นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 181 เฉินจุนเหยียนสารภาพรักอีกครั้ง
เฉินจุนเหยียนขับรถไปส่งซูฉิงถึงเฉิงตงฮวาหยวน
ซูฉิงเหนื่อยมาก เธอเอนตัวพิงเบาะนั่งตลอดทาง หลับตาและพักสมอง ไม่ทันไรเธอก็ค่อยๆ ผล็อยหลับไป
หลังจากจอดรถแล้ว เฉินจุนเหยียนก็หันมองซูฉิงที่กำลังหลับอยู่อย่างเงียบๆ
แสงสลัวพาดลงบนใบหน้าของซูฉิงจนผิวเธอดูสวยเป็นพิเศษ ขนตางอนยาวของเธอก็ส่องเป็นเงาบนแก้มของเธอ
แม้ว่าจะเหนื่อยหรือล้าแค่ไหนแต่ก็ยังสวยอยู่อย่างนั้นและยังเกี่ยวใจเขาไปได้
มองซูฉิงอยู่สักพัก หัวใจของเฉินจุนเหยียนก็เต้นเร็วขึ้นก่อนจะเอนตัวเข้าหาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น…
เมื่อริมฝีปากของเขากำลังจะแตะแก้มของซูฉิง ทันใดนั้นซูฉิงก็ตื่นขึ้นทันที
สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจุนเหยียนเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ…
“เฉินจุนเหยียน นายจะทำอะไร?” ซูฉิงตกใจ ขมวดคิ้ว ก่อนจะถอยหลัง
เฉินจุนเหยียนที่ได้สติก็รีบกลับไปนั่งตัวตรง ก่อนจะกระแอมไปอย่างทำตัวไม่ถูกและพูดว่า “ซูฉิง ถึงแล้วล่ะ”
ซูฉิงมองออกไปนอกหน้าต่างและพยักหน้าเบาๆ “อืม ขอบคุณที่มาส่ง”
เมื่อเปิดประตูลงจากรถ ขณะกำลังจะเดินไปทางบ้าน ก็ได้ยินเสียงทุ้มของเฉินจุนเหยียนดังมาจากด้านหลัง “ซูฉิง…”
ซูฉิงชะงักฝีเท้าก่อนจะหันไปถาม “มีอะไรหรือเปล่า?”
เฉินจุนเหยียนก้าวไปด้านหน้าซูฉิงก่อนจะพยักหน้า มองเธอจากมุมสูงด้วยแววตาลึกซึ้ง “ซูฉิง ให้โอกาสมาเป็นแฟนฉันได้ไหม?”
แฟน???
เมื่อเผชิญหน้ากับคำสารภาพรักของเฉินจุนเหยียนอีกครั้ง ซูฉิงก็รู้สึกประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้บอกเขาชัดเจนไปแล้วเหรอ?
เธอคิดว่าเฉินจุนเหยียนได้ปล่อยวางความรู้สึกที่มีต่อเธอแล้วเสียอีก
แต่ว่า…
เห็นได้ชัดว่าเฉินจุนเหยียนไม่มีทีท่าจะเป็นแบบนั้น
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูฉิงก็พูดอย่างระมัดระวัง “เฉินจุนเหยียน ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกไปแล้วเหรอ? ถ้าฉันเจอรักแท้ นายจะอวยพรฉัน ระหว่างเรานั้นเป็นเพื่อนกัน”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ฉันพูดอย่างนั้นก็จริง แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่สมควรได้รับมัน เธออยู่กับเขาจนโดนทำร้ายมาแบบนี้ เขาทำให้เธอมีความสุขไม่ได้เลย”
เฉินจุนเหยียรู้สึกกระวนกระวายทันที เข้าก้าวไปข้างหน้าและวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของซูฉิง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ซูฉิง ให้โอกาสฉันได้ดูแลและปกป้องเธอที ฉันจะทำให้ดีกว่าฮ่อหยุนเฉิงพันเท่า เธอเชื่อฉันได้!”
“เฉินจุนเหยียน อย่าทำอย่างนี้” ซูฉิงขมวดคิ้วและพูดอย่างใจเย็น
“ซูฉิง ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเธอเจอรักแท้แล้ว ฉันก็คิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะรักเธอและให้ความสุขกับเธอได้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย” เฉินจุนเหยียนพูดอย่างไม่ลดละ “เห็นได้ชัดว่าคนที่เขารักจริงๆ คือถังถัง และเหตุผลที่เขาตกลงจะหมั้นกับเธอก่อนหน้านี้เป็นเพราะเขาคิดว่าถังถังไม่อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้เขาได้เจอถังถังแล้ว และเราก็เห็นได้ชัดว่าเขาปฏิบัติตัวกับถังถังยังไง ซูฉิง เธอหยุดหลอกตัวเองได้แล้ว ฮ่อหยุนเฉิงไม่คู่ควรกับเธอด้วยซ้ำ”
หลังจากได้ยินที่เฉินจุนเหยียนพูดออกมา ใบหน้าของซูฉิงก็นิ่งขรึมขึ้น
เมื่อเห็นสีหน้าอีกคนเปลี่ยนไป หัวใจของเฉินจุนเหยียนก็เจ็บแปลบ “ฉันรู้ วันนี้ฉันไม่ควรพูดแบบนี้ แต่…”
“ถ้ารู้ว่าไม่ควรพูดก็อย่าพูดเลย ฉันเหนื่อยมาก” ซูฉิงเงยหน้าขึ้นสบสายตาของเฉินจุนเหยียนและพูดอย่างเย็นชา “นายน่าจะรู้นะว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้”
“เป็นเพราะเธอยังรักฮ่อหยุนเฉิงอยู่ใช่ไหม?” ดวงตาของเฉินจุนเหยียนหรี่ลงเล็กน้อย
ซูฉิงส่ายหัว “ไม่เกี่ยวกับเขา”
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็เพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากตัวเองของเฉินจุนเหยียน ก่อนจะหันหลังเดินไปด้านหน้า
หลังจากขึ้นลิฟต์มาถึงประตูบ้าน เธอก็หยิบกุญแจออกจากกระเป๋าก่อนจะเปิดประตู
เธอดันประตูเข้าไป และกำลังจะปิดประตู ทันใดนั้นก็มีเงาสูงตรงบันไดที่มืดสลัว
เขายื่นมือใหญ่ออกจับประตูที่กำลังจะปิดลง และก้าวเข้ามาด้านใน
ซูฉิงตกใจและตะโกนเสียงดัง “ใครน่ะ?”
ชายคนนั้นพ่นลมหายใจ
เสียงนี้…
ผ่านแสงจันทร์สลัวจากนอกหน้าต่าง เธอเห็นลักษณะที่ปรากฏของชายตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
ชายคนนั้นมีแต่ความเย็นชาอยู่รอบกาย สวมชุดสูทสีดำที่ทำด้วยมือจนแทบจะกลมกลืนไปกับยามค่ำคืน
ใบหน้ามีมิติและลึกล้ำราวกับผลงานชิ้นเอกของเหล่าทวยเทพผู้สูงศักดิ์ที่ทั้งสูงส่งและสง่างาม
ดวงตาที่ไม่อาจหยั่งรู้นั้นหรี่ลงเล็กน้อย ฉายแววเย็นเยียบ และจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ
ฮ่อหยุนเฉิง?!
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?
ซูฉิงตกตะลึงครู่หนึ่งและถามอย่างเย็นชา “ฮ่อหยุนเฉิง นายมาได้ไง?”
“ทำไม ไม่อยากเห็นหน้าฉันหรือไง?” ฮ่อหยุนเฉิงขดริมฝีปากและพูดน้ำเสียงโกรธ
เขาเอื้อมมือออกไปปิดประตูเสียงดัง
“ถ้านายมาเพื่อคุณปู่ฮ่อล่ะก็ไม่ต้องกังวล อีกสามวันฉันจะไปโรงพยาบาลแล้วฝังเข็มให้อย่างตรงเวลาแน่” ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างว่างเปล่าและพูดเบาเสียงเรียบ “ฉันเหนื่อยและต้องการพักผ่อน กลับไปเถอะ”
เธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมจู่ๆ ฮ่อหยุนเฉิงถึงได้มาปรากฏตัวที่นี่
ไม่ใช่ว่าต้องไปส่งถังถังหรือไง?
ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่ง สองมือของเขาจับข้อมือของซูฉิงไว้ จากนั้นจึงกดเธอกับประตูอย่างแรง
“ปล่อยฉัน…” อาการปวดที่ข้อมือแผ่ซ่านจนซูฉิงต้องดิ้นรน
เธอที่ยังไม่ทันพูดสบ กลับถูกชายตรงหน้าปิดปากไว้
จูบของฮ่อหยุนเฉิงแนบแน่น แข็งแกร่ง ครอบงำ รุนแรงและปั่นป่วน ทั้งยังไม่เมตตา
นัยน์ตาที่ลึกล้ำ ความปรารถนาและความโกรธปะปนกันไปหมด
ความรู้สึกที่สวยงามที่หายไปนานจากผู้หญิงตรงหน้า ช่างคุ้นเคยจนฮ่อหยุนเฉิงหยุดไม่ได้
เขาคิดถึงเธอ!
คิดถึงเธอจนแทบบ้า!
ตั้งแต่ซูฉิงยกเลิกงานหมั้นและย้ายออกจากซินเฉิงฮวาหยวน รอยยิ้มของเธอก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขาเสมอมา
ไม่มีคืนไหนเลยที่เขานอนหลับสนิทตั้งแต่เธอย้ายออกไป
เมื่อเขาเห็นข่าวเกี่ยวกับเธอและเฉินจุนเหยียนทางอินเทอร์เน็ต เขาทั้งโมโห กลัว เขากลัวว่าเขาจะสูญเสียเธอไปตลอดกาลจริงๆ
หลังจากที่รู้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายที่ภูเขาฉางไป๋ เขาก็รีบไปตามหาเธออย่างคนบ้าคลั่ง
ตอนนี้ เขาไม่สนใจทั้งปู่หรือถังถัง เขารีบมาเฉิงตงฮวาหยวนเพียงต้องการเจอเธอ
แต่เขากลับเห็นอะไร?
สิ่งที่เขาเห็นคือเฉินจุนเหยียนกำลังจับไหล่ของเธอ ทั้งสองยืนอยู่ข้างถนนคุยกันอย่างสนุกสนาน
ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก และการกระทำของพวกเขาก็สนิทสนมกันมากด้วย
แต่ซูฉิงปฏิบัติต่อเขาเป็นแค่การเมินเฉย
หรือว่าซูฉิงจะชอบเฉินจุนเหยียนจริงๆ?
ข่าวลือบนอินเทอร์เน็ตพวกนั้นเป็นความจริงงั้นเหรอ?!
ความโกรธแผดเผาในใจ ฮ่อหยุนเฉิงเริ่มจูบอย่างแนบแน่น ลิ้นร้อนบังคับอีกคนให้เปิดริมฝีปาก ก่อนเขาจะเข้าไปในอุกอาจ…