นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 110 ฉันนึกว่าต้องตายซะแล้ว
แค่ได้ยินซูฉิงพูดว่าจะจากไป ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงมืดลง
ที่เธอต้องการจากไปเป็นเพราะคำพูดของมารดาเขาเมื่อครู่ หรือว่าเป็นเพราะ…
“ซูฉิง แม่ฉันก็เป็นคนแบบนี้ เขาพูดอะไรเธอก็อย่าเอาไปใส่ใจ” ฮ่อหยุนเฉิงขยับเข้ามาใกล้ซูฉิง ยื่นมือมาโอบไหล่ซูฉิง
ดวงตาเขาฉายแววลึกซึ้ง ทอประกายแปลกประหลาด พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เธอเชื่อฉัน ฉันจะจัดการเรื่องของแม่ฉันให้เรียบร้อย ต่อไปจะไม่ให้แม่มาทำให้เธอลำบากใจ”
สบสายตาที่ลึกซึ้งของฮ่อหยุนเฉิง ใจของซูฉิงก็เต้นช้าลงไปครึ่งจังหวะ
เธอก้าวถอยหลัง หัวเราะออกมาแล้วเปลี่ยนหัวข้อพูด “หยุดพูดเรื่องพวกนี้แล้ว พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว ถ้ายังไม่ไปอีก พวกเราคงสายแน่”
ดวงตาฮ่อหยุนเฉิงกลับไปเย็นชา ริมฝีปากแยกจากกันน้อยๆ “ไปเถอะ!”
ทั้งสองคนมาถึงสนามบิน ฮ่อหยุนเฉิงก็พาซูฉิงมาหยุดอยู่หน้าเครื่องบินโบอิ้ง
“นี่คือเครื่องบินของนาย?” ซูฉิงมองประเมินเครื่องบินหรูหราตรงหน้า
ตอนวันเกิดของเธอ คุณปู่ก็เคยจะซื้อเครื่องบินแบบนี้ให้เป็นของขวัญ แต่ว่าซูฉิงปฏิเสธเพราะเธอกลัวความสูง
“ประธานฮ่อ คุณหนูซู” กัปตันกับแอร์โฮสเตจยืนรอแสดงความยินดีอยู่ที่หน้าประตู ต้อนรับการมาถึงฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิง
“ขึ้นไปเถอะ” ฮ่อหยุนเฉิงกุมมือของซูฉิง พาเธอก้าวขึ้นไปบนเครื่องบิน
เครื่องบินสยายปีกออก ทะยานขึ้นสู่ชั้นเมฆอย่างรวดเร็ว
บนความสูงระดับหนึ่งแสนฟุต ซูฉิงนั่งอยู่ข้างกายฮ่อหยุนเฉิงมองชั้นเมฆที่เรียงรายอยู่นอกหน้าต่างด้วยแววตาเรียบเฉย
“คิดอะไรอยู่?” จู่ๆฮ่อหยุนเฉิงก็พูดขึ้นมาข้างหูของซูฉิงเบาๆ
“เปล่า” ซูฉิงหันกลับมา สบสายตาตาลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิง กระแอมในลำคอเล็กน้อย “ฉันกำลังคิดว่า แท้จริงแล้วใครกันที่มีปัญหากับฮ่อกรุ๊ป”
“เดี๋ยวถึงฝรั่งเศสก็รู้แล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงยิ้ม “ไม่ต้องคิดมากแล้ว กินอะไรหน้อยเถอะ เธออยากดื่มอะไร?”
ซูฉิงคิด “น้ำส้มแล้วกัน”
“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่” ใบหน้าพนักงานต้อนรับมีรอยยิ้มน้อยๆ
ห้านาทีผ่านไป พี่สาวพนักงานต้อนรับก็ทำน้ำส้มเสร็จ นำมาให้ซูฉิง “คุณหนูซู นำส้มของคุณค่ะ”
“ขอบคุณ” ซูฉิงรับน้ำส้มมา เตรียมจะดื่มเข้าไป จู่ๆเครื่องบินก็โคลงเคลงแล้วตกลง
“อ้าย!!!” ซูฉิงตกใจ
ในเวลาเดียวกัน ไฟบนเครื่องบินก็ดับลง รอบกายก็มืดไปหมด
ความรู้สึกไร้น้ำหนักทำให้ตัวซูฉิงสั่นขึ้นมา ความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุดทำให้ซูฉิงถูกรายล้อมไปด้วยความกลัว
ในสมองก็ราวกับกะพริบภาพจิ๊กซอว์วาบไปมา
เหมือนกับว่าเธอตกลงไปในเหวลึก รอบกายมืดสนิท และเธอก็ร่วงลงไปเรื่อยๆ
มือของซูฉิงยื่นออกมาพยายามจับอะไรสักอย่างไว้ แต่กลับจับไว้ไม่อยู่
ความสิ้นหวังที่แสนน่ากลัวก็แพร่กระจายไปในกระดูกของซูฉิง
“ช่วยด้วย…” ใบหน้าซูฉิงซีดเผือด ตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนกทว่าไม่มีเสียง มือไม้อ่อนไร้เรี่ยวแรง
ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือที่ใหญ่และแข็งแรงของเขาออกมา กอดซูฉิงไว้แน่น ถามด้วยความเป็นห่วง “ซูฉิง เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”
อ้อมกอดอบอุ่นของฮ่อหยุนเฉิงทำให้ซูฉิงสงบลง เธอกอดตอบฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่รู้ตัว เผยความหวาดกลัวของการรอดชีวิตหลังภัยนั่น “ฉันกลัว”
“ไม่ต้องกลัว แค่เจอหลุมอาการน่ะ” เมื่อรู้สึกถึงการพึ่งพาของผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา ริมฝีปากบางน่าหลงใหลของฮ่อหยุนเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นเล็กน้อย
ในเวลาอันรวดเร็ว เครื่องบินก็กลับมามั่นคง ไฟก็สว่างขึ้นมา
เมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังกอดฮ่อหยุนเฉิงแน่น ใบหน้าซูฉิงก็ร้อนฉ่า รีบร้อนปล่อยเขา “ขอโทษที เมื่อกี้ฉันลืมตัว”
“มันเป็นแค่อุบัติเหตุน่ะ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ ทว่าแววตาของเขามีแววกังวลที่มองไม่เห็นน้อยๆ
“ฉันตกใจหมดเลย…” ซูฉิงตบหน้าอก ผ่อนลมหายใจ “ฉันคิดว่าฉันจะตายซะแล้ว”
“ดูไม่ออกเลยว่าเธอจะขี้ขลาดขนาดนี้” ฮ่อหยุนเฉิงยกมุมปาก
หลายครั้งที่ซูฉิงแสดงออกถึงความสงบเยือกเย็น ความเป็นตัวของตัวเอง แข็งแกร่ง น้อยครั้งที่เธอจะตื่นตระหนกและหวาดกลัว
ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วสงบสติอารมณ์ “คุณไม่รู้หรอก สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือความมืดและความสูง เมื่อกี้นี้มีทั้งคู่ ฉันก็ต้องกลัวอยู่แล้ว”
ฮ่อหยุนกุมมือซูฉิง สายตาลึกล้ำที่อ่อนโยนและหนักแน่น “มีฉันอยู่ ไม่ต้องกลัว”
สัมผัสอุณหภูมิอบอุ่นของฮ่อหยุนเฉิงที่ส่งมาจากปลายนิ้วของเขา กระแสน้ำอุ่นก็ไหลผ่านหัวใจของซูฉิง
แต่ว่าตอนนี้…
ซูฉิงถอนหายใจเบา ๆ ดึงมือของเธอออกแล้วพูดเสียงเบา “ขอบคุณ”
เมื่อรู้สึกถึงการปฏิเสธที่ชัดเจนจากผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงก็มืดลงเล็กน้อย
เขาหันศีรษะไปด้านข้าง แววตาลึกล้ำ น้ำเสียงกดต่ำ “ซูฉิง เธอจะไม่ยอมรับฉันจริงๆหรือ?”
ซูฉิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติ “ฮ่อหยุนเฉิง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดคุยเรื่องนี้ นายลืมจุดประสงค์ของการเดินทางไปฝรั่งเศสของเราแล้วหรือไง ฮ่อกรุ๊ปกำลังเจอความยากลำบากอยู่ คุณยังมีอารมณ์มาคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้?”
“ความยากลำบากอะไร?” ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งสงบและมั่นใจ “เรื่องเล็กแค่นี้ ยังอุตส่าห์นับ”
เอาเถอะ…
อันที่จริง ชูฉิงก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามบ้างเพื่อคว้าตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
ระยะทางที่เหลือของการเดินทางนั้นสงบมาก และเครื่องบินก็ไม่พบหลุมอากาศอีกเลย
เมื่อเครื่องบินแลนดิ้ง ซูฉิงก็ผ่อนลมหายใจ
โจนส์และบรูซมารอพวกเขาอยู่สนามบินของฝรั่งเศสแล้ว
ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงลงจากเครื่องบิน บรูซก็ก้าวขึ้นไปต้อนรับ “ไฮ ฮ่อ คุณหนูซู ไม่เจอกันนานนะครับ”
“สวัสดีค่ะ คุณบรูซ” ใบหน้าของซูฉิงมีรอยยิ้มบาง ยื่นมือออกไปจับกับมือของบรูซ
“ประธานฮ่อ พวกเราเราตรวจพบวัตถุดิบไม่เหมาะสมที่มีธาตุกัมมันตภาพรังสีอยู่ที่หนึ่งในคลังสินค้าที่เก็บวัตถุดิบของโรงงานหมายเลข 1 “โจนส์แทบรอไม่ไหวที่จะรายงานต่อฮ่อหยุนเฉิง
“พูดแบบนี้แปลว่าวัตถุดิบมีปัญหา?” ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ฮ่อ sorryนะ เรื่องนี้ฉันก็ส่วนที่ต้องรับผิดชอบ” น้ำเสียงของบรูซรู้สึกผิดเล็กน้อย อย่างไรซะเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นในฝรั่งเศส และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยสาขาฝรั่งเศสก็จำหน่ายโดยเลดี้แฟชั่นของบรูซ
“บรูซ พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา
“คุณฮ่อ ทำไมคุณกับคุณซูไม่ไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน พวกคุณสองคนเดินทางมานาน…” โจนส์เสนอเมื่อเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของซูฉิง
“ไม่ต้อง พวกเราไปโรงงานหมายเลขหนึ่งกัน ตอนนี้เลย” ซูฉิงส่ายศีรษะ เธออยากรู้ความจริงจนแทบรอไม่ไหวแล้ว