นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 140 การกลับมาของราชา
ด้วยเสียงปรบมืออันอบอุ่น หลินเจียต้งลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้มอันสูงส่งบนใบหน้า “ขอบคุณ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนนะครับ!”
เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ เคลียร์คอตัวเองและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ผมรู้สึกเศร้าและเสียใจกับความโชคร้ายของหยุนเฉิงมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเศร้า ผมมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ
ตระกูลฮ่อกรุ๊ปนั้นเป็นงานหนักของพ่อบุญธรรมผม ตอนนี้พ่อบุญธรรมป่วยหนัก หยุนเฉิงก็ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง รากฐานนับศตวรรษของตระกูลฮ่อกรุ๊ปไม่อาจสั่นคลอนได้ ในเมื่อทุกคนเชื่อใจผม ผมจะทำในส่วนของผมให้ดีที่สุดจึงรับงานนี้”
นักข่าวถามคำถามชวนอ่อนไหว “ขอโทษนะคะคุณหลินเจียต้ง ที่คุณรับช่วงต่อเป็นประธานคนต่อไปของตระกูลฮ่อกรุ๊ปนั้นได้รับอนุญาตจากคุณท่านฮ่อหรือไม่คะ?”
ท้ายที่สุดยังไงคุณท่านฮ่อก็เป็นคนก่อตั้งตระกูลฮ่อกรุ๊ป ในฐานะคณะกรรมการของตระกูลฮ่อกรุ๊ปแล้ว คุณท่านฮ่อมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนดำรงตำแหน่งประธาน
หากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณท่านฮ่อ แสดงว่าหลินเจียต้งมาได้อย่างไม่ถูกต้อง
หลินเจียต้งยิ้มและทำท่าราวกับว่าเขายอมรับ “แน่นอนครับ นี่คือสิ่งที่พ่อบุญธรรมหมายถึงเช่นกัน”
“แล้วทำไมคุณท่านฮ่อไม่มางานแถลงข่าววันนี้ล่ะคะ?” นักข่าวถาม
ดวงตาของหลินเจียต้งกะพริบ “เนื่องจากเหตุการณ์ของหยุนเฉิงและพ่อบุญธรรมอาการหัวใจกำเริบ ตอนนี้สถานการณ์อันตรายมากและแน่นอนว่าเขาไม่สามารถมางานแถลงข่าวได้ ท่านได้มอบความไว้วางใจให้ผมจัดการกิจการตระกูลฮ่อได้อย่างเต็มครับ”
เมื่อมองไปที่หลินเจียต้งซึ่งกำลังพูดอย่างมีชัยบนโพเดียม รอยยิ้มประชดประชันก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของซูฉิง
ดูท่าว่าหลินเจียต้งแทบหวังให้ฮ่อหยุนตายอย่างใจจดใจจ่อเลยนะเนี่ย เต่น่าเสียดายที่ความคิดปรารถนานั้นผิดแล้ว
ซูฉิงหลุบตาลงมองโทรศัพท์ของเธอ ทางฮ่อหยุนเฉิงยังไม่มีข่าวใดๆ
เขาไปช่วยท่านผู้เฒ่าฮ่อ คงไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุหรอกใช่ไหม?
หลินเจียต้งยังคงกล่าวสุนทรพจน์ยาวเหยียดอยู่ด้านบน ซูฉิงถอดแว่นกันแดดและส่งสัญญาณให้หลินเหยียนเฟิงขยิบตา
หลินเหยียนเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ขายาวก้าวขึ้นไปบนเวทีและมองไปที่หลินเจียต้งอย่างเย็นชา “หลินเจียต้งไม่สามารถเป็นประธานของตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้ครับ!”
การต่อต้านอย่างกะทันหันนี้ทำให้สายตาของทุกคนเพ่งไปที่หลินเหยียนเฟิงทันที
อย่างที่ทุกคนทราบ หลินเหยียนเฟิงเป็นมือขวาของฮ่อหยุนเฉิง
“ผู้ช่วยหลิน ไม่ทราบว่าคุณหมายความว่ายังไงคะ?” นักข่าวถามทันที
หลินเหยียนเฟิงกล่าวเสียงเรียบ “หมายความอย่างที่พูดไปครับ”
เมื่อเห็นจู่ ๆ ก็กลับคำ ท่าทีของหลินเจียต้งก็เปลี่ยนไป
ทำไมจู่ๆ หลินเหยียนเฟิงถึงเปลี่ยนใจ?
“ประธานฮ่อเพิ่งหายตัวไปเท่านั้น แค่วันเดียวที่หาเขาไม่พบก็แสดงว่ายังมีความหวัง ทำไมรองประธานหลินถึงรีบขึ้นมาแทนที่เขานักล่ะครับ?” หลินเหยียนเฟิงมองตรงไปที่หลินเจียต้งด้วยดวงตาที่เย็นชาและแน่นิ่ง
หลินเจียต้งบังคับตัวเองให้ยิ้ม เดินไปหาหลินเหยียนเฟิงและตบไหล่เขาเบาๆ “ฉันรู้ว่านายเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นกับหยุนเฉิงนะ ฉันจะไม่เศร้าได้ยังไง? ฉันมองหยุนเฉิงเติบโตมา ทั้งยังปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกตัวเอง
แต่ว่าตอนนี้เราต้องเผชิญความจริง
หลังจากเกิดเรื่องกับหยุนเฉิง มีพวกเราตั้งกี่คนที่ออกไปค้นหาและช่วยเหลืออย่างสุดแรง แล้วผลที่ได้ล่ะ ไม่มีอะไรเลย! ก็ยังไม่รู้ว่าหยุนเฉิงจะเป็นหรือตาย!”
“ในเมื่อไม่รู้ว่าเป็รหรือตาย ก็แสดงว่าประธานฮ่อก็อาจมีชีวิตอยู่ หลินเจียต้ง นี่คุณแทบรอไม่ไหวเลยเหรอครับ” หลินเหยียนเฟิงแสยะยิ้ม
หลินเจียต้งขมวดคิ้วและส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างๆ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าใจในทันทีและก้าวไปข้างหน้า “ผู้ช่วยหลิน ช่วยออกไปด้วยครับ!”
หลินเหยียนเฟิงเพิกเฉยต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและมองหลินเจียต้งอย่างเย็นชา “ทำไม คุณทำอะไรผิดไว้เหรอครับ?”
“นายกำลังพูดมั่วอะไร?” หลินเจียต้งขมวดคิ้ว
หลินเหยียนเฟิงพูดตาม “ผมกำลังพูดมั่วอะไรอยู่งั้นเหรอครับ? หากคุณกำลังครอบครองตระกูลฮ่อด้วยอำนาจของคณะกรรมการฮ่อ แล้วทำไมรองประธานหลินยังต้องชักชวนแกมบังคับในการซื้อตัวผมด้วยล่ะครับ?”
หลินเหยียนเฟิงพูดจบก็หยิบเช็คออกจากกระเป๋าเสื้อของเขา ทั้งยังส่ายไปมาต่อหน้าทุกคน “บนนี้มีลายเซ็นของคุณอยู่ด้วย”
ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวจากท่านประธาน หลินเหยียนเฟิงจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อถ่วงเวลา
ทันทีที่หลินเหยียนเฟิงพูดออกไป ทุกคนทั้งงานก็เริ่มซุบซิบกัน
“ดูท่าเรื่องนี้จะไม่ชอบมาพากลนะ!”
“หลินเจียต้งได้รับอนุญาตจากคุณท่านฮ่อจริงเหรอ? ถ้ามีแล้วทำไมหลินเหยียนเฟิงถึงบอกว่าเขามาขอซื้อตัวล่ะ?”
“หลินเหยียนเฟิง คุณหยุดทำให้มันวุ่นวายได้แล้ว ไม่งั้นจะหาว่าผมไม่เตือนนะครับ!” ดวงตาของหลินเจียต้งส่องประกายเย็นชา มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะปล่อยหลินเหยียนเฟิงทำลายแผนของเขาได้ยังไงล่ะ?
“ผมทำเรื่องวุ่นวายหรือไม่นั้น คุณรู้ดีอยู่แก่ใจ หลินเจียต้ง ผมแนะนำให้คุณหยุดจะดีกว่า!” หลินเหยียนเฟิงพูดเน้นย้ำ
หลินเจียต้งโบกมือและพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านข้างว่า “พวกนายยังมัวยืนอึ้งอะไร ยังไม่รีบจับตัวเขาออกไปอีกล่ะ?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองมองหน้ากันและก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับหลินเหยียนเฟิง
หลินเจียต้งกระแอมและพูดอีกครั้ง “ทุกท่านครับ เราจะดำเนินการแถลงข่าวต่อ และผทขอประกาศว่าจากนี้ไป ผมจะเป็นประธานตระกูลฮ่อกรุ๊ป!”
ในขณะนั้นเองได้มีเสียงของชายผู้เย็นชาดังจากประตูห้องประชุม “หลินเจียต้ง ฉันเกรงว่าคุณจะต้องผิดหวัง!”
ฮ่อหยุนเฉิง!
หัวใจซูฉิงที่บีบตัวแน่ได้คลายออกทันที
ในที่สุดฮ่อหยุนเฉิงก็มาถึงแล้ว เขาต้องช่วยท่านผู้เฒ่าฮ่อได้แล้วแน่
“ประธานฮ่อ!!”
“ประธานฮ่อไม่เป็นอะไร! เขากลับมาแล้ว!!!”
การปรากฏตัวของฮ่อหยุนเฉิงทำให้เกิดความตื่นตาตื่นใจ ทุกคนมองไปที่ชายที่พร่างพรายตรงประตูด้วยความตกใจ
ภายใต้แสงไฟจากห้องประชุม ฮ่อหยุนเฉิงเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง เปล่งประกายออร่าเดินไปที่โพเดียมด้านหน้าทีละก้าว
เขามองไปที่ซูฉิงซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้องก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ซูฉิงทำท่าทางให้ทุกอย่างราบรื่น
“หยุนเฉิง…นาย นายไม่เป็นอะไร?” หลินเจียตงมองฮ่อหยุนเฉิงที่ก้าวเข้ามาหาเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ฮ่อหยุนเฉิงยังไม่ตาย!
เขาไม่ได้เครื่องบินตกลงทะเล? หากันมาตั้งหลายวันก็ไม่มีข่าว แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ไง!
ไม่ใช่แค่มีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้กลับยังอยู่ในงานแถลงข่าวด้วย!
หลินเจียต้งคิดคำนวณมากมาย ไม่นึกเลยว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่แม้แต่ได้รับบาดเจ็บ!
เขาวางแผนมาตั้งนาน กำลังจะประสบความสำเร็จ แล้วเขาจะล้มเหลวได้ยังไง!
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองหลินเจีบต้งอย่างเย็นชา ริมฝีปากบางของเขายกขึ้นเล็กน้อย “ทำไม อาหลินไม่อยากเจอผมเหรอครับ?”
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ หยุนเฉิง ฉันดีใจเหลือเกินที่ได้นายกลับมา” หลินเจียต้งระงับความโกรธในใจและตบไหล่ฮั่วหยุนเฉิง “ฉันส่งคนตั้งมากไปตามหานาย ตอนี้เห็นนายไม่เป็นอะไรฉันก็โล่งใจแล้วล่ะ”
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็ยกเลิกการแถลงข่าวของวันนี้เเล้วกัน!” ฮ่อหยุนเฉิงมองไปรอบๆ และเอ่ยด้วยเสียงเรียบ