นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 137 ตระกูลฮ่อกรุ๊ปประสบปัญหา
“คุณปู่…” ต่อหน้าท่านผู้เฒ่าซู ซูฉิงที่รู้สึกขัดเขินเล็กน้อยก็พูดจาออดอ้อน “ปู่ก็อย่าไปพูดอย่างนั้นสิคะ”
“ผู้ชายผู้หญิงถึงวัยควรแต่งงานแล้วจะไปเขินทำไมกัน?” ท่านผู้เฒ่าซูหยอกล้อ
“คุณปู่ยังจะพูดอีก!” ซูฉิงหันกลับไปตบหน้าเธอด้วยมือทั้งสองข้างเบาๆ
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิงกลับเลิกคิ้วและพูดกับท่านผู้เฒ่าซูอย่างจริงจังว่า “คุณปู่ ผมจะดูแลและปกป้องซูฉิงเองครับ”
“ดี ปู่มองคนไม่ผิดจริงๆ” ท่านผู้เฒ่าซูพอใจในตัวฮ่อหยุนเฉิงมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่อหยุนเฉิงได้เห็นท่านผู้เฒ่าซู ชายชรามีจิตวิญญาณอันสูงส่ง มีรัศมีที่แข็งแกร่งรอบตัว ดูไม่เหมือนชายชราในชนบทเลย
ฮ่อหยุนเฉิงจำได้ว่าปู่ของเขามีตระกูลเพื่อนที่สนิท และนามสกุลซูเหมือนกัน ตอนนั้นทั้งสองมีอำนาจและมีชื่อเสียงในโลกธุรกิจ แต่จู่ๆ ก็เกษียณไป
หรือจะเป็นเขา?
ขณะที่ฮ่อหยุนเฉิงกำลังคิด ทันใดนั้นซูฉิงก็ขัดจังหวะความคิดของเขาทันที “คุณปู่รู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่? ได่รับสัญญาณขอความช่วยเหลือของหนูเหรอคะ?”
ท่านผู้เฒ่าซูพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ”
ตอนนั้นเขากำลังตกปลาที่ริมทะเลสาบ เมื่อเซ็นเซอร์ที่เขาถือติดตัวไปก็เกิดเคลื่อนไหวกะทันหัน
หัวใจของท่านผู้เฒ่าซูลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม หลานสาวแสนล้ำค่าของเขาตกอยู่ในอันตราย!
เขารู้ความสามารถของหลานสาวตัวเองดี และมันจะต้องวิกฤติมากแน่ถึงขนาดที่ซูฉิงกดส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ท่านผู้เฒ่าซู สัญญาณอ่อนมากและต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อค้นหากว่าจะเจอว่าเป็นในทะเลลึก
จากนั้นจึงรีบพาคนไปค้นหาและกู้ภัย
สร้อยคอตกลงไปในทะเลลึกและสัญญาณที่ส่งไปก็อ่อนลงเรื่อยๆ ในขณะที่ท่านผู้เฒ่าซูกำลังหมดหวังก็ได้เจอซูฉิง
ลมทะเลพัดผ่านใบหน้าของซูฉิง และผมยาวของเธอก็ปลิวไสว
ความตื่นเต้นหลังจากได้รับการช่วยเหลือค่อยๆ สงบลง ซูฉิงเอ่ยปากถาม “คุณปู่ ตอนนี้สถานการณ์ภายนอกเป็นยังไงบ้างคะ?”
เครื่องบินของประธานตระกูลฮ่อกรุ๊ปตกลงกลางทะเล ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง โลกภายนอกต้องแตกตื่นกันมากแน่
เป็นไปตามคาด ดวงตาของท่านผู้เฒ่าซูหรี่ลงเล็กน้อย ดวงตาที่เฉียบคมของเขามองไปยังฮ่อหยุนเฉิง “หยุนเฉิง ตระกูลฮ่อกรุ๊ปเจอปัญหาเข้าแล้วล่ะ”
คิ้วเรียวของฮ่อหยุนเฉิงขมวดเข้าหากัน “อย่างที่คิดไว้เลยครับ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะคุณปู่?” ซูฉิงถาม
ท่านผู้เฒ่าซูลูบเคราตัวเองก่อนจะมีสีหน้าจริงจัง “หลังจากได้รับสัญญาณจากหลาน ปู่ก็ติดต่อปู่ของหยุนเฉิงทันที แต่…”
“ปู่ผมทำไมเหรอครับ?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ท่านผู้เฒ่าซูมองฮ่อหยุนเฉิง “คนใช้บอกว่าเขาป่วย ฉันเลยติดต่อเขาไม่ได้ สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่สถานการณ์เร่งด่วนมา ฉันเลยสนใจมากไม่ได้ จึงทำได้แค่ออกทำเลมาตามหาพวกเธอก่อน”
หลังจากฟังที่ท่านผู้เฒ่าซูพูด ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็นิ่งขรึมมาก
ถึงแม้คุณปู่จะป่วย แต่ก็ไม่มีทางที่จะติดต่อไม่ได้
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่
“หยุนเฉิง ปู่ของนายต้องไม่เป็นอะไร” ซูฉิงจับมือฮ่อหยุนเฉิงและพูดปลอบ “เรารีบกลับกันเถอะ ไม่ว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปจะเจอปัญหาอะไร เราจะเผชิญมันด้วยกัน”
“อืม” ฮ่อหยุนเฉิงเพียงเปล่งเสียงเบาๆ ก่อนจะหันมามองซูฉิงอย่างลึกซึ้ง
นัยน์ตามีความรู้สึกวูบวาบและความรักที่ลึกซึ้ง
“คุณปู่ ให้กัปตันขับเร็วกว่านี้หน่อยสิคะ” ซูฉิงรู้ แม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะมีท่าทีสงบนิ่ง แต่ใจเขาต้องกังวลและวิตกอย่างมาก
เธอเองก็เช่นกัน อยากกลับให้เร็วดั่งลูกศร
ท่านผู้เฒ่าฮ่อดีกับเธอเสมอมา หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา อย่าว่าแต่ฮ่อหยุนเฉิง เธอเองก็คงจะเสียใจมาก
“ตอนนี้ถึงจะกังวลไปก็ไร้ประโยชน์ พวกเธอเข้าไปพักกันก่อน ตามความเร็วที่เร็วที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็ใช้เวลาสามวันกว่าจะถึง” ท่านผู้เฒ่าซูเองก็กังวลเรื่องความปลอดภัยของเพื่อนรัก แต่เขาก็สงบกว่าซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงมาก
เขาเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไร ท่านผู้เฒ่าฮ่อก็สามารถรับมือได้
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาเจอตัวฮ่อหยุนเฉิงแล้ว ด้วยความสามารถของเขา ตราบใดที่เขากลับไป ไม่ว่าตระกูลฮ่อกรุ๊ปจะเจอปัญหาอะไร เขาก็สามารถจัดการได้
หลังจากล่องเรือในทะเลอีกสองสามวัน ในที่สุดซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงก็กลับมาถึงเมือง A
ที่ท่าเรือ ท่านผู้เฒ่าซูส่งซูฉิงแล้วฮ่อหยุนเฉิงขึ้นฝั่ง ก่อนจะเอ่ยเตือน “ปู่จะกลับไปที่เมือง C ก่อน พวกเธอระวังทุกอย่างให้ดี ถ้ารับมือไม่ได้ก็มาหาปู่ได้ทุกเมื่อนะ”
“คุณปู่ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ” ซูฉิงรู้สึกไม่อยากออกห่างแต่ตอนนี้เธอมีงานสำคัญกว่าที่ต้องทำ
เรือสำราญของท่านผู้เฒ่าซูหายไปจากสายตา จากนั้นดวงตาของเธอก็แดงเล็กน้อย
“ซูฉิง เดี๋ยวรอจัดการเรื่องทางนี้เสร็จก่อนแล้วฉันจะพาไปหาคุณปู่นะ”
เสียงใสของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้นข้างใบหูของซูฉิง ซูฉิงได้สติก่อนจะขมวดคิ้ว “เรากลับบ้านใหญ่ไปหาคุณปู่นายก่อนดีกว่า”
“ไม่ ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่นดีกว่า” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ
แหวกหญ้าให้งูตื่น?
ไม่นานซูฉิงก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าฮ่อหยุนเฉิงหมายถึงอะไร
ก่อนหน้านี้ที่อยู่บ้านใหญ่ เธอเคยแอบตรวจชีพจรของท่านผู้เฒ่าฮ่อ ขณะนั้นชีพจรของเขาคงที่และปกติ ทำไมจู่ๆ ถึงป่วยหนัก?
อาการป่วยของท่านผู้เฒ่าซู เกรงว่าคงมีคนจงใจทำอะไรแน่
และคนนั้นน่าจะเป็นคนที่พยายามจะฆ่าฮ่อหยุนเฉิงบนเครื่องบินด้วย
“ไปหาหลินเหยียนเฟิงก่อน” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ซูฉิงพยักหน้า ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ท่านผู้เฒ่าซูให้ไว้ให้กับฮ่อหยุนเฉิง
โทรศัพท์ทั้งของเธอและของฮ่อหยุนเฉิงตกลงไปในทะเลแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงรับโทรศัพท์ไปก่อนจะกดหมายเลขของหลินเหยียนเฟิง
“ฮัลโหล นั่นใครครับ?” เสียงของหลินเหยียนเฟิงดังมาจากปลายสาย
ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันเอง”
“ประธานฮ่อ?” เสียงของหลินเหยียนเฟิงตื่นเต้นขึ้นมาทันที “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
“ใช่” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวเสียงเรียบ
“ท่านประธานไม่เป็นอะไรก็ดีมากเลยครับ!” น้ำเสียงของหลินเหยียนเฟิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล “พวกเราเป็นห่วงคุณและคุณซูมาก วันที่คุณหายไปมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย…”
“ไว้เจอกันแล้วค่อยคุย” ฮ่อหยุนเฉิงมองไปรอบๆ “ฉันอยู่ที่ท่าเรือ”
“ผมจะไปรับทันทีเลยครับ” หลินเหยียนเฟิงกล่าวด้วยความเคารพ
“อย่าบอกใครว่าฉันติดต่อนาย” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเข้ม
“ผมทราบแล้วครับ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเหยียนเฟิงก็ขับรถมาถึงท่าเรือ
“ประธานฮ่อ คุณซู เป็นพวกคุณจริงๆ ด้วย!” หลินเหยียนเฟิงเปิดประตูรถ เห็นฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิง ราวกับเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
“ขึ้นรถแล้วค่อยว่ากัน” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงขรึม ก่อนจะนั่งเบาะหลังกับซูฉิง
หลินเหยียนเฟิงสตาร์ทรถและออกจากท่าเรือ “ท่านประธาน เราจะไปไหนกันครับ?”
“ไปที่วิลล่าเขตชานเมืองของฉัน” ริมฝีปากบางของฮ่อหยุนเฉิงยกขึ้นเล็กน้อย
วิลล่าหลังนี้ได้รับมาจากปู่ของเขาเมื่อนานมาแล้ว มันถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ในตอนนี้เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาได้กลับมาที่เมือง A แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงวิลล่า ฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นกับซูฉิงและหลินเหยียนเฟิง
เขานั่งลงบนโซฟา นั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีสงบก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ “เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลฮ่อกรุ๊ป? ปู่ฉันเขาเป็นยังไงบ้าง?”