นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 220 เเค่การโปรโมทเท่านั้น
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงมืดและดำดิ่งทว่ามีกระแสน้ำที่กำลังพลุ่งพล่านในดวงตาที่เย็นชา
ฮ่อหยุนเฉิงแทบจะถูกความโกรธโมโหปกคลุมตอนที่เห็นฉากที่เฉินจุนเหยียนสู่ขอซูฉิง
ขณะที่เขากำลังจะขึ้นไปหยุด ก็ไม่คิดเลยว่าอู๋ชิงหร่านจุพุ่งเข้าไปอาละวาดจนใหญ่โต
หลังจากก่อเรื่องก่อราว เฉินจุนเหยียนก็สู่ขออีกครั้ง
ฮ่อหยุนเฉิงลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อดึงซูฉิงออกมา ซูฉิงก็ได้ประกาศข้อมูลดังกล่าวต่อที่สาธารณชนแบบไม่ทันตั้งตัว
ในสายตาตกตะลึงอย่างมากของทุกคน ซูฉิงยังคงยิ้มและพูดต่อ “จริงๆ แล้ว การสู่ขอในคืนนี้ถูกฉันและเฉินจุนเหยียนวางแผนไว้แล้วค่ะ จุดประสงค์เป็นเพียงเพื่อโปรโมทละครเรื่องใหม่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์เท่านั้นค่ะ”
โปรโมท?
การสู่ขอที่ยิ่งใหญ่และเป็นพิธีการอย่างนี้เนี่ยนะเป็นเพียงการโปรโมทละครเรื่องใหม่?
ทุกคนต่างอยู่ในความโกลาหล
ซูฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและกล่าวเสริมว่า “สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเรากำลังจะเปิดตัวละครชุดใหญ่ “โห้วกงเฟิงเยว่” และฉันก็จะไปเป็นเขกในเรื่องด้วยค่ะ การสู่ขอนี้คือการโปรโมท “โห้วกงเฟิงเยว่” ดูท่าแล้สน่าจะได้ผลดีมากเลยนะคะเนี่ย”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เธอหลุบตาลงมองเฉินจุนเหยียนด้วยสายตาที่เย็นชาและถามเบาๆ ว่า “เฉินจุนเหยียน นายว่าใช่ไหมล่ะ?”
ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนแข็งทื่อไปเลยทันที
แสงในดวงตาของเขาหรี่ลงทีละน้อย
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เดิมคิดว่าในพิธีมอบรางวัลและต่อหน้าคนทั้งโลก หากเขาขอซูฉิงแต่งงานอย่างจริงจัง ซูฉิงต้องไม่มีวันปฏิเสธเขาไม่ว่าจะยังไงแน่
แต่ไม่คิดเลยว่าซูฉิงไม่ลังเลใจที่จะสูญเสียตัวตนอื่นของเธอเพื่อจะหาข้อแก้ตัวไม่ตกลงการสู่ขอของเขา
สุดท้ายเขาก็ไม่สมควรได้รับมัน
ไม่กี่วินาทีต่อมาเฉินจุนเหยียนก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นเล็กน้อย “ใช่แล้วล่ะ การสู่ขอเมื่อกี้เป็นเพียงเพื่อโปรโมทละครเรื่องใหม่ของเราจริงๆ ครับ”
ซูฉิงยิ้ม “โห้วกงเฟิงเยว่” เป็นไฮไลท์ของการถ่ายทำที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ของเรากำลังจะเข้าฉายในเดือนหน้า และซุปเปอร์สตาร์เฉินก็จะเล่นเป็นนักแสดงนำฝ่ายชาย ส่วนผู้ท้าชิงนักแสดงนำหญิงนั้น…เราต้องขออุบไว้ก่อนนะคะ ทุกท่านตั้งตารอได้เลยค่ะ”
“ขอความสนับสนุนของทุกท่านด้วยนะครับ!” เฉินจุนเหยียนยกมุมริมฝีปากหลังจากที่พูดอย่างสบายๆ
สมแล้วที่เป็นนักแสดง แม้ว่าตอนนี้ใจเขาจะผิดหวังมากแต่ก็เขาซ่อนอารมณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี
“ที่แท้เมื่อกี้ซุปเปอร์สตาร์เฉินและคุณซูก็แสดงการสู่ขอเพื่อโปรโมทละครเรื่องใหม่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์! ฮ่าๆ ทุกท่านคงดูไม่ออกกันสินะครับ?”
ในใจหยิ่นเซียวเฟิงคร่ำครวญถึงเพื่อนของเขาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าผลการโปรโมทนี้จะแยบยลจริงๆ ต่อไปเป็นงานเลี้ยงรางวัลของเรากันนะครับ…”
เฉินจุนเหยียนคว้าถ้วยรางวัลและเดินลงจากเวทีท่าทางเศร้า
ซูฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก การสู่ขอที่กะทันหันและไร้สาระของเฉินจุนเหยียนในที่สุดเธอก็แก้ไขได้ด้วยดี
แต่ทว่าเธอเองก็สูญเสียตัวตันหนึ่งไปเช่นกัน
ขณธผ่านฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงจึงอดเหลือบมองเขาไม่ได้
สองสายตาประสานกัน ซูฉิงรู้สึกได้ถึงความกดอากาศต่ำของฮ่อหยุนเฉิง
เธอหันหน้าหนี ก่อนจะเดินตามหลังเฉินจุนเหยียนกลับไปที่ที่นั่ง
ในที่สุดพิธีมอบรางวัลสิ้นสุดลง
เมื่อซูฉิงและเฉินจุนเหยียนลุกขึ้นยืนและกำลังจะจากไป นักข่าวที่อยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาโอบล้อม
พวกเขาต่างถือกล้าวเลนส์ยาวตัวใหญ่เข้ามาล้อมและถามซูฉิง
“คุณซูคะ ไม่ทราบว่า…
ทำไมวันนี้คุณถึงเลือกที่จะเปิดเผยตัวตนที่คุณเป็นบอสใหญ่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์คะ? ”
มุมปากของซูฉิงเกิดรอยยิ้มบางๆ “เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษค่ะ เป็นวันที่ได้รับรางวัลมากที่สุดสำหรับศิลปินของเราภายใต้สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในฐานะบอสของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ฉันมีความสุขมากค่ะ”
“คุณซูคะ การขอแต่งงานคืนนี้เป็นเพียงการโปรโมทละครใหม่เท่านั้นเหรอคะ?”
ซูฉิงพยักหน้า “แน่นอนค่ะ”
“บอกกับเราได้ไหมคะว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณซูและซุปเปอร์สตาร์เฉินไม่ใช่คู่รักกันจริงๆ ใช่ไหมคะ? เพราะยังไงก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับพวกคุณ” นักข่าวถามอีกครั้ง
ซูฉิงยังคงยิ้มอย่างสุภาพ “ฉันไม่ได้พูดไปแล้วเหรอคะ? ว่าฉันกับเฉินจุนเหยียนเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นหุ้นส่วนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ สำหรับข่าวลือก่อนหน้านี้ก็มีแต่ไม่จริงทั้งนั้นแหละค่ะ”
“แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นคุณซูจะเล่นบทบาทอะไรใน “โห้วกงเฟิงเยว่” งั้นเหรอคะ? จะเล่นคู่กับซุปเปอร์สตาร์เฉินไหมคะ?” นักข่าวอีกคนเบียดเข้ามาถาม
“จะไม่สปอยล์ก่อนนะคะ ถึงตอนนั้นทุกท่านก็จะได้รู้นะคะ” หาได้ยากที่ซูฉิงจะอดทนตอบคำถามนักข่าวทีละคน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกสัมภาษณ์ในฐานะยอสใหญ่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
สิบนาทีต่อมา
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ขอบคุณนักข่าวทุกท่านที่สนใจนะคะ จบการสัมภาษณ์ของวันนี้ค่ะ” ซูฉิมองเวลาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เมื่อสิ้นเสียง บอดี้การ์ดที่เฉินจุนเหยียนพาตัวมาก็กันตัวนักข่าวออกและคอยปกป้องซูฉิงและเฉินจุนเหยียนขึ้นรถ
ไป๋หลานจ้องตามเฉินจุนเหยียนและซูฉิงไปด้วยสายตาริษยา
“หว่านเอ๋อร์ เธอว่าซูฉิงคือบอสใหญ่เบื้องหลังสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์จริงๆ เหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง!”
สวีหว่านเอ๋อร์จ้องซูฉิงด้วยสายตาที่มืดมน
เดินนึกว่าซูฉิงก็แค่พวกลืมกำพืดตัวเองที่มาจากบ้านนอก คอยมายุ่งกับฮ่อหยุนเฉิงก็เพราะเงินอย่างไร้ยางอาย
คิดไม่ถึงเลยว่าซูฉิงจะกลายเป็นบอสที่อยู่เบื้องหลังของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ไม่แปลกใจเลยที่ทุกครั้งที่เธอพยายามจัดซูฉิง ก็จะถูกซูฉิงคอยแก้สถานการณ์ไปได้อย่างง่ายดาย
เป็นก่อนหน้านี้ที่เธอประเมินศัตรูต่ำไป
เมื่อเห็นว่าสวีหว่านเอ๋อร์เงียบไป ไป๋หลานก็พูดอย่างโกรธเคือง “ซูฉิง ยัยบ้านนอกไร้ยางอาย…”
“เอาล่ะ บอสใหญ่ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์จะเป็นลูกบ้านนอกได้ยังไง?” สวีหว่านเอ๋อร์พูดขัดจังหวะไป๋หลานอย่างไม่สบอารมณ์
ไป๋หลานเหลือบมองสวีหว่านเอ๋อร์อย่างระมัดระวัง “แล้วทำไมแต่ก่อนซูฉิงต้องคอยเสแสร้งด้วยล่ะ? เพื่อแสร้งทำเป็นน่าสงสารต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิงเพื่อให้เห็นอกเห็นใจงั้นเหรอ? ตอนนี้เธอเปิดเผยตัวตนแล้วเพราะคิดจะกลับไปอยู่ข้างฮ่อหยุนเฉิงงั้นสิ?”
ใบหน้าของสวีหว่านเอ๋อร์นิ่งลง “เหอะ ไม่ว่าจะสถานะไหน ฉันก็จะไม่ปล่อยให้หล่อนแย่งฮ่อหยุนเฉิงไปได้!”
ไป๋หลานพยักหน้า “ถูกต้องแล้วหว่านเอ๋อร์ ตำแหน่งของคุณหญิงบ้านตระกูลฮ่อต้องเป็นเธอ! เพียงแต่ว่าแต่ก่อนที่คุณหญิงฮ่อต่อต้านซูฉิงและคุณฮ่อเพราะเป็นคนบ้านนอก แต่ตอนนี้ซูฉิงกลับใหญ่โตแบบนี้ เธอว่าคุณหญิงฮ่อจะ…”
“ไม่มีทาง!” สวีหว่านเอ๋อร์ปฏิเสธ “ซูฉิงไปทำคุณหญิงฮ่อเคืองตั้งแต่แรกแล้ว คุณหญิงฮ่อมองซูฉิงก็เป็นหนามเท่านั้น จะให้หล่อกลับไปอยู่ข้างฮ่อหยุนเฉิงได้ยังไงกัน?”
หลังจากหยุดไปชั่วคราว ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ก็ส่องประกายอย่างไร้ความปราณี “ยิ่งไปกว่านั้น คิดจะไล่ซูฉิงให้ไปจากฮ่อหยุนเฉิง ไม่ต้องให้เราลงมือเองด้วยซ้ำ”
“หว่านเอ๋อร์ เธอมีวิธีดีๆ อะไรงั้นเหรอ” ไป๋หลานถาม
สวีหว่านเอ๋อร์พ่นลม “ถึงตอนนั้นเธอก็รู้เอง!”
ไม่ว่าซูฉิงจะมีสถานะเป็นยังไง เธอจะไม่มีวันปล่อยซูฉิงไปแน่!!