นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 116 อะไรคือความจริง
“ทางหลินเหยียนเฟิงเจออะไรแล้วงั้นเหรอ?” เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงจึงเอ่ยถาม
ฮ่อหยุนเฉิงเอนหลังเล็กน้อยและพูดอย่างเคร่งขรึม “กำลังสืบอยู่ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็ได้แล้วล่ะ”
ซูฉิงพยักหน้า “เราต้องหาหลักฐานก่อนโจนส์จะจัดงานแถลงข่าว ไม่อย่างนั้นสถานการณ์อาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อเรา”
ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มบางๆก่อนจะเหล่มองซูฉิง “ไม่ต้องห่วง ฉันมีอยู่ทั้งคน โจนส์ไปไหนไม่รอดหรอก”
รอยยิ้มบางนั่นของฮ่อหยุนเฉิงทำซูฉิงสบายใจขึ้นมาก
เรื่องที่เธอให้แอนโธนี่ตรวจสอบน่าจะได้ในไม่ช้าเช่นกัน
เมื่อถึงเวลานั้น โจนส์ก็รอรับกรรมได้เลย!
งานแถลงข่าวกำหนดในอีกสองวัน
โลกภายนอกต่างคาดเดาเกี่ยวกับการระเบิดของตระกูลฮ่อกรุ๊ป ทุกคนต่างตั้งตารองานแถลงข่าวเรื่องธาตุกัมมันตภาพรังสี “น้ำแข็งและไฟ” และความจริงของการระเบิดในครั้งนี้
งานแถลงข่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
ซูฉิงมาที่ห้องประชุมแต่เช้าและนั่งลงมุมห้องที่ไม่เด่นนัก
เธอส่งข้อความหาแอนโธนี่ [ที่ฉันให้ตรวจสอบได้หรือยัง?]
ไม่นานแอนโธนี่ก็ตอบเธอ [ส่งให้พี่ทางอีเมลแล้ว]
ชูฉิงยกยิ้มมุมปาก [ขอบใจนะ]
ดูท่าว่าวันนี้จะมีฉากดีๆ ให้เห็นซะแล้วสิ
โจนส์นั่งบนโพเดียมในชุดสูทและรองเท้าหนัง
นักข่าวจำนวนมากอยู่ล้ มรอบ ทั้งยังเล็งกล้องไปทางโจนส์ที่อยู่บนโพเดียม และแสงแฟรชก็กระพริบไม่หยุด
เวลาสิบโมงเช้า งานแถลงข่าวได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
พิธีกรก้าวขึ้นเวทีและเสียงทุ้มก็ดังขึ้น “ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวของตระกูลฮ่อกรุ๊ปนะครับ เรียนเชิญคุณโจนส์ออกมาพูดได้เลยครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้น โจนส์ยืนขึ้นและส่งสัญญาณให้เงียบ
เขากระแอมในลำคอและกล่าวว่า “ไม่กี่วันมานี้ ผมเชื่อว่าทุกท่านคงจะได้ยินเรื่องการระเบิดของตระกูลฮ่อกรุ๊ปสาขาฝรั่งเศสแล้ว การแถลงข่าวในวันนี้คือจะชี้แจงในเรื่องนี้ครับ”
“คุณโจนส์ครับ ไม่ทราบว่า น้ำแข็งและไฟ ของตระกูลฮ่อกรุ๊ปนั้นใช้สารที่มีธาตุกัมมันตภาพรังสีจริงหรือไม่ครับ วัตถุดิบเหล่านั้นถูกผสมเข้าไปในโรงงานได้อย่างไรกันครับ?”
“ไม่ทราบว่าการระเบิดของคลังสินค้านั้นเป็นอุบัติเหตุจริงหรือเปล่าครับ?”
…
เหล่านักข่าวถามกันอย่าต่อเนื่องอย่างรอแทบไม่ไหวที่จะทิ้งระเบิดใส่โจนส์
“ทุกท่านได้โปรดอยู่ในความสงบด้วยครับ!” โจนส์ขึ้นเสียงเล็กน้อย “ต่อจากนี้ไปจะเป็นรายงานจากตระกูลฮ่อกรุ๊ปเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ครับ”
หลังจากหยุดไปสักพัก โจนส์มองไปที่กระดาษต้นฉบับและอ่านด้วยเสียงเครื่องกล “ผลการตรวจสอบธาตุกัมมันตภาพรังสีคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟของตระกูลฮ่อกรุ๊ป ผลออกมาว่าที่คลังสินค้าหมายเลข 1 ของโรงงานฝั่งสาขาฝรั่งเศส วัตถุดิบบางส่วนนั้นมีธาตุกัมมันตภาพรังสีจริง
แต่สาเหตุของปัญหาเรื่องวัตถุดิบนั้นเป็นเพราะผู้จัดการคลังสินค้าหมายเลข 1 มีคนจำนวน 2 คนที่ไม่พอใจบริษัทเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว จึงตอบโต้โดยการผสมสารที่มีธาตุกัมมันตภาพรังสีเข้าไปในวัตถุดิบเพื่อให้คุณภาพของเครื่องประดับที่ผลิตออกมานั้นไม่ตรงตามมาตรฐานจนทำให้เกิดพิษต่อผู้บริโภค”
“ผลการสอบสวนเหตุระเบิดของคลังสินค้าหมายเลข 1 คือผู้จัดการโกดังได้สูบบุหรี่ และก้นบุหรี่ได้ตกลงบนวัตถุดิบติดไฟจนระเบิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้เสียชีวิตทั้งสองรายซึ่งเสียชีวิตอย่างน่าเสียดายในเหตุระเบิดทันที ซึ่นได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้จัดการคลังสินค้าที่เคยทำงานเล่นตุกติกกับวัตถุดิบ”
หลังจากได้ฟังคำพูดของโจนส์ ทุกคนในงานต่างก็พากันอภิปรายเป็นจำนวนมาก
“เรื่องมันจะง่ายแบบนั้นเลยเหรอ?”
“จะบังเอิญอะไรขนาดนั้นที่ผู้จัดการคลังสินค้าทั้งสองคนที่ลงมือดันดับในเหตุระเบิดทันที?”
“เกรงว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปคงกำลังซ่อนอะไรเพื่อปกปิดความจริงมากกว่าล่ะมั้ง?”
งานแถลงข่าวค่อนข้างวุ่นวาย เหล่านักข่าวต่างพากันยิงคำถาม
“คุณโจนส์ครับ ทุกอย่างที่คุณพูดเป็นความจริงหรือเปล่าครับ?”
“ทำไมคนที่เกี่ยวข้องกับธาตุกัมมันตภาพรังสี’น้ำแข็งและไฟ ถึงตายจากเหตุระเบิดอย่างบังเอิญขนาดนี้กัน? เป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆ งั้นเหรอครับ?”
โจนส์ยกยิ้มมุมปากและพูดสิ่งที่ทำทุกคนประหลาดใจ “แน่นอนว่าไม่ง่ายอย่างการเป็นเพียงอุบัติเหตุหรอกครับ”
ทันทีที่สิ้นเสียงโจนส์ ก็เราวกับการขว้างก้อนหินลงไปในน้ำนิ่งจนเกิดระลอกคลื่น
เหล่านักข่าวต่างพากันตื่นเต้น
“คุณโจนส์ครับ ที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
“ไม่ใช่อุบัติเหตุแล้วเป็นอะไรครับ?”
“ไม่ทราบว่ามีเบื้องหลังอะไรที่ไม่ให้ทุกคนรู้ไหมครับ?”
นัยน์ตาของโจนส์เย็นชา เขากระแอมเบาๆ และพูดอีกครั้งว่า “ที่ผมพูดไปเมื่อกี้นั้นเป็นการชี้แจงของตระกูลฮ่อกรุ๊ป แต่ไม่ใช่ความจริงของเรื่องนี้ครับ”
“คุณโจนส์หมายความว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปปกปิดความจริง ถ้าอย่างนั้นความจริงคืออะไรเหรอครับ?” นักข่าวคนหนึ่งถามโจนส์อย่างเฉียบขาด
“ในฐานะผู้รับผิดชอบสาขาตระกูลฮ่อกรุ๊ปในฝรั่งเศส จริงๆ แล้วผมไม่ควรพูดแบบนี้ แต่ในฐานะที่เป็นคนซื่อตรง ผมไม่สามารถละเลยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปได้ เพราะผมตัดสินใจที่จะพูดความจริงวันนี้!” น้ำเสียงของโจนส์หนักแน่น ราวตัดสินใจครั้งใหญ่
เมื่อดูการแสดงของโจนส์บนเวทีแล้ว นัยน์ตาของซูชิงก็เย็นชาและเคร่งขรึม
ตามที่คาดไว้ จุดประสงค์ของการแถลงข่าวของโจนส์คือสาดสีใส่ตระกูลฮ่อกรุ๊ป และอยากให้ตระกูลฮ่อกรุ๊ปดับ
ทว่าเขาก็ประเมินฮ่อหยุนเฉิงต่ำเกินไป แถมยังประเมินซูฉิงต่ำเกินไปด้วย
โจนส์ก็เป็นได้แค่ตัวตลกที่ไม่สำคัญก็เท่านั้น
ปล่อยให้เขาภูมิใจไปอีกหน่อยก็แล้วกัน
โจนส์ที่เรียกน้ำย่อยของทุกคนได้แล้วจึงค่อยๆ พูดว่า “ที่จริงแล้ว สาเหตุที่ น้ำแข็งและไฟ มีกัมมันตภาพรังสีและพิษต่อลูกค้านั้นก็เพราะว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปใช้วัตถุดิบที่ด้อยคุณภาพเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายครับ
เพื่อปกปิด ตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้จีดการผลักเรื่องให้ผู้จัดการคลังสินค้าที่ไม่รู้เรื่องอะไร และการที่คลังสินค้าหมายเลข 1 ที่ระเบิดไปนั้นก็เป็นความตั้งใจของตระกูลฮ่อกรุ๊ป เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์เพื่อทำลายศพและลบร่องรอย หากตายไปก็ไร้ซึ้งร่องรอย”
หลังจากได้ยินคำพูดของโจนส์ ทุกคนในห้องประชุมก็มองหน้ากันอย่างตกตะลึง และเกิดความโกลาหลขึ้น
ไม่ว่ายังไงตระกูลฮ่อกรุ๊ปที่เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในโลกธุรกิจ จะทำเรื่องอัปยศแบบนี้เพื่อผลกำไรได้ยังไงกัน?
แต่คำพูดของโจนส์นั้นจะไม่เชื่อก็ไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้ว โจนส์เป็นผู้รับผิดชอบสาขาโรงงานตระกูลฮ่อกรุ๊ปในฝรั่งเศส และเขาไม่มีเหตุผลที่จะทำให้บริษัทของเขาเสียชื่อเสียง
พูดยังไง…ตระกูลฮ่อกรุ๊ปจขนาดนี้เลยจริงเหรอ?
ดูเหมือนโจนส์จะพอใจกับปฏิกิริยาของทุกคน เขามองไปรอบๆ ก่อนดวงตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่ซูฉิงที่มุมห้อง “และผู้ริเริ่มทั้งหมดนี้…ฮ่อหยุนเฉิงประธานตระกูลฮ่อกรุ๊ปและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการน้ำแข็งและไฟอย่างซูฉิงครับ!”
ขณะนั้นเองซูฉิงก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ และทุกสายตาก็จับจองไปที่เธอในทันที
ซูฉิงยืนขึ้นอย่างสงบ ก้าวไปหาโจนส์อย่างมั่นคง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแกมประชดประชัน “โจนส์ คุณกล้าที่จะรับผิดชอบทุกคำพูดที่คุณพูดไปใช่ไหมคะ?”