นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 113 สงสัยโจนส์
“ได้ครับคุณซู” โจนส์ตอบตกลงทันที
หลังจากที่โจนส์จากไป ซูฉิงก็กลับเข้าห้อง ก้มมองฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่บนเตียง ใจก็อดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้
เธอช่วยห่มผ้าให้เขาอย่างระมัดระวัง มือทั้งสองข้างของซูฉิงจับมือฮ่อหยุนเฉิงเอวไว้ และสวดภาวนาในใจอย่างเงียบๆ ฮ่อหยุนเฉิง นายต้องไม่เป็นอะไร
นาฬิกากำลังเดิน และทุกๆ เข็มวินาทีเคลื่อนราวกับทระแทกลงบนหัวใจซูฉิงจนเจ็บปวด
ทุกวินาที ซูฉิงรู้สึกเหมือนมันยาวนานราวหนึ่งศตวรรษ
ค่ำคืนค่อยๆ มืดลง ซูฉิงยังคงนั่งอยู่ตรงหัวเตียงไร้ความรู้สึกง่วง
ความกังวลและวิตกที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแพร่กระจายไปทั่วทุกเซลล์ในร่างกายของซูฉิง
กลางดึก จู่ๆ ซูฉิงก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
เธอคิดว่าเป็นหมอเข้ามาตรวจ แต่เมื่อเปิดประตูกลับพบว่าเป็นหลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงยังพาบอดี้การ์ดมาเฝ้าตรงประตูอีกสองสามคน
“ผู้ช่วยหลิน คุณมาได้ยังไงน่ะ?” เมื่อเห็นหลินหยียนเฟิง ซูฉิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เวลานี้ไม่ใช่ว่าเขาน่าจะอยู่ประเทศจีนหรอกเหรอ?
หลินเหยียนเฟิงก้าวเข้ามาในห้องคนไข้ เหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะกล่าวว่า “ทันทีที่ผมได้ข่าวก็รีบมาเลยครับ”
“ประธานฮ่อเป็นยังไงบ้างครับ?” น้ำเสียงของหลินเหยียนเฟิงฉายถึงความกังวล
ดวงตาของซูฉิงหรี่ลง “ยังไม่ได้สติเลย”
“อย่ากังวลมากไปเลยนะครับ” หลินเหยียนนเฟิงพูดปลอบซูฉิง
ซูฉิงพยักหน้า และทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “จริงสิ สถานการณ์ของบริษัทตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
หลินเหยียนเฟิงรีบมาด้วยตนเอง สถานการณ์ของบริษัทก็คงไม่ดีอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่าเธอกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของฮ่อหยุนเฉิงจนไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องพวกนั้นเลย
น้ำเสียงของหลินเหยียนเฟิงค่อนข้างเย็นชา
“หลังงานแถลงข่าวเรื่องก็ดีขึ้น ราคาหุ้นของบริษัทเริ่มฟื้นตัว ทว่าตอนนี้กลับเกิดเหตุระเบิดขึ้นจึงมีความเห็นเชิงลบมากมายบนอินเทอร์เน็ต และราคาหุ้นก็เริ่มดิ่งลงครับ”
อย่างที่คาดไว้
ซูฉิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “สถานการณ์ปัจจุบันคงไม่เอื้ออำนวยต่อเรามากใช่ไหม?”
“ใช่แล้วครับ” หลินเหยียนเฟิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูฉิงกล่าวว่า “สิ่งแรกที่เราต้องทำในตอนนี้คือค้นหาความจริงของเรื่องนี้ เพียงแค่ได้เปิดเผยผู้กระทำผิดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และเปิดเผยความจริงต่อสาธารณะ เราก็สามารถฟื้นฟูชื่อเสียงของบริษัทได้”
“ผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับ” น้ำเสียงของหลินเหยียนเฟิงหนักแน่น
“คุณซูกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมดูเอง ไม่เป็นไรหรอกครับ” หลินเหยียนเฟิงกล่าวพร้อมมองซูฉิงที่มีใบหน้าเหนื่อยล้า
“ฉันอยากอยู่กับฮ่อหยุนเฉิง” ซูฉิงส่ายหัว ตราบใดที่ฮ่อหยุนเฉิงยังไม่ตื่น เธอก็ไม่อยากห่างไปแม้เพียงครู่เดียว
หลินเหยียนเฟิงยิ้ม “คุณเองก็ได้รับบาดเจ็บ ต้องพักผ่อนดีๆ นะครับ คุณคงไม่อยากเห็นตัวเองเหนื่อยไปก่อนทั้งที่ประธานฮ่อยังไม่ฟื้นใช่ไหมครับ? วางใจเถอะครับ ทางนี้มีผมกับบอดี้การ์ดอยู่ จะไม่เกิดเรื่องกับประธานฮ่อแน่นอนครับ”
หลังจากวุ่นวายมาทั้งวัน ซูฉิงเองก็เหนื่อยมาก แถมเธอยังมีบางเรื่องที่ต้องทำโดยเร็วที่สุดด้วย
เธอมองไปที่หลินเหยียนเฟิง จากนั้นมองไปที่บอดี้การ์ดตรงประตู จนในที่สุดก็พยักหน้า “งั้นฉันจะกลับไปพักผ่อนก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าจะมาใหม่”
หลินเหยียนเฟิงส่งซูฉิงกลับคนไข้ ก่อนจะกลับมาที่ห้องของฮ่อหยุนเฉิง
เขาสั่งบอดี้การ์ด “พวกนายอยู่เฝ้าที่นี่ ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไป เข้าใจไหม?”
“รับทราบครับ ผู้ช่วยหลิน” บอดี้การ์ดตอบอย่างเคารพ
หลินเหยียนเฟิงปิดประตูห้อง เดินไปที่เตียงก่อนจะก้มมองฮ่อหยุนเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะพูดอย่างเคารพ “ท่านประธานครับ ผมส่งคุณซูฉิงกลับห้องแล้ว ตอนนี้ที่นี่ไม่มีคนแล้วครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงที่เมืองกี้ยังไม่ได้สติก็ลืมตาในวินาทีถัดไป
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง เอนตัวพิงหัวเตียงแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่มีใครสงสัยเลยใช่ไหม??”
หลินเหยียนเฟิงยิ้มและส่ายหัว “ไม่เลยครับ แม้แต่คุณซูก็ยังคิดว่าคุณไม่ได้สติอยู่เลยครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงตอบรับเบาๆ
“ทำไมถึงซ่อนแม้แต่กับคุณซูด้วยล่ะครับ? เห็นท่าทางกังวลของเธอแล้ว ผมยังทนไม่ได้เลย” หลินเหยียนเฟิงถามอย่างล้อเล่น
ฮ่อหยุนเฉิงเลือกที่จะเหลือบมองเขานิ่งๆ “คนรู้เรื่องนี้น้อยยิ่งดี”
ถูกเดพานกดทัน ฮ่อหยุนเฉิงก็แค่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย
แต่การระเบิดอย่างกะทันหันนี้มันแปลกจริงๆ
ราวกับว่าถูกคำนวณเวลาล่วงหน้าไว้แล้วเพื่อจัดการเขากับซูฉิง
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฮ่อหยุนเฉิงจึงจงใจแกล้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ในอาการโคม่า
ให้ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคิดว่าแผนสำเร็จแล้ว
ด้วยวิธีนี้เขาจะได้แอบจัดการ และให้พวกที่อยู่เบื้องหลังโผล่หางและโจมตีได้
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฮ่อหยุนเฉิงจึงถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
หลิวเหยียนเฟิงรายงาน “เป็นไปตามคาดครับ มีข่าวเชิงลบมากมายเกี่ยวกับบริษัท”
ดวงตาลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งขรึมและพูดด้วยเสียงทุ้ม “ไปตรวจสอบโจนส์ที”
หลินเหยียนเฟิงตกตะลึงครู่หนึ่ง “สงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโจนส์งั้นเหรอครับ?”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้า “โดยเฉพาะต้องตรวจสอบว่าโจนส์เกี่ยวอะไรกับLove&loveหรือเปล่า”
“ทราบแล้วครับท่านประธาน” ท่าทีของหลินเหยียนเฟิงดูนิ่งขรึม
หลังจากส่งต่องานทั้งหมดแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็หลับตานอนลงเงียบๆ อีกครั้ง
ซูฉิงกลับไปที่ห้อง หัวใจของเธอก็ยังคงบีบรัดตัว
เธอเปิดโทรศัพท์ ข่าวเกี่ยวกับการระเบิดของตระกูลฮ่อกรุ๊ปก็แพร่กระจายอย่างท่วมท้น
ความเห็นด้านล่างเองก็รุนแรงเช่นกัน
[ตระกูลฮ่อกรุ๊ปหลอกลวงผู้บริโภค ใช้วัตถุดิบไม่ดีออกมาจนทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่】
[ไม่แน่การที่ระเบิด ตระกูลฮ่อกรุ๊ปอาจเป็นฝ่ายควบคุมและดำเนินการเองเพื่อทำลายศพและทำลายร่องรอย ตายไปจะได้ไม่มีหลักฐาน】
[จะสร้างสถานการณ์เองจนแม้แต่ท่านประธานก็ได้รับบาดเจ็บเลยหรือไง? เราเชื่อในตัวคุณฮ่อ]
เมื่อจ้องไปยังหน้าจอโทรศัพท์ครู่หนึ่ง ซูฉิงก็ขมวดคิ้วและนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการระเบิดอย่างละเอียด
ทั้งเธอและฮ่อหยุนเฉิงต่างก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ในขณะนั้นโจนส์กลับเดินไปรับโทรศัพท์จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
เรื่องมันจะบังเอิญขนาดนั้นเลย?
คิดไปคิดมา ซูฉิงก็โทรหาแอนโธนี่
“พี่เอด้า” เสียงที่เป็นกังวลของแอนโธนี่ดังมาจากปลายสาย “ผมเห็นข่าวแล้ว พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ฉันไม่เป็นไร” ซูฉิงพูด “ฉันอยากให้นายตรวจสอบใครสักคนหน่อย”
“ไม่มีปัญหา แค่ไม่ใช่ถังถังนั่นก็พอ”
แอนโธนี่ตอบตกลงทันที
“ตรวจสอบโจนส์ให้ฉันที” ซูฉิงพูดขณะขมวดคิ้ว
หลังจากวางสายไป ใบหน้าซีดของฮ่อหยุนเฉิงก็ปรากฏขึ้นในหัวของซูฉิง
เธอที่ยังคงกังวลอยู่จึงหันกลับและเดินไปที่ชั้นสิบแปด
เมื่อมาถึงประตูห้องผู้ป่วยของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้ตามหน้าที่ “ขอโทษด้วยครับคุณซู คุณเข้าไปไม่ได้ครับ”
ดูเหมือนว่าซูฉิงจะได้ยินใครบางคนพูดในห้องอย่างไม่ชัดเจน เหมือนจะเป็น…ฮ่อหยุนเฉิง
หัวใจของซูฉิงตื่นตัวขึ้นมาทันที
หรือว่าฮ่อหยุนเฉิงจะฟื้นแล้ว?