นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 187 ยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
“BPL?”ฮ่อหยุนเฉิงหน้านิ่งขรึม มือใหญ่เคาะโต๊ะเบาๆ แล้วถามเสียงห้าวว่า”มีข้อมูลของบริษัทนี้มั้ย”
หลินเหยียนเฟิงที่สัมผัสได้ถึงความกดดันจากเจ้านายของตัวเอง ก็เปิดเอกสารที่อยู่ในมือ แล้วรายงานว่า”ตามข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่หามาได้ BPL เป็นบริษัทที่พึ่งก่อตั้งได้ไม่นาน ทำธุรกิจหลายอย่าง ขายสินค้าหลากหลาย อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ อัญมณี เครื่องสำอาง เสื้อผ้าเป็นต้น หลังจากที่บริษัทก่อตั้งแล้วก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพียงระยะเวลาไม่นานสามารถขยายธุรกิจให้ใหญ่โตได้ ถือว่าไม่อาจจะมองข้ามได้”
หลินเหยียนเฟิงหยุดพูด จากนั้นก็พูดต่อ”มีข่าวลือมาว่า เบื้องหลังของBPLนั้นมีทำธุรกิจมืดด้วย”
“หรอ”ฮ่อหยุนเฉิงเม้มปาก
พึ่งธุรกิจมืดงั้นหรอ
มิน่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้มาก่อน
ฮ่อหยุนเฉิงถามต่อว่า”บริษัทนี้ใครเป็นคนก่อตั้ง และมีเบื้องหลังเป็นมายังไง”
หลินเหยียนเฟิงโค้งคำนับตอบว่า”เกี่ยวกับเจ้าของBPLนั้น มีข้อมูลน้อยมาก รู้เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนเชื้อสายจีนคนหนึ่งในออสเตนเลีย ข้อมูลอย่างอื่นของเขาไม่มีเลยครับ”
คนเชื้อสายจีนในออสเตรเลียงั้นหรอ
งั้นลึกลับหรอ
พึ่งพาธุรกิจมืดทำธุรกิจงั้นหรอ
ซูฉิงใช้สมองคิดอยู่สักพัก ไม่มีใครสักคนที่สืบหาข้อมูลของเจ้าของBPLได้
ทำธุรกิจมืด ข้อมูลน้อยมากถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ว่า เจ้าของBPLผู้นี้ เข้ามาซื้อ love&loveเจเวลรี่ และยังลอกเลียนแบบคอลเลคชั่นของน้ำแข็งและไฟได้อย่างรวดเร็ว แย่งลูกค้าของตระกูลฮ่อกรุ๊ปไป เป็นเพราะว่าไม่ได้ตั้งใจหรือว่่าตั้งใจที่จะเป็นทำลายตระกูลฮ่อกรุ๊ปกันแน่
เรื่องนี้ยิ่งจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“นายไปสืบต่อ “่ฮ่อหยุนเฉิงเหล่มองหลินเหยียนเฟิงแล้วเอ่ยสั่ง ความรู้สึกบอกเขาว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว
“ครับ ท่านประธาน”หลินเหยียนเฟิงโค้งคำนับตอบแล้วก็หันหลังเดินออกไป
ซูฉิงก็เดินตามออกไป
และเธอที่กำลังก้าวเท้าเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงฮ่อหยุนเฉิงเรียกเสียงขรึมขึ้นมาตามหลัง”ซูฉิง เธอรอก่อน”
ซูฉิงหยุดเดินแล้วหันไปมอง “ฮ่อหยุนเฉิง นายยังมีอะไรอีก”
ฮ่อหยุนเฉิงก้าวเท้าเข้ามาหาซูฉิง มองหน้าซูฉิง
ผู้หญิงคนนี้อยากออกไปมากขนาดนี้เลยหรอ
เธอไม่อยากจะอยู่กับเขาสักนิดเลยหรอ
ซูฉิงที่นึกถึงภาพที่ฮ่อหยุนเฉิงกดเธอลงที่โซฟาเมื่อสักครู่นี้ เธอก็หน้านิ่งขรึมแล้วเอ่ย”ตอนนี้เป็นเวลางาน ฉันจะคุยเฉพาะเรื่องงาน”
“เรื่องงานงั้นหรอ
ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นผู้หญิงตรงหน้ามีท่าทีเย็นชามองเขาอย่างระมัดระวังก็มีสีหน้าขรึม “ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอเรื่องงาน”
“เรื่องโปรเจคน้ำแข็งและไฟ เมื่อกี้ฉันก็พูดชัดเจนแล้วนี่ “ซูฉิงก้าวถอยหลัง ทำหน้าปฏิเสธ
“ยังมีอีกโปรเจค”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ
ซูฉิงอึ้งงง “ยังมีอีกโปรเจคอื่นนึ่งงั้นหรอ”
“ใช่ “ฮ่อหยุนเฉิงมองหน้าซูฉิง แล้วก็หยิบเอาเอกสารออกมาจากลิ้นชัก “นี่คือโปรเจคอ่าวเป๋ยไห่เธอเอาไปดูก่อน”
ซูฉืงมองเอกสารหนาปึกอยู่บนโต๊ะ
โปรเจคอ่าวเป๋ยไห่หรอ คืออะไร
ฮ่อหยุนเฉิงจะให้เธอรับผิดชอบโปรเจคใหม่งั้นหรอ
“อีกสองวัน รัฐบาลจะจัดงานประมูล ขายที่แถวอ่าวเป๋ยไป่ “ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นซูฉิงยังงุนงง ก็พูดอธิบายต่อ “ฉันคิดจะสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่ที่นั่น”
สวนสนุก……
ในหัวของซูฉิง ทันใดนั้นก็นึกถึงรั้งนั้นที่ฝรั่งเศส ภาพที่ฮ่อหยุนเฉิงกับเธอไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน
บนชิงช้าสวรรค์ และเขาก็จูบกับเธอ
เขาบอกกับเธอว่า”ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุด ก็คือที่ที่มีความสุขที่สุด ถ้าหากว่าได้จูบกับคนรักที่ที่สูงที่สุด จะอยู่ด้วยกันไปตลอดไป ก็เหมือนกับพวกเราตอนนี้”
อยู่ด้วยกันไม่แยกจากกันไปไหน เหอะ
นึกถึงภาพๆ นั้น ความคิดของซูฉิงก็ตกอยู่ในภวังค์
และทันใดนั้น ถังรั่วอิงก็ยกแก้วกาแฟเข้ามา ในห้องประธานใหญ่ แล้วก็เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน”พี่เฉิง เมื่อคืนพี่ไม่ได้หลับได้นอน น่าจะเหนื่อยมากใช่มั้ยคะ ดื่ทกาแฟจะได้ช่วยให้สดชื่นขึ้น”
ซูฉิงที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ก็ถูกเสียงถังรั่วอิงดึงสติขึ้นมา
จากเสียงอ่อนหวานของถังรั่วอิง แต่พอซูฉิงได้ยินกลับรู้สึกแสบหูยังไงไม่รู้
ไม่ได้นอนทั้งคือ……เหนื่อยมาก……
ใช้หัวนิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าเมื่อคืนพวกเขาทำอะไรกัน
“พี่เฉิง พี่ลองชิมดูสิคะ ฉันเป็นคนชงกาแฟเองกับมือเลยนะ” ถังรั่วอิงเดินส่ายตูดเข้าไปหาฮ่อหยุนเฉิง แล้วยื่นกาแฟให้ฮ่อหยุนเฉิง
ซูฉิงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยหยิบเอาเอกสารข้อมูลโปรเจคอ่าวเป๋ยไห่ขึ้นมาแล้วพูดเสียงเรียบกับฮ่อหยุนเฉิง “ฉันขอตัวไปทำงานก่อน เกี่ยวกับโปรเจคอ่าวเป๋ยไห่ ฉันจะเอาไปทำความเข้าใจอย่างละเอียด”
จากนั้นซูฉิงก็ถือเอาเอกสารข้อมูลแล้วเดินออกไป แต่ทันใดนั้นเองถังรั่วอิงก็พูดขึ้นว่า “ซูฉิง เดี๋ยวก่อน”
ซูฉิงกลับทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจถังรั่วอิงเดินออกไปจากห้องท่านประธานใหญ่
และพอเดินออกมาจากห้องท่านประธาน ซูฉิงก็ได้รับข้อความจากแอนโธนี่ [พี่ada เกี่ยวกับเรื่องถังรั่วอิง ผมสืบได้ข้อมูลของเธอมาบ้าง]
ซูฉิงก็ตื่น แล้วรีบตอบกลับ [ส่งมาให้ฉันดูหน่อย]
วินาทีต่อมา ซูฉิงก็ได้รับอีเมลจากแอนโธนี่
ซูฉิงเปิดดู ข้างในเป็นข้อมูลเกี่ยวกับถังรั่วอิง
ถังรั่วอิง หญิง อายุ 21ปี
ส่วนสูง 1.65เมตร น้ำหนักไม่แน่ใจ
พ่อ ถังลี่ฮว๋า อาชีพคนขับแท็กซี่ เมื่อสองปีก่อนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ขาเดินไม่สะดวก
แม่ หลี่จวนจวน ไม่ได้ทำงาน ทำงานบ้าน
ครอบครัวยากจน มีพี่ชายหนึ่งคน ตอนอายุแปดขวบก็เสียแล้ว
บ้านตระกูลถังให้ความรักลูกชายมากกว่าหญิง เมื่อถังรั่วอิงอายุสี่ขวบ ถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไป ข้อมูลหลังจากนั้นก็ไม่มีแล้ว และเมื่ออายุสิบกว่าปี ถึงรั่วอิงก็ถูกคนที่ออสเตรเลียรับเลี้ยง และตั้งรกรากที่ออสเตรเลีย
เมื่อปีก่อน ถังรั่วอิงกลับมาแล้วก็ไปหาพ่อแม่ที่แท้จริง แล้วก็ไปเป็นนักร้องนำในร้านบาร์
ออสเตรเลียงั้นหรอ?
ออสเตรเลียอีกแล้วหรอ!
ทำไมถึงบังเอิญอย่างนี้?
ซูฉิงตาวาวขึ้นมา แล้วก็จ้องที่หน้าจอ
ข้อมูลที่แอนโธนี่ส่งมาเกี่ยวกับถังรั่วอิง มีแค่นี้เองหรอ
ซูฉิงคิดอยู่สักพักก็ส่งข้อความไปหาแอนโธนี่ [สามารถสืบได้มั้ยใครที่เป็นคนรับเลี้ยงถังรั่วอิง และฉันอยากได้ข้อมูลตอนที่เธอใช้ชีวิตที่ออสเตรเลีย]
แอนโธนี่ ตอบกลับ [ตอนนี้ยังสืบหาไม่ได้ พี่ada ผมขอเวลาอีกหน่อย]
ซูฉิงส่งข้อความตอบกลับมาสั้นๆ [เร็วๆ หน่อย]
เธอมีความรู้สึกมาตลอดว่า ถังรั่วอิงคนนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิดแน่
ถังรั่วอิงถูกลักพาตัวไปตั้งแต่สีขวบแล้วไปไหน
ทำไมช่วงเวลานี้ข้อมูลถึงขาดหายไป แม้แต่แอนโธนี่ก็ยังสืบหาไม่ได้
ถังรั่วอิงคนนี้เป็นถังถังจริงมั้ย
เบื้องหลังของเธอ มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่นะ
ซูฉิงที่คิดสงสัยอยู่นั้น ทันใดก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ส่งข้อความไปหาแอนโธนี่ [ช่วยฉันสืบเกี่ยวกับบริษัท Baxter Pty Ltdด้วย】
[รับทราบ] แอนโธนี่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
เจ้าของ บริษัท Baxter Pty Ltdเป็นคนเชื้อสายจีนที่ออสเตรเลีย ถังรั่วอิงก็ถูกคนออสเตรเลียรับเลี้ยง สองเรื่องนี้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันมั้ย
หรืออาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะออสเตรเลียก็ใหญ่ขนาดนั้น
ซูฉิงกุมขมับ หวังว่าเรื่องนี้จะค่อยๆ ได้คำตอบโดยเร็ว