นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 193 แค่อยากค้นหาความจริง
ซูฉิงมองไปทางเสียง ก็เห็นอู๋ชิงหรานที่อยู่ข้างเธอมาตลอดเอ่ยขึ้น
อู๋ชิงหราน?
เธอจะพิสูจน์อะไรได้
ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เป็นอู๋ชิงหราน นักเปียโนนานาชาติ อู๋ชิงหราน!” นักข่าวบางคนจำอู๋ชิงหรานได้ เอ่ยอย่างตื่นเต้น
“ขอโทษนะ คุณอู๋ชิงหราน เมื่อครู่ที่คุณบอกว่าคุณสามารถพิสูจน์ได้ คุณหมายถึงพิสูจน์ได้ว่าซูฉิงทำลายชุดของคุณไป๋หลานใช่มั้ย” นักข่าวจ่อไมโครโฟนถามไปที่อู๋ชิงหราน
ใบหน้าอู๋ชิงหรานยิ้มน้อยๆและผงกศีรษะ “ใช่ค่ะ”
“คุณช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ในตอนนั้นให้เราฟังหน่อยได้มั้ย” นักข่าวทุกคนรวมตัวกันไล่ถามต่อ
“ตอนนั้นฉันกำลังซื้อผ้าพันคอ ก็เห็นว่าคุณสวีกับซูฉิงกำลังโต้เถียงกัน จากนั้นซูฉิงผลักไป๋หรานและตั้งใจทำลายชุดของเธอ” อู๋ชิงหรานที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธออยู่ตลอด เอ่ยอย่างสง่างาม
สายตาสงสัยของซูฉิงตกอยู่ที่อู๋ชิงหราน
เธอไม่รู้จักอู๋ชิงหรานเลย ทำไมอู๋ชิงหรานถึงโกหก? ช่วยสวีหว่านเอ๋อร์เทน้ำสกปรกใส่เธอ?
ในขณะนั้นเองฮ่อหยุนเฉิงก็เดินเข้าในร้าน ถังรั่วอิงตามเข้าติดๆด้านหลัง
“ประธานฮ่อ ประธานฮ่อมาแล้ว!”
แค่ฮ่อหยุนเฉิงปรากฏตัวขึ้น ก็ราวกับมีวงแหวนแสงสว่างเป็นของตนเอง ดึงดูดความสนใจของทุกคน
นักข่าวก็กรูเข้ามา “ประธานฮ่อ ขอถามหน่อยคุณกับซูฉิงเลิกกันแล้วจริง ๆหรือ ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่ฮ่อกรุ๊ป? มีข่าวลือว่าซูฉิงและเฉินจุนเหยียนอยู่ด้วยกัน จริงมั้ย?”
“ประธานฮ่อ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรต่อเหตุการณ์ในวันนี้? ซูฉิงตั้งใจทำลายชุดของคุณไป๋ ระหว่างทั้งสองคนมีโกรธเคืองอะไรกันมั้ย”
ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงแข็งค้าง ริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่นเป็นเส้นบาง
ถังรั่วอิงก้าวขึ้นไปข้างหน้า พูดกับนักข่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษนะคะ พี่เฉิงไม่ให้สัมภาษณ์ ฉันกับพี่เฉิงไปซื้อของ บังเอิญผ่านมาที่นี่ เห็นว่าครึกครื้นก็เลยเข้ามาดู”
“คุณฮ่อ ผู้หญิงคนนี้คือถังถังที่คุณตามหามาตลอดเหรอ? ขอถามหน่อยตอนนี้คุณสองคนอยู่ด้วยกันเหรอ? ตอนนี้เธอเป็นแฟนของคุณแล้ว?”
“ไสหัวไป” ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองนักข่าวด้วยสายตาเย็นชา รัศมีของเขาแข็งแกร่งมากจนทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก นักข่าวจึงหยุดส่งเสียงไปทันที
เมื่อเห็นฮ่อหยุนที่เข้ามาอย่างกะทันหัน สายตาของสวีหว่านเอ๋อร์ก็ไม่เคยละไปจากเขา
เด็กผู้หญิงที่ตามติดเขานั่นคือถังถัง?
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
แววตาของสวีหว่านเอ๋อร์ลุกโชนด้วยไฟแห่งความริษยา
วันนี้จัดการซูฉิงก่อน แล้วถังถังเธอก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน!
ฮ่อหยุนเฉิงต้องเป็นของเธอสวีหว่านเอ๋อร์
วันนี้เธอจะทำให้ซูฉิงเสียหน้าต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิง!
คิดมาถึงตรงนี้ สวีหว่านเอ๋อร์ก็ส่งสายตาให้ไป๋หราน
“ซูฉิง เธอยังจะพูดอะไรอีก?” ไป๋หรานยั้งเสียงต่อไปอีกไม่ไหว พูดเสียงดังขึ้นไปอีกว่า “ตอนนี้แม้แต่คุณอู๋ก็มาเป็นพยานได้ว่าเธอทำลายเสื้อผ้าของฉัน”
แม้แต่ป๋หรานเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีพยานปรากฏตัวขึ้น
แล้วยังเป็น อู๋ชิงหรานนักเปียโนระดับนานาชาติ
แม้ว่าไป๋หรานจะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆอู๋ชิงหรานถึงได้ช่วยเธอจัดการกับชูฉิง แต่ในตอนนี้ซูฉิงก็ไม่สามารถแก้ต่างได้จริงๆแล้ว
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว” ใบหน้าซูฉิงยังคงเรียบเฉย
ตอนที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงกับถังรั่วอิงเข้ามา ใจของซูฉิงก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา
ตอนนี้เธอถูกคนมากมายรุมใส่ร้าย
ฮ่อหยุนเฉิงพาถังรั่วอิงมาเยาะเย้ยเธอหรือไง?
แต่เธอจะไม่มีวันยอม
พวกสวีหว่านเอ๋อร์ต้องการเหยียบเธอไว้ใต้ฝ่าเท้า อีกเดี๋ยวเธอต้องตอบแทนพวกหล่อนไปอีกเท่าตัว!
คิดมาถึงตรงนี้ ซูฉิงก็ถอนความคิดกลับมา สายตาสงสัยจับจ้องไปที่อู๋ชิงหราน
ซูฉิงมั่นใจว่าเธอไม่เคยล่วงเกินอู๋ชิงหราน
ถ้าอย่างนั้น อู๋ชิงหรานเป็นพวกเดียวกับสวีหว่านเอ๋อร์หรือ? ตั้งใจใส่ร้ายเธอ?
“คุณอ๋ชิงหราน คุณเห็นจริงเหรอว่าฉันทำลายชุดของไป๋หราน?” ซูฉิงมองประเมินอู๋ชิงหราน ถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“แน่นอน” อู๋ชิงหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาแสดงความเกลี่ยดชังอย่างชัดเจน
“งั้นก็น่าแปลกแล้ว ถ้าจำไม่ผิด เมื่อกี้คุณยืนอยู่ตรงหัวมุม แล้วไป๋หลานก็ดึงฉันที่ไว้ตรงประตู จากมุมของคุณ จากมุมคุณมองเห็นได้ไม่ชัดพอด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นที่ประตู” มุมปากของซูฉิงยกส่วนโค้งขึ้นอย่างประชดประชัน
“สรุปว่าฉันเห็นแล้วกัน” สีหน้าอู๋ชิงหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังคงยืนยันว่าเธอเห็นซูฉิงทำลายเสื้อผ้าของไป๋หราน
“ซูฉิง เธอยังไม่คุกเข่าขอโทษไป๋หราน” สวีหว่านเอ๋อร์แทบจะรอไม่ไหวที่จะได้เห็นท่าทางของซูฉิงตอนคุกเข่าขอความเมตตา
“ฉันไม่ได้ทำ ทำไมต้องขอโทษ” ชูฉิงยกมุมริมฝีปากของเธอเบา ๆ อย่างเงียบเชียบและสง่างาม
“เธอยังกล้ามาแก้ตัว! ฉันมีหลักฐานทั้งหมด ตอนนี้แม้แต่อู๋ชิงหรานก็เห็นว่าเธอทำลายชุดของฉัน แม้ว่าเธอจะไม่ยอมรับ ก็ไร้ประโยชน์ เพราะความจริงอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว รีบขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!! “ไป่หรานก้าวไปข้างหน้าซูฉิงและพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง
คนที่ควรคุกเข่าควรเป็นเธอมากกว่ามั้ง?” ซูฉิงมองไปโดยรอบ สีหน้าเย็นชา พูดแทงใจดำว่า” ที่จริง ชุดของเธอเป็นเธอที่จงใจทำลาย เพื่อใส่ร้ายฉัน ถูกมั้ย”
“อย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนะ!” ไป๋หรายจ้องซูฉิงอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “ตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว เธออย่าดึงเวลาเลย รีบคุกเข่าขอโทษเถอะ!”
ซูฉิงหัวเราะเบาๆ “ไป๋หราน เธอไม่เคยได้ยินเหรอ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องชัวของตนก็อย่าทำเรื่องชั่ว เธอคิดว่าเฮทำลายชุด แล้วหาคนมาใส่ร้ายฉัน จะสามารถกลับผิดเป็นถูกได้เหรอ?”
“เธอหมายว่าอะไร?” ไป๋หรานขมวดคิ้ว
ซูฉิงเงายหน้ามองกล้อง เอ่ยว่า” ความหมายของฉันก็คือ ไม่ว่าเธอจะบิดเบือนอย่างไร แต่ความจริงก็ยังคงมีเพียงหนึ่งเดียว ฉันเชื่อว่ากล้องถ่ายเหตุการณ์ในตอนนั้นได้”
ไป๋หรานชะงัก “เมื่อกี้ไม่ได้ดูกล้องวงจรปิดไปแล้วเหรอ? ถ่ายไม่เห็นเลยสักนิด”
“ถ่ายไม่เห็นอะไรเลยจริงเหรอ? ฉันคงมองไม่เห็นมั้ง” สายตาเย็นชาและมีอำนาจของซูฉิงมองไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัย
“ไม่มีจริงๆครับ” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็เป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของไป๋หราน ไป๋เทียนฉิงแสร้งตอบอย่างจริงจัง
หลังจากที่เขาได้รับข้อความจากไป๋หราน ก็รีบลบภาพวงจรปิดช่วงนั้นไปอย่างเงียบเชียบ
“สามารถนำภาพวงจรปิดช่วงนั้นออกมาดูได้มั้ย?” ซูฉิงถามเสียงเย็น
“ไม่จำเป็นแล้ว!” สวีหว่านเอ๋อร์จ้องซูฉิง “ซูฉิงเธอจะชดใช้ยังไง?”
“น่ากลัวว่าคนที่ต้องชดใช้จะไม่ใช่ฉันแล้วว่ามั้ย” ซูฉิงพูดอย่างสงบ “ฉันแค่ต้องการคืนความจริงในเวลานั้น”
“ไปเอาภาพวงจรปิดมา!” ในเวลานี้เอง ฮ่อหยุนเฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบเชียบก็พูดเสียงเข้ม