นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 142 เธอมองไม่เห็นฉันหรอก
“ทำไม?” ดวงตาของเฉินจุนเหยียนหรี่ลงทันที และถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “คุณกับฮ่อหยุนเฉิงมีความสัมพันธ์กันตามสัญญาไม่ใช่เหรอ? คุณเคยบอกว่าคุณไม่ชอบเขา และจะถอนหมั้นกับเขาเร็วๆนี้ไม่ใช่เหรอ? เขาบังคับคุณเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าเฉินจุนเหยียนตื่นเต้นมาก ซูฉิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไม คุณคิดว่าจะมีใครบังคับฉันได้เหรอ?”
“แล้วทำไมคุณถึง…” ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนดูเศร้า และเจ็บปวด
จริงๆ แล้ว ด้วยนิสัยของซูฉิงไม่มีใครสามารถบังคับเธอได้ รวมถึงฮ่อหยุนเฉิงด้วย
ดังนั้น… ที่ซูฉิงยอมรับฮ่อหยุนเฉิงก็เพราะ…
ซูฉิงเม้มริมฝีปาก และให้คำตอบเฉินจุนเหยียน “เพราะฉันตกหลุมรักฮ่อหยุนเฉิง ดังนั้นฉันจึงตกลงให้เขาจีบฉัน”
“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!” หลังจากได้ยินคำพูดของซูฉิง ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนก็เต็มไปด้วยความตกใจและไม่เชื่อ
ซูฉิงเคยพูดอย่างชัดเจนว่าระหว่างเธอกับฮ่อหยุนเฉิงเป็นแค่สัญญาการแต่งงานที่ถูกทำขึ้นโดยคุณปู่ของพวกเขา ซูฉิงไม่มีความรู้สึกใดๆ ให้กับฮ่อหยุนเฉิง เธอจะตกหลุมรักเขาได้อย่างไร? !
“ระหว่างที่ฉันอยู่ที่ฝรั่งเศส ฉันได้ทำความรู้จักฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง” ซูฉิงอธิบาย “โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เครื่องบินเราตกลงไปในทะเล ฮ่อหยุนเฉิงช่วยฉันโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของเขาเอง เขาเป็นคนที่ฉันสามารถฝากชีวิตไว้ด้วยได้”
“ซูฉิง นี่ไม่ใช่ความรักเลย”
เฉินจุนเหยียนวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของซูฉิง “คุณแค่รู้สึกซาบซึ้งเท่านั้น ความซาบซึ้งไม่ใช่ความรัก ฮ่อหยุนเฉิงสามารถทำสิ่งนั้นให้คุณได้ ผมก็สามารถทำเพื่อคุณได้เหมือนกัน ทำไมคุณไม่เลือกผม”
“เฉินจุนเหยียนอย่าทำอย่างนี้สิ” ซูฉิงผลักเฉินจุนเหยียนออกเบาๆ “เราไม่เหมาะกันหรอก”
สายตาของเฉินจุนเหยียนเต็มไปด้วยเจ็บปวด และใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความเศร้า “ซูฉิงคุณไม่รู้หรือว่าฮ่อหยุนเฉิงรักถังถัง?”
ถังถัง…
หัวใจของซูฉิงหนักอึ้ง
เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “ถังถังสำหรับฮ่อหยุนเฉิง กลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้คนที่ฮ่อหยุนเฉิงรักคือฉัน”
“ซูฉิงคุณอย่าหลอกตัวเองเลย คุณแน่ใจเหรอ? ถ้าวันหนึ่งถังถังมาปรากฏตัว คุณสามารถรับประกันได้ไหมล่ะว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่เลือกถังถัง?”
คำพูดของเฉินจุนเหยียนราวกับค้อนทุบหัวใจของซูฉิง มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิด ถังถังอาจจะยังมีชีวิตอยู่ และก็อาจจะปรากฏตัวขึ้นในสักวัน
แต่อย่างไรก็ตามตอนที่เธอตัดสินใจคบกับฮ่อหยุนเฉิง เธอได้คิดมาดีแล้ว
เธอจะทำให้ฮ่อหยุนเฉิงตกหลุมรักเธอจนหัวปักหัวปำ ทำให้เขามีแค่เธอเท่านั้นอยู่ในหัวใจ และไม่สามารถมีใครคนอื่นได้อีก รวมถึงถังถังด้วย
เมื่อคิดถึงถึงตรงนี้ ซูฉิงก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่ ฉันแน่ใจ”
“ผมก็หวังว่าวันหนึ่งคุณจะไม่เสียใจทีหลัง” เฉินจุนเหยียนพูดนิ่งๆ และปล่อยซูฉิง
จากระยะไกล สวีหว่านเอ๋อร์และไป๋หลานกำลังเดินมาที่ฮ่อกรุ๊ป
ในตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงหายตัวไป สวีหว่านเอ๋อร์ไม่กินข้าวไม่กินปลา เธอกลัวว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเป็นอะไรไป
แต่โชคดีที่ฮ่อหยุนเฉิงไม่เป็นอะไร
งานแถลงข่าวของฮ่อกรุ๊ปวันนี้ถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ตก่อนแล้ว ทันทีที่สวีหว่านเอ๋อร์เห็นข่าว และรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับมาแล้ว เธอจึงรีบมาที่ฮ่อกรุ๊ปพร้อมไป๋หบานทันที
แต่ใครจะไปรู้ว่าจะมาเห็นซูฉิงและเฉินจุนเหยียนยื้อยุดฉุดกระฉากกันอยู่ที่หน้าประตูฮ่อกรุ๊ป
“ไป๋หลาน พวกเขาสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ?” สวีหว่านเอ๋อร์หยุดเดิน และมองไปด้านข้างไป๋หลาน
สีหน้าของไป๋หลานบูดบึ้ง เธอพูดด้วยความโกรธว่า “ไม่ใช่ซูฉิงนังวิญญาณจิ้งจอกไร้ยางอายกำลังอ่อยเฉินจุนเหยียนหรอกเหรอ!”
ไป๋หลานอยากจะรีบเข้าไปแยกซูฉิง และเฉินจุนเหยียนออกจากกัน แต่ถูกสวีหว่านเอ๋อร์ห้ามไว้ก่อน “เธอจะทำอะไรน่ะ?”
สวีหว่านเอ๋อร์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าซูฉิง และเฉินจุนเหยียนจะคบกัน มันจะดีมากถ้าเธอเป็นคนบอกเลิกฮ่อหยุนเฉิง
แม้ว่าจะไม่ได้ แต่เธอเหยียบเรือสองแคมอย่างนี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็คงจะไม่ทนหรอกมั้ง
ไป๋หลานจ้องไปที่ซูฉิงอย่างเกลียดชัง และเฝ้าดูซูฉิงขึ้นไปบนรถของเฉินจุนเหยียน
“ทำไม เธอยังคิดถึงนายเฉินนั่นอยู่หรือไง” เมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของไป๋หลาน สวีหว่านเอ๋อร์ก็หยักยิ้มมุมปากของเธอขึ้น “ถ้าเธออยากคบกับเฉินจุนเหยียนล่ะก็ มันง่ายมาก เธอก็กำจัดซูฉิงซะสิ”
“หว่านเอ๋อร์ เธอพูดถูก” ไป๋หลานพยักหน้า ในใจซูฉิงถูกเธอฟันจนแหลกเป็นชิ้นๆ แล้ว
ในขณะนี้ ร่างสูงอันหล่อเหลาก็เดินออกมาจากฮ่อกรุ๊ป
“ฮ่อหยุนเฉิง!” สวีหว่านเอ๋อร์ทักทายเขาอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นชายที่เธอโหยหาอีกครั้ง ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ก็เต็มไปด้วยความรักใคร่อย่างปิดบังไม่มิด
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว “สวีหว่านเอ๋อร์?”
“หยุนเฉิง คุณกลับมาแล้ว คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” ความรู้สึกที่แท้จริงของสวีหว่านเอ๋อร์เอ่อล้นออกมา ขอบตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย “หลายวันที่ผ่านมาคุณไม่รู้หรอกว่าฉันคิดถึง และเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน แต่ก็โชคดีแล้วที่คุณไม่เป็นไร”
แววตาของฮ่อหยุนเฉิงเย็นลงเล็กน้อย และเขาตอบกลับนิ่งๆ อย่างสุภาพ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง”
“เอ่อ หยุนเฉิง คุณกับซูฉิงเป็นอย่างไรบ้าง?” สวีหว่านเอ๋อร์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “เมื่อกี้ตอนที่ฉันมาถึง ฉันเห็นซูฉิงและเฉินจุนเหยียนโอบกอดกันที่หน้าประตูฮ่อกรุ๊ป และซูฉิงก็ขึ้นไปบนรถเฉินจุนเหยียนด้วย”
โอบกอด?
ขึ้นไปบนรถของเฉินจุนเหยียน?
ซูฉิงผู้หญิงคนนี้เธอต้องการทำอะไร เธอเพิ่งตกลงคบกับเขา แต่พอกลับมากลับกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินจุนเหยียนงั้นเหรอ?
สีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
สวีหว่านเอ๋อร์ยังคงเติมเชื้อเพลิง “สองคนนั้นดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์แบบคู่รักนะคะ หยุนเฉิงคุณเลิกกับซูฉิงแล้วเหรอ? จริงๆ แล้วคุณสองคนก็แค่หมั้นกันตามสัญญา ซูฉิงจะคบกับเฉินจุนเหยียนก็ไม่เห็นเป็นไรเลยเนอะ”
“สวีหว่านเอ๋อร์ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับซูฉิง” ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองสวีหว่านเอ๋อร์อย่างเย็นชา และพูดด้วยเสียงต่ำ
เขาโกรธก็จริง แต่แน่นอนว่าเขาก็ไม่ยอมให้ใครมานินทา และตัดสินซูฉิงอย่างแน่นอน
สวีหว่านเอ๋อร์พูดอย่างไม่พอใจ “หยุนเฉิงทำไมคุณถึงดีกับซูฉิงขนาดนี้? เธอไม่สมควรได้รับมันเลย”
“เรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องรู้” แววตาของฮ่อหยุนเฉิงราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ซึ่งทำให้ผู้คนสั่นเทา
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่สนใจสวีหว่านเอ๋อร์อีก และเดินผ่านเธอไปทันที
เมื่อมองตามหลังของฮ่อหยุนเฉิงที่เย็นชาและเหินห่าง สวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกเสียใจมาก “หยุนเฉิงเดี๋ยวคุณก็เสียใจทีหลัง!”
…….
ซูฉิงนั่งอยู่ในรถของเฉินจุนเหยียน เฉินจุนเหยียนกำพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง และขับรถไปเงียบๆ บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย
แม้ว่าช่วงนี้เธอจะยุ่งกับเรื่องของฮ่อกรุ๊ป แต่เธอยังคงดูแลสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์อยู่
เฉินจุนเหยียนนำธุรกิจต่างชาติจำนวนมากเข้ามาในประเทศจีน และลงทุนในภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ทำให้วงการบันเทิงเป็นที่สนใจมาก
“คุณทำได้ดีมาก” ซูฉิชมอย่างจริงใจ
เฉินจุนเหยียนมีความสามารถมากในเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นตอนแรกซูฉิงคงไม่ลงทุนกับสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์หรอก
เฉินจุนเหยียนยิ้มอย่างขมขื่น “ต่อให้ฉันทำดีแค่ไหน เธอก็มองไม่เห็นฉันหรอก”