นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 112 ฮ่อหยุนเฉิง นายจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ
ฮ่อหยุนเฉิง นายต้องไม่เป็นอะไรนะ!
ซูฉิงทนความเจ็บปวด กัดฟันลุกจากเตียง
เธอจะไปตามหาฮ่อหยุนเฉิง เธอต้องเห็นเขาไม่เป็นอะไรด้วยตาตัวเอง
“คุณซู ฟื้นแล้วเหรอครับ?” ในขณะนั้นเอง โจนส์ก็เปิดประตูเข้ามา
“โจนส์ ดีที่คุณไม่เป็นอะไร” เมื่อเห็นโจนส์ ซูฉิงก็โล่งใจและถามว่า “ฮ่อหยุนเฉิงล่ะ? เขาอยู่ที่ไหน คุณเห็นเขาไหม?”
โจนส์เหลือบมองซูฉิงและพูดอย่างลังเล “ประธานฮ่อเขา…”
“เขาเป็นยังไงบ้าง?” ซูฉิเห็นท่าทีลังเลของโจนส์ก็ถามอย่างอดใจรอไม่ไหว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“เขาบาดเจ็บ กำลังอยู่ในห้องฉุกเฉินครับ” โจนส์ถอนหายใจและพูดเสริม “ประธานฮ่อบาดเจ็บสาหัสมากครับ”
ห้องฉุกเฉิน…บาดเจ็บสาหัส…
ในหัวซูฉิงอื้ออึงและว่างเปล่าในทันใด
ฮ่อหยุนเฉิงบาดเจ็บเพราะเธอ
ในขณะที่โกดังระเบิดอย่างกะทันหันนั้น ภาพที่ระทึกขวัญก็แวบขึ้นมาในใจของซูฉิง
ถ้าไม่ใช่เพื่อช่วยเธอ ฮ่อหยุนเฉิงคงไม่ได้รับบาดเจ็บ
“ห้องฉุกเฉินอยู่ที่ไหน?” ซูฉิงถามโจนส์เสียงดัง
ดูเหมือนว่าโจนส์จะตกตะลึงกับท่าทีของซูฉิง เขาเรียกสติก่อนจะตอบ “อยู่บนชั้นสิบแปดครับ”
ทันทีที่สิ้นเสียงของโจนส์ ซูฉิงก็รีบออกจากห้องและตรงไปที่ลิฟต์
แต่ลิฟต์กลับหยุดที่ชั้นบนสุด ซูฉิงหันกลับและเดินไปที่บันได และเดินไปที่ชั้นแปดอย่างรวดเร็ว
หอผู้ป่วยของซูฉิงอยู่ชั้น 5 เธอเดินขึ้นไปชั้น 13 ด้วยลมหายใจเดียว และในที่สุดก็มาถึงชั้นที่สิบแปด
“ฮ่อหยุนเฉิงอยู่ที่ไหน?” ซูฉิงคว้าตัวหมอในชุดคลุมสีขาวแล้วถามเป็นภาษาฝรั่งเศส
“โอ้ คุณกำลังพูดถึงประธานฮ่อจากตระกูลฮ่อกรุ๊ปใช่หรือเปล่าครับ?” หมอกวาดสายตามองซูฉิง และชี้ไปที่ด้านใน “อยู่ในห้องฉุกเฉินทางนั้นครับ”
“เขาเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ซูฉิงถามอย่างร้อนใจ
หมอส่ายหัว “sorry ผมไม่ทราบครับ”
ซูฉิงไปที่ประตูห้องฉุกเฉินอย่างเร่งรีบ แต่พยาบาลตรงประตูเข้ามาห้ามไว้ “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง หมอกำลังเร่งช่วยคนไข้อยู่ คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ”
“คนไข้ที่อยู่ข้างในเขาไม่เป็นไรใช่ไหม?” ซูฉิงถามอย่างกังวล ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ประตูห้องฉุกเฉินที่ปิดอยู่
พยาบาลยิ้มอย่างสุภาพ “คุณผู้หญิงวางใจเถอะนะคะ หมอพยายามอย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ”
วางใจ?
เธอจะวางใจได้ยังไงกันล่ะ?
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับฮ่อหยุนเฉิง เธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
หัวใจซูฉิงบีบรัดตัว สองมือวางทาบอกและสวดอ้อนวอนไม่หยุด
ไม่เป็นไร ฮ่อหยุนเฉิงต้องไม่เป็นอะไร!
“คุณซู” เสียงที่คุ้นเคยดังเข้าหูซูฉิง
ซูฉิงหันไปตามเสียงก็เจอเข้ากับบรูซและผู้จัดการหลายคนของสาขาฝรั่งเศสของตระกูลฮ่อกรุ๊ป ต่างนั่งอยู่ในที่นั่งข้างห้องฉุกเฉิน สีหน้าของทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความกังวล
ซูฉิงเดินเข้าไป “คุณบรูซ ฮ่อหยุนเฉิงเขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
บรูซหน้าซีด “ฉันเองก็เพิ่งมาเหมือนกัน ฉันได้รับข่าวก็รีบมาทันทีเลย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?”
“ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโกดังถึงระเบิด” ซูฉิงนวดขมับของเธอแล้วตอบ
เธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ตั้งนานโกดังไม่มีท่าทีระเบิด ทำไมมารถเบิดตอนที่เธอกับฮ่อหยุนเฉิงจะไปดูด้วย
โลกนี้มันจะมีอะไรบังเอิญขนาดนี้กัน?!
ในขณะนั้นเองประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก และหมอก็เข็นฮ่อหยุนเฉิงออกมา
“ฮ่อหยุนเฉิง นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ชูฉิงรีบลุกขึ้นไปดูฮ่อหยุนเฉิงด้วยความกังวล
แต่ทว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับไม่ตอบเธอ
เขาอยู่ในอาการโคม่า นอนเงียบๆ อยู่บนเตียงโรงพยาบาล ใบหน้าหล่อของเขาซีดมาก เปลือกตาปิดแน่น ผ้าก๊อซพันรอบศีรษะและยังมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
เห็นฮ่อหยุนเฉิงเป็นแบบนี้ ซูฉิงรู้สึกแสบจมูกจนน้ำตาที่คลอเบ้าเกือบจะไหลออกมา
เธอสูดจมูกและบอกตัวเองว่าเธอต้องสงบสติอารมณ์ เวลานี้เธอจะมาตื่นตระหนกไม่ได้
“หมอคะ เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?” ซูฉิงหันไปถามหมอด้านข้างด้วยน้ำเสียงสั่น
เธอกลัวว่าจะได้ยินสิ่งที่เธอไม่อยากได้ยิน
หมอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “คุณฮ่อถูกแผ่นเหล็กกระแทกเข้าที่ศีรษะและขา อาการบริเวณศีรษะนั้นรุนแรงมาก แม้ว่าเราจะปฐมพยาบาลแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีนะครับ”
สถานการณ์ยังไม่ดี…นี่มันหมายความว่ายังไง?
หัวใจของซูฉิงเจ็บราวถูกมีดแทง
ทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงโง่ไม่ได้สนใจแม้แต่ชีวิตของตัวเองแล้วมาช่วยเธอขนาดนี้
“แล้วเมื่อไหร่เขาจะฟื้นเหรอคะ?” ซูฉิงกัดริมฝีปากและถามอย่างเร่งรีบ
หมอถอนหายใจเบาๆ “พูดยากนะครับ อาจจะฟื้นพรุ่งนี้ หรือบางที…”
หมอไม่พูดต่อ แต่ความหมายนั้นชัดเจนในตัวเอง
กังวล วิตก อึดอัด…อารมณ์ความรู้สึกมากมายทับซ้อนหมุนวนอยู่ในใจของซูฉิง เธอมองลงไปที่ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ในอาการโคม่าและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่มีทาง ฮ่อหยุนเฉิงเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่!”
บรูซตบไหล่ของซูฉิงเบา “ใช่ ฮ่อเขาไม่มีทางเป็นอะไรแน่ คุณซูเองก็บาดเจ็บ กลับห้องไปพักเถอะครับ เดี๋ยวทางคุณฮ่อเราจะจัดคนมาดูแลเองครับ”
“ฉันไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับฮ่อหยุนเฉิงเองค่ะ” ซูฉิงส่ายหัว
หมอเข็นฮ่อหยุนเฉิงไปที่ห้องวีไอพี ซูฉิงนั่งข้างเตียง หลุบวานตามองใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยตรงหน้า แล้วพูดอย่างอึดอัด “ฉันขอโทษนะฮ่อหยุนเฉิง ที่นายบาดเจ็บทั้งหมดเป็นเพราะฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันยืนกรานที่จะมาฝรั่งเศส คงไม่เกิดเรื่องมากมายแบบนี้”
เงียบไปสักพัก ซูฉิงก็จับมือฮ่อหยุนเฉิง “ฮ่อหยุนเฉิง ต้องตื่นนะ นายต้องตื่นขึ้นมานะ!”
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ
ซูฉิงเปิดประตูเบาๆ เป็นโจนส์ที่ยืนอยู่ด้านนอก
“โจนส์ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ซูฉิงถามเบาๆ
โจนส์มองไปทางห้อง “ประธานฮ่อเขา…ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
ซูฉิงเม้มริมฝีปาก “ยังไม่ได้สติเลย”
โจนส์ถอนหายใจ “ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ประธานฮ่อเขาเป็นคนดีฟ้าต้องคุ้มครองและต้องเป็นอะไรแน่นอนครับ”
ซูฉิงชายตาเหลือบมองโจนส์ “ทันทีที่เรามาถึงฝรั่งเศส คลังสินค้าก็ระเบิด นี่มันพอเหมาะพอดีเกินไป โจนส์ คุณตรวจเจออะไรไหม?”
“ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันมาก” โจนส์หรี่ตาลง “ที่เกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบศพ 2 รายครับ”
เปลือกตาของซูฉิงกระตุก “ศพ 2 ราย พวกเขาคือใคร?”
“เบื้องต้นสงสัยว่าเป็นผู้จัดการคลังสินค้า ยังจำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอเพิ่มเติมถึงยืนยันได้ครับ” โจนส์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “เกิดปัญหากับวัตถุดิบ อาจเป็น 2 คนนี้ที่เล่นตุกติกก็ได้ครับ”
ซูฉิงพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “โจนส์ รบกวนคุณตรวจสอบอีกหน่อยนะคะ ลองดูว่าจะสามารถยืนยันได้ไหมว่าวัตถุดิบเป็น 2 คนนั้นที่เล่นตุกติกและเกี่ยวกับที่คลังสินค้าระเบิดในครั้งนี้ด้วยหรือเปล่า”