื่องร้องความเป็นธรรม และยังเชิญนักข่าวมาด้วยครับ ”
เป็นพิษงั้นหรอ??
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็มองหน้าสบตากัน “กกระบวนการทำงานการผลิตคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด เครื่องประดับน้ำแข็งและไฟจะเป็นพิษได้งั้นหรอ ? !
ซูฉิงกระแอมแล้วพูดเสียงเรียบ”ฉันออกไปดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”