นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 163 เห็นเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว
ซูฉิงมือกอดแก มองถังรั่วอิงด้วยสายตาเย็นชา แล้วก็ยกยิ้มเหน็บแนม
ความจริงซูฉิงรู้สึกแปลกใจมาก
ฮ่อหยุนเฉิงที่มีใจรักถังถังมาตลอด คิดว่าเป็นดอกบัวสีขาวบริสุทธิ์งั้นหรอ
ตาต่ำจริงๆ เลย
ก่อนหน้านี้ฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่บอกเองหรอกว่าเธอเหมือนถังถัง อยากจะถามหน่อยว่าเธอเหมือนดอกบัวสีขาวบริสุทธิ์ตรงไหน?!
ถังรั่วอิงยังทำเป็นตัวอ่อนซุกอกของฮ่อหยุนเฉิงทำเป็นเช็ดน้ำตา “พี่เฉิง ฉันเจ็บจังเลย!”
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวดมองซูฉิงด้วยสายตาเย็นชา “ซูฉิง ทำไมเธอต้องผลักถังถัง”
เธอผลักถังถังงั้นหรอ?
เธอไปผลักถังถังตอนไหนกัน
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ดูว่าใครผิดถูก ก็ตัดสินแล้วว่าเธอเป็นคนผลักถังถัง
เฮ่อๆ
ใบหน้าหล่อที่คุ้นเคย ซูฉิงรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเปลี่ยนเป็นคนแปลกหน้าทันที
ซูฉิงก้าวไปข้างหน้า จ้องถังรั่วอิงด้วยสายตาเย็นชา”คุณถัง ฉันไม่ได้ผลักเธอ เธอน่าจะรู้อยู่แก่ใจดีนะ”
ถังถังที่ทำเป็นหวาดกลัวหดตัวซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิงแล้วก็สืบจมูกทำน่าสงสาร “พี่ซู ฉันไม่ดีเอง เมื่อกี้ฉันไม่รู้ว่าพี่อยู่ในห้องทำงานของพี่เฉิง ฉันไม่ได้ตั้งใจรบกวนพวกพี่นะ”
“ถังถัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ “ขาของเธอได้รับบาดเจ็บ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”
ซูฉิงหัวเราะเยาะออกมาแล้วก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมา
ตอนนี้ในหัวของซูฉิงมีแต่ภาพบาดตาบาดใจเมื่อกี้ ใจของซูฉิงนั้นเจ็บปวดมา
ฮ่อหยุนเฉิงชอบผู้หญิงอย่างนี้หรอ
ก่อนหน้านี้ที่เธอคิดว่าเธอเป็นตัวแทนของถังถัง ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ตนกับถังถังต่างราวกับฟ้ากับเหวเลย ไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย
แต่ว่า ความรู้สึกของเธอก็แปลกใจยังไงชอบกล
เท่าที่ฮ่อหยุนเฉิงเล่าให้ฟัง ตอนนั้นถังถังถูกลักพาตัวไปพร้อมกับเขา ถังถังแข็งแกร่งขนาดนั้น จิตใจดีขนาดนั้น ถึงขั้นช่วยชีวิตเขาโดยเสียสละชีวิตตัวเอง
ผู้หญิงอย่างนี้ เรียกมารยาน่าจะดีกว่านี้ ตอนนี้ทำไมถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ จะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ หน้ามือเป็นหลังมือ
ซูฉิงเชื่อว่านิสัยนั้นมีโดยธรรมชาติ แม้จะได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมภายนอก แต่ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลกมากขนาดนี้
จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่
แต่ว่า เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน เธอต้องรีบไปหาตัวลุงฉีมากก่อน
เพราะว่า อาการของคุณปู่ฮ่อจะยืดเยื้อออกไปไม่ได้แล้ว
ซูฉิงคิดอยู่สักพัก ก็ต่อสารโทรหาคุณปู่ซู
ในเมื่อลุงฉีเป็นหมอที่คุณปู่หามารักษาอาการป่วยของเธอ บางที่คุณปู่จะต้องรู้ที่อยู่ของลุงฉีแน่
และตอนที่คุณปู่ซูรับสายซูฉิง ก็ได้ยินเสียงคลื่นซัดอยู่ที่ชายหาด
“ฉิงฉิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลาโทรหาปู่ได้ล่ะ”พอได้รับสายจากหลายสาวสุดที่รัก คุณปู่ฮ่อก็ส่งเสียงยานดังมาตามสาย
“คุณปู่คะ มีเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณปู่คะ “ซูฉิงกระแอมลำคอแล้วเอ่ยปากพูด
“เรื่องอะไร”คุณปู่ฮ่อที่เดินย่ำทรายไปตามชายหาด แล้วเอ่ยถาม
“คุณปู่ยังจำได้มั้ยคะ ตอนนี้หนูไข้ขึ้นสูงจนหมดสติไป พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเดือน อาการก็ไม่ดีขึ้น ต่อมาคุณปู่ได้เชิญหมอจีนท่านหนึ่งซึ่งก็คือคุณลุงฉีมารักษา ยาของเขาใช้ได้ผลทำให้ช่วยชีวิตหนูกลับคืนมาได้
ต่อมาเขาก็อยู่ที่บ้านเราอีกหลายเดือน สอนวิชาแพทย์แผนจีนให้กับหนู “ซูฉิงถาม
“ปู่จำได้”คุณปู่ซูนึกอยู่สักพักก็เอ่ยตอบ
“ตอนนี้คุณลุงฉีอยู่ที่ไหนคะ “ซูฉิงถามอย่างอยากรู้
“ไม่รู้”
คำตอบของคุณปู่ซูทำให้ซูฉิงสิ้นหวัง “คุณปู่คะ คุณปู่ลองนึกดูดีๆ สิคะ”
“ทำไมหรอ ทำไมต้องร้อนใจที่จะตามหาเขาด้วย”คุณปู่ซูยักคิ้วถาม
ซูฉิงเลยเล่าให้ฟังว่า”อาการป่วยของคุณปู่ฮ่อในตอนนี้มีเพียงลุงฉีสามารถรักษาได้ ดังนั้นหนูเลยต้องรีบตามหาคุณลุงฉีค่ะ ”
“ที่แท้ก็ทำเพื่อเจ้าหนุ่มฮ่อหยุนเฉิงนั่น”คุณปู่ซูลูบเคราของตัวเอง
เรื่องที่อาการโรคหัวใจกำเริบของปู่ฮ่อ เขาก็ได้ยินมาบ้าง แต่ว่าคุณปู่ซูคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะต้องจัดการได้แน่
“คุณปู่คะ มีวิธีที่จะตามหาลุงฉีได้มั้ยคะ แล้วรู้มั้ยคะว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน” ซูฉิงที่ถามอย่างร้อนใจ
อาการป่วยของคุณปู่ฮ่อ จำเป็นต้องรีบรักษา ดังนั้นเธอเลยต้องรีบหาตัวลุงฉีให้เจอ
“ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ภาคอีสานมั้ง”คุณปู่ฮ่อนึกอยู่สักพักแล้วเอ่ยขึ้น “ตอนที่เขาจะไปเขาเคยบอกว่า จะไปใช้ชีวิตที่ป่าเขา แต่ว่าปู่ก็ไม่แน่ใจ เธอก็ลองส่งคนไปตามหาเขาดู”
“ได้ค่ะ คุณปู่ หนูเข้าใจแล้ว “ซูฉิงพยักหน้า แล้วก็วางสายไป
พอได้ยินคุณปู่ซูพูดอย่างั้นซูฉิงก็นึกอะไรออกขึ้นมาทันที
เธอเหมือนจะจำได้ว่าตอนที่เธอป่วยนั้น ลุงฉีเคยเล่าเรื่องอัศจรรย์ที่ภูเขาฉางไป๋ซาน เหมือนว่าเขาอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
ซูฮิงมีเซ้นท์ว่าคุณลุงฉีจะต้องอยู่แถวเขาฉางไป๋ซานแน่
และเธอตัดสินใจที่จะไปเขาฉางไป๋ซานด้วยตัวเอง
ซูฉิงกลับไปที่เมืองเฉิงตงฮวาหยวน ยวี๋น่ากำลังรอเธออยู่ที่นั่น
“ซูฉิง เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย “ยวี๋น่าที่เห็นซูฉิงที่ลมางจากรถ “ฉันได้ยินเฉินจุนเหยียน บอกว่าเธอย้ายมาอยู่กับเขาแล้ว”
ซูฉิงยิ้มบาง “ใช่แล้ว เธอมาหาฉันมีธุระอะไรรึเปล่า”
ยวี๋น่ายิ้มล้อเลียน”ทำไม ไม่มีธุระก็มาหาเธอไม่ได้หรอ”
ซูฉิงเปิดประตู “เข้าไปข้างในแล้วค่อยว่ากัน”
“คืออย่างนี้ เกี่ยวกับเรื่องคอลเลคชั่นของชุดราตรีในฤดูกาลหน้า ฉันมีสองเคส เธอดูว่าอันไหนดี”ยวี๋น่าเปิดไอแพดขึ้นมา อยากจะให้ซูฉิงดูข้อมูล
ซูฉิงกลับพูดขัดเธอขึ้นมาว่า”เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันจะไปเขาฉางไป๋ซาน รอฉันกลับมาค่อยว่ากัน”
“เขาฉางไป๋ซาน “ยวี๋น่าเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ “ไปทำอะไรที่นั่น”
ซูฉิงเม้มปาก “ไปหาอาจารย์ของฉัน ตอนนี้มีเพียงเขาที่จะสามารถช่วยคุณปู่ฮ่อได้”
จากนั้นซูฉิงก็เล่าเรื่องคุณลุงฉีให้ยวี๋น่าฟังคร่าวๆ
ยวี๋น่าพูดอย่างชื่นชมว่า”ซูฉิง ที่จริงแล้วที่เธอไปหาคุณหมอฉีที่ภูเขาฉางไป๋ซานก็เพราะฮ่อหยุนเฉิงใช่มั้ย”
เพื่อฮ่อหยุนเฉิงงั้นหรอ
ซูฉิงอึ้ง “ไม่ใช่ ที่คุณปู่ฮ่อต้องมีสภาพอยู่ทุกวันนี้ ฉันก็มีส่วนด้วย ฉันก็แค่หวังว่าเขาจะหาย เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นก็เท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับฮ่อหยุนเฉิงสักหน่อย”
“เอาล่ะ….ฉันจะไปกับเธอด้วย”ยวี๋น่าไม่วางใจที่จะปล่อยให้ซูฉิงไปเข้าป่าขึ้นเขาคนเดียว
ซูฉิงส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก เธอกลับไปฝรั่งเศสซะ ห้องเสื้อleoยังรอให้เธอจัดการอยู่นะ”
“เรื่องห้องเสื้อ ให้คนอื่นดูแลก่อนก็ได้ “ยวี๋น่าพูดยืนยัน “เธอไปในที่แบบนั้นคนเดียวมันอันตราย”
“งั้นก็ได้ “ซูฉิงคิดอยู่สักพักก็ไม่ปฏิเสธอีก “ตอนนี้เธอไปจองตั๋วเครื่องบินเถอะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”
“ได้เลย”ยวี๋น่าตอบตกลง แล้วก็เปิดโทรศัพท์เพื่อจะจ้องตั๋ว ทันใดนั้นก็มีข้อความแนะนำเด้งขึ้นมา
“ซูฉิง ดูนี่……..”ยวี๋น่าเงยหน้ามองซูฉิง ก็พูดอย่างเป็นกังวล