นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 204 ปาร์ตี้ของเราสอง
เฉินจุนเหยียนขับรถไปจนกระทั่งถึงวิลล่ากลางภูเขาในเขตชานเมือง
“ซูฉิง ถึงแล้วล่ะ” เฉินจุนเหยียนจอดรถก่อนจะเปิดประตู
ซูฉิงลงจากรถ เดินตามหลังเฉินจุนเหยียนเข้าไปในวิลล่า
ในวิลล่าเงียบมาก นอกจากพวกเขาสองคนก็ไม่มีใครอื่น
ซูฉิงมองไปรอบๆ และพูดอย่างสงสัย “เฉินจุนเหยียน คืนนี้เธอไม่ได้มีปาร์ตี้วันเกิดหรือไง? ทำไมมันเงียบจัง คนอื่นล่ะ?”
“ไม่มีคนอื่นหรอก แค่ปาร์ตี้สำหรับเราสองคน” เฉินจุนเหยียนเหลือบมองซูฉิง
ในวันสำคัญอย่างวันเกิดครบรอบยี่สิบห้าปีของเขา เขาแค่อยากใช้เวลาร่วมกับผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด
และผู้หญิงคนนั้นก็คือซูฉิง
สายตาที่ลึกซึ้งของเฉินจุนเหยียนมองจนซูฉิงรู้สึกอึดอัด
เธอเบือนหน้าหนี “ทำไมไม่ชวนเพื่อนมาเยอะหน่อย จะได้คึกคักไง?”
“ฉันไม่ชอบอะไรคึกคัก” เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
ในสวนของวิลล่านั้นโรแมนติกมาก
แสงจันทร์สาดส่องที่สระน้ำเป็นประกายระยิบระยับ
โต๊ะสำหรับสองคนจัดวางไว้อยู่ข้างสระซึ่งสวยงามและดูดี
เฉินจุนเหยียนจุดเทียน
ภายใต้แสงเทียนที่ริบหรี่ ฉฺนจุนเหยียนจ้องไปที่ซูฉิง “ซูฉิง ฉันเตรียมอาหารค่ำใต้แสงเทียนไว้ให้ ชอบไหม?”
ซูฉิงยิ้ม “วันนี้เป็นวันเกิดของนาย นายชอบก็พอ”
“ฉันชอบมากเลย” เฉินจุนเหยียนยกยิ้มริมฝีปาก
ได้ฉลองวันเกิดกับผู้หญิงที่รัก ความรู้สึกของการมีความสุขนั้นก็ได้เติมเต็มหัวใจของเฉินจุนเหยียน
“นี่เป็นสเต็กโปรดของเธอที่ฉันเตรียมไว้เป็นพิเศษเลยนะ ลองชิมดูสิ” เฉินจุนเหยียนดันสเต็กบนโต๊ะไปตรงหน้าซูฉิง
“ขอบคุณ” ซูฉิงหยิบมีดและส้อมจากบนโต๊ะและเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ทำไมนายไม่กินล่ะ” เมื่อเห็นว่าเฉินจุนเหยียนทำเพียงแค่จ้องเธอ ซูฉิงจึงอดถามไม่ได้
“ฉันไม่หิวน่ะ” ริมฝีปากของเฉินจุนเหยียนยกยิ้มอย่างอ่อนโยน
การได้มองซูฉิงอย่างเงียบๆ ก็เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดในโลกสำหรับเขาแล้ว
หากเวลาสามารถหยุดช่วงเวลานี้ตลอดไป ให้เขามองเธอแบบนี้ได้ตลอดไปก็คงจะดี
“จริงสิ นายไม่ได้บอกว่านายมีข่าวดีจะบอกฉันเหรอ?” ซูฉิงที่นึกขึ้นได้ก็เอ่ยปากถาม
เฉินจุนเหยียนพยักหน้า “จริงๆ ก็ไม่มีอะไรนะ ฉันได้รับรางวัลรางวัลม้าทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประจำปีนี้น่ะ”
“ยินดีด้วยนะ” ซูฉิงยิ้มอย่างมีความสุข
อันที่จริงก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความนิยมของเฉินจุนเหยียนพุ่งสูงขึ้น เขาสมควรได้รับรางวัลรางวัลม้าทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแล้วล่ะ
“เธอจะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลสัปดาห์หน้าใช่ไหม?” น้ำเสียงของเฉินจุนเหยียนมีความคาดหวังและประหม่าเล็กน้อย
“แน่นอนสิ” ซูฉิงก้มหน้าหั่นสเต็กเข้าปาก ก่อนจะตอบเฉินจุนเหยียนไป
เฉินจุนเหยียนสามารถประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ ซูฉิงเองก็ดีใจกับเขาด้วย
และไม่ว่าจะยังไง เธอก็ยังเป็นเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังของ***
แน่นอนว่าเรื่องน่ายินดีขนาดนี้ก็ต้องเข้าร่วมด้วยน่ะสิ
เฉินจุนเหยียนขดมุมริมฝีปากและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “แบ่งปันความสำเร็จกับเธอได้ฉันก็ดีใจแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะทำให้เธอเซอร์ไพรส์เอง”
“มีเซอร์ไพรส์อีกเหรอ?” ซูฉิงเลิกคิ้วขึ้น
“อื้ม” เฉินจุนเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง
เขาตั้งใจที่จะสู่ขอซูฉิงต่อหน้าทุกคนในพิธีมอบรางวัล เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
ถึงตอนนั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย ซูฉิงคงไม่ปฏิเสธออกมาตรงๆ แน่
เฉินจุนเหยียนคิดว่ามันต้องประสบความสำเร็จแน่
“สเต็กนี้รสชาติดี นายก็กินหน่อยสิ” เมื่อเห็นเฉินจุนเหยียนจ้องด้วยสายตาลึกซึ้ง ซูฉิงจึงรู้สึกเก้ๆ กังๆ
เฉินจุนเหยียนที่ได้สติ มือใหญ่ก็หยิบมีดและส้อมก่อนจะลงมือกินเต็ก
หลังจากกินสเต็กแล้ว ซูฉิงก็เริ่มกินอาหารอื่นที่อยู่บนโต๊ะ
ทั้งหมดนี้เฉินจุนเหยียนให้คนเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ ต่างเป็นอาหารที่ซูฉิงชอบทั้งนั้น
“รสชาติดีนะเนี่ย” ซูฉิงชมเชย
“เธอชอบก็ดีแล้ว” เมื่อเห็นซูฉิงชมไม่หยุด เฉินจุนเหยียนก็พึงพอใจมาก
“เฉินจุนเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ” ซูฉิงหยิบของขวัญวันเกิดออกมาจากกระเป๋าก่อนจะส่งให้อีกคน
ซูฉิงได้ไปที่ร้านบูติกและซื้อเนคไทเส้นใหม่
“ขอบคุณนะ” เฉินจุนเหยียนเอื้อมมือมารับของขวัญ
…
ฮ่อหยุนเฉิงขับรถตามรถของเฉินจุนเหยียนไม่ใกล้ไม่ไกลจนมาแถวบ้านของเขา
เขามองซูฉิงและเฉินจุนเหยียนเดินเข้าไปในวิลล่า
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะลงจากรถ ทว่าเขาเห็นสายโทรศัพท์จากถังรั่วอิงเสียก่อน
“ถังถัง มีอะไรหรือเปล่า?” ฮ่อหยุนฉฺงรับโทรศัพท์อย่างไม่ใส่ใจ
“พี่เฉิง พี่ยังไม่เลิกงานเหรอ? ฉันทำอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว รอพี่กลับมาอยู่นะ” เสียงหวานของถังรั่วอิงดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์
ฮ่อหยุนเฉิงถึงได้นึกขึ้นได้ว่าถังรั่วอิงนัดเขาไปกินข้าวเย็นที่บ้านเธอ
“ถังถัง ฉันยังมีธุระ ไว้ครั้งหน้านะ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
หัวใจของถังรั่วอิงกระตุกไปครู่หนึ่ง “พี่เฉิง พี่มีธุระที่บริษัทออกมาไม่ได้เลยเหรอ? งั้นให้ฉันเอาไปส่งให้ที่บริษัทดีไหม?”
“ฉันไม่ได้อยู่ในบริษัทน่ะ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ถังรั่วอิงถามต่อ “แล้วพี่อยู่ไหน? ฉันจะไปส่งให้”
“ไม่ต้องหรอก” ฮ่อหยุนเฉิงกุมขมับอย่างไม่สบอารมณ์
“พี่เฉิง…”
ถังรั่วอิงอยากจะพูดต่อ แต่ทันใดนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็เห็นผ่านหน้าต่างรถว่ามรหลายคนรวมตัวกันและรีบไปทางวิลล่าของเฉินจุนเหยียน…
“ถังถัง ฉันมีธุระ วางก่อนนะ” ฮ่อหยุนเฉิงจ้องไปที่กลุ่มคนก่อนจะวางสาย
ในวิลล่า
“ซูฉิง ฉันขอเต้นรำกับเธอได้ไหม” ฉฺนจุนเหยียนจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาทันที
ซูฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ได้สิ”
เฉินจุนเหยียนลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าซูฉิงก่อนจะโน้มตัวทำท่าทางเชิญ
เสียงเพลงไพเราะดังขึ้น
ซูฉิงเหยียดมือออกไปตามเฉินจุนเหยียนก่อนจะเต้นวอลทซ์บนสนามหญ้าในสวน
ทันใดนั้นไฟในสวนก็สว่างขึ้น และไฟนีออนเปลี่ยนสีก็ส่องมาที่ทั้งสองคน
ไม่รู้ทำไมในหัวซูฉิงถึงคิดถึงตอนนั้น ตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงขอเธอเต้นเปิดฟลอร์
ตอนนั้นเธอและฮ่อหยุนเฉิงเต้นกันอย่างร่วมมือพร้อมเพรียง ตอนนี้มานึกถึงยังรู้สึกน่าขัน
ในตอนท้ายของเพลง ซูฉิงกำลังจะกลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง เฉินจุนเหยียนก็ยื่นมือออกมาปัดผมหน้าม้าของซูฉิง “ซูฉิง ผมเธอยุ่งหมดแล้ว”
เป็นท่าทางที่ค่อนข้างคลุมเครือ ซูฉิงที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆ ก็มีกลุ่มคนวิ่งเข้ามาจากทางประตู
มีบอดี้การ์ดในชุดดำ และนักข่าวที่มาพร้อมกับกล้องตัวยาว
และผู้หญิงที่นำหน้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงก็เดินเข้ามาอย่างขึงขัง
เป็นอู๋ชิงหร่าน
ซูฉิงหรี่ตา ผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไรอีก?
“ซูฉิง ยัยเลว! กล้าดียังไงมาอ่อยคู่หมั้นของฉัน!” อู่ชิงหร่านเดินตรงเข้ามาหาซูฉิงพร้อมทั้งยกมือเตรียมตบเข้าหน้าเธอ