นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 172 ซูฉิง ฉันมาเเล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์โดยไม่ลังเลก่อนจะค่อยๆ ลงจอด
นี่คือการกระโดดร่มครั้งที่สองของเขา
ครั้งก่อนเป็นการกระโดดร่มพร้อมซูฉิง
แม้ว่าสถานการณ์ตอนนั้นจะวิกฤต เขาและซูฉิงเกือบไม่รอด แต่ในตอนนั้น ฮ่อหยุนเฉิงกลับสงบและมีความสุข
เพราะในตอนนั้นมีซูฉิงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
ซูฉิงบอกเขาว่าเธอตกลงในการจีบของเขาและเธอยอมรับในตัวเขา
จากนี้ไปจะมีชีวิตอยู่และตายไปพร้อมกัน
แต่คราวนี้ หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงเหลือกเพียงความกังวล ประหม่า ตื่นตระหนก…อารมณ์เชิงลบทุกชนิดพัวพันกันกับทุกเซลล์ในร่างกาย
เขากลัว
เขากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับซูฉิง
เขากลัวว่าจะไม่ได้เจอซูฉิงอีก
ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตามอง ก้มศีรษะลง และดวงตาที่ลึกล้ำของเขาจ้องมองไปที่ท้องฟ้าสีขาวอันกว้างใหญ่เบื้องล่าง
ซูฉิง เธออยู่ที่ไหน?
ซูฉิง ฉันมาแล้ว!
ซูฉิง เธอต้องอดทนไว้นะ!!
ไม่กี่นาทีต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ ลงไปในป่า
เขาดึงร่มชูชีพออกมาและวางไว้ข้างๆ
ยวี๋น่าตามมาอย่างใกล้ชิดและลงจอด
เธอยืนนิ่งไม่นิ่ง เท้าของเธอลื่นจนล้มลงกับพื้นอย่างแรง
ฮ่อหยุนเฉิงรีบเดินไปประคองยวี๋น่าก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “คุณยวี๋ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
ยวี๋น่ายืนขึ้น ตบหิมะบนตัวก่อนจะส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เรารีบตามหาซูฉิงกันเถอะค่ะ”
“ครับ” ฮ่อหยุนเฉิงตอบและมองไปรอบๆ เพื่อสังเกตภูมิประเทศ
ที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เป็นทางเดียวจากหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆ ไปยังยอดเขายวี่ปี่
ตามเวลาที่ชูฉิงเข้าไปในภูเขาวันนั้น เธอน่าจะเดินผ่านตรงนี้
น่าเสียดายที่หิมะปกคลุมทุกอย่างจนไม่เหลือร่องรอย
“เราค้นหาจากตรงทิศนี้ไปทางยอดเขายวี่ปี่ ซูฉิงน่าจะอยู่บริเวณนี้” ฮ่อหยุนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ตกลงค่ะ” ยวี๋น่าพยักหน้า เธอเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของฮ่อหยุนเฉิง
“ตอนนี้พายุหิมะก็หยุดแล้ว นเชื่อว่าอีกไม่นานหลินเหยียนนเฟิงกับคนจากทีมกู้ภัยกำลังมา” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเย็นชาและแน่วแน่ “ตราบเท่าที่เราไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไป เราต้องเจอซูฉิงแน่”
คำพูดของฮ่อหยุนเฉิงทำให้ยวี๋น่าตื่นตัว
เขาพูดถูก จำนวนคนมากก็มีแรงมาก และเมื่อพายุหิมะหยุด ทุกคนก็จะเข้ามาค้นหาได้ ตราบใดที่พวกเขาค้นหาทุกที่แล้ว ต้องได้เจอซูฉิงแน่!
“ซูฉิง! ซูฉิง! เธออยู่ที่ไหน?” ฮ่อหยุนเฉิงและยวี๋น่าพากันตะโกน ขณะที่เดินไปข้างหน้าด้วย “ซูฉิง รีบตอบฉันหน่อย!”
ในขณะนั้นเองที่ฮ่อหยุนเฉิงหวังว่าซูฉิงจะได้ยินเสียงของเขาและตอบเขากลับมา
น่าเสียดายที่เดินไปตลอดทาง คำตอบเดียวคือเสียงสะท้อนของเขาเอง
เนื่องจากหิมะถล่ม หิมะหนาบนท้องถนนสูงถึงต้นขาของยวี๋น่าจนทุกย่างก้าวเป็นเรื่องยากมาก
เธอกัดฟันและยืนหยัดตามหลังฮ่อหยุนเฉิงไป
ฮ่อหยุนเฉิงหันหลังกลับเห็นท่าทางยากลำบากของยวี๋น่าก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “คุณยวี๋ คุณเดินตามรอยเท้าผมได้ คุณจะได้เดินได้ง่ายขึ้น”
ยวี๋น่าพยักหน้า ก้าวตามรอยเท้าของฮ่อหยุนเฉิงทีละก้าว และเธอก็รู้สึกง่ายขึ้นมาก
มองฮ่อหยุนเฉิง เขาก็ยังคงกังวลใจและเป็นห่วงซูฉิงมาก
ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม ทั้งสองถึงกลายเป็นแบบนี้
“คุณยวี๋ คุณโอเคไหมครับ?” ฮ่อหยุนเฉิงเห็นยวี๋น่ามึนงงก็ชะงักฝีเท้า
“ฉันไม่เป็นไร เรารีบไปกันเถอะค่ะ” ยวี๋น่ารู้สึกตัวอีกครั้งและกลัวว่าตัวเองจะถ่วงเวลา จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
ทั้งสองเดินไปตลอดทาง เดินเป็นเวลานานจนเกือบมืดก็ไม่เจอร่องรอยของซูฉิง
“ประธานฮ่อ คุณว่าซูฉิง…คงไม่ได้เกิดอะไรกับเธอหรอกใช่ไหม?” เสียงของยวี๋น่าสั่นราวจะร้องไห้
เธอกลัวจริงๆ
หากก่อนหน้านี้พวกเขามองจากเฮลิคอปเตอร์ไม่เห็น ถ้างั้นตอนนี้พวกเขามาค้นหาตรงถนนที่ซูฉิงผ่านมาอย่างรอบคอบแล้ว แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลย
เว้นแต่ซูฉิงจะไม่เดินมาทางนี้ ไม่เช่นนั้น…คงถูกหิมะฝังไปแล้ว
ไม่อย่านั้นก็ไม่มีทางที่จะไม่เจอ
ยวี๋น่าไม่กล้าที่จะคิดต่อเลย
“ไม่มีทาง! ซูฉิงต้องไม่เป็นไรแน่นอน!” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงหนักแน่น ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
สีหน้าของเขาเย็นชาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เกิดความรู้สึกไร้อำนาจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแผ่ซ่านไปทั้งกายฮ่อหยุนเฉิง
เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวจากซูฉิง
แต่จะยากแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันยอมแพ้!
เพราะฮ่อหยุนเฉิงเชื่อมั่นว่าซูฉิงยังมีชีวิตอยู่!
เธอต้องรอให้เขาไปช่วยเธออยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน
“เราเดินย้อนกลับกันเถอะ บางทีซูฉิงอาจจะไม่ได้มาทางนี้” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว
“แต่ว่า นี่เป็นทางเดียวที่จะไปถึงยอดเขายวี่ปี่นะคะ” ยวี๋น่ากล่าวด้วยอาการเสีย “ซูฉิงไปตามหาอาจารย์ฉี ต้องใช้ถนนสายนี้อย่างแน่นอนค่ะ”
“บางทีเธออาจจะหลงทางและไปอีกทางหนึ่ง” คิ้วของฮ่อหยุนเฉิงเลิกขึ้น
“ไม่มีทางค่ะ ซูฉิงเป็นคนเป็นคนเจ้าระเบียบมาก เธอพกเข็มทิศเพื่อไม่ให้หลงทาง และยิ่งไม่มีทางไปทางอื่นแน่ค่ะ” ยวี๋น่าส่ายหัว
ตอนนี้พวกเขาได้ค้นหาทั่วถนนสายนี้แล้ว แต่ไม่มีร่องรอยของซูฉิง ถ้างั้นซูฉิง…
แม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะรู้ว่าทุกสิ่งที่ยวี๋น่าพูดเป็นความจริง แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าซูฉิงจะถูกฝังใต้หิมะ
“เราหากันอีกรอบเถอะ!” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเย็นชา วันนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเจอซูฉิงให้ได้!
ยวี๋น่าพยักหน้าและเดินตามฮ่อหยุนเฉิงไป
เมื่อทั้งสองกลับมา พวกเขาก็เจอกับหลินเหยียนเฟิงและคนอีกกลุ่มใหญ่
ฮ่อหยุนเฉิงเดินไปอย่างรวดเร็ว “เป็นไงบ้าง มีข่าวเกี่ยวกับซูฉิงบ้างไหม?”
หลินเหยียนเฟิงตอบด้วยสีหน้าเศร้า “ไม่มีเลยครับ”
“ต่อให้ต้องพลิกภูเขาทั้งลูก ก็ต้องหาซูฉิงให้เจอ!” ดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น
“พี่เฉิง มันมืดแล้ว ทำไมเราไม่กลับไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาหาคุณซูก็ได้นี่” ถังรั่วอิงเดินตามหลินเหยียนเฟิงมาและพูดเสียงสั่น
นี่มันสถานที่ผุพังอะไรกัน สภาพอากาศก็เลวร้าย หนาวมากจนเธอจะแข็งอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพื่อฮ่อหยุนเฉิง ถังรั่วอิงไม่คิดอยู่ต่อแม้แต่นาทีเดียว
“ถังถัง เธอมาทำไมล่ะ?” ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นถังรั่วอิง
ถังรั่วอิงเดินไปข้างหน้า ก่อนจะเอนกายพิงฮ่อหยุนเฉิง ทั้งยังตัวสั่นและพูดอย่างเขินอาย “พี่เฉิง คนเขาเป็นห่วงพี่กับคุณซูไง”
ยวี๋น่าที่ไม่ต้องการเห็นท่าทางอวดดีของถังรั่วอิง เธอจึงพูดเร่ง “ประธานฮ่อคะ ตอนนี้ก็มีคนเยอะแล้ว เรารีบไปตามหาซูฉิงกันเถอะค่ะ!”
ถังรั่วอิงจ้องไปที่ยวี๋น่า “คุณยวี๋ ฉันเข้าใจอารมณ์ของคุณนะคะ และแน่นอนว่าเราต้องไปหาคุณซู แต่คุณเคยได้ยินไหมว่ารีบไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา?
ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยมาก ทำไมไม่พักหาอะไรกินก่อน จะได้มีแรงไปตามหาคุณซู ใช่ไหมพี่เฉิง?”