นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 227 ขอแต่งงานอีกครั้ง (๑)
“ซูฉิงลืมตาสิ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวขึ้นมา ยื่นมือออกไปลูบผมซูฉิง
ซูฉิงลืมตาขึ้น
เธอพิงไหล่ของฮ่อหยุนเฉิง ความกลัวความสูงก็ค่อยๆ หายไป
แต่ฮ่อหยุนเฉิงพาเธอบินขึ้นมาสูงมากขนาดนี้ในตอนกลางคืน เขาต้องการทำอะไรกันแน่?
เมื่อเห็นความสงสัยในดวงตาที่สวยงามของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงจึงกล่าวด้วยเสียงต่ำและแหบพร่า “ซูฉิงตอนนี้ฉันจะพาเธอไปหาพ่อแม่ของเธอ เพราะฉันมีเรื่องสำคัญที่จะบอกพวกท่าน”
“ไปหาพ่อแม่ฉัน?” ซูฉิงตกใจ
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังทำอะไร?
คุณปู่บอกว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปเพราะในอุบัติเหตุตั้งนานแล้ว
“อือ” ฮ่อหยุนเฉิงตอบเบาๆ
“นายอย่าอ้อมค้อมเลย คืนนี้นายทำอะไรตั้งหลายอย่างแบบนี้เพราะอะไรกันแน่?” ซูฉิงขมวดคิ้ว ดวงตาที่เย็นชาของเธอมองไปที่ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงเอนตัวเข้ามาหาเธอ ชี้ไปที่ดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ซูฉิงจำได้ไหม ตอนที่เราอยู่บนชิงช้าสวรรค์ในสวนสนุกของฝรั่งเศส ฉันเคยบอกว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่เคยหายไปไหนเลย พวกเขาแค่ขึ้นไปอยู่บนฟ้า ไปอยู่อีกที่หนึ่ง เฝ้ามองดูเธอ และคอยห่วงใยเธออย่างเงียบๆ”
หัวใจของซูฉิงเต้นแรงเล็กน้อย
แน่นอนว่าเธอจำได้
ครั้งนั้นฮ่อหยุนเฉิงสารภาพกับเธอบนชิงช้าสวรรค์ และจูบเธอ
เธอยังจำได้ว่าเขาเคยบอกว่าบนสุดของชิงช้าสวรรค์คือที่ที่ใกล้ความสุขที่สุด หากคู่รักจุมพิตกันที่จุดสูงสุดของชิงช้าสวรรค์ พวกเขาจะไม่มีวันพรากจากกันตลอดกาล
ฉากในอดีตยังคงติดอยู่ในใจของซูฉิง
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เธอก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงชี้ไปที่ดาวสองดวงที่สว่างที่สุดในท้องฟ้ายามราตรี และทันใดนั้นก็เปล่งเสียงออกมา “คุณลุง คุณป้าครับ ผมอยากแต่งงานกับซูฉิง และดูแลเธอตลอดไปชีวิต ถ้าพวกท่านเห็นด้วยได้โปรดอย่าขยับ ถ้าหากไม่เห็นด้วยก็ซ่อนตัวเข้าไปในก้อนเมฆได้เลยครับ”
ในคืนที่เงียบสงัด ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับลงไปบนพื้นดิน และเฮลิคอปเตอร์
ดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงจ้องไปที่ใบหน้าของซูฉิงอย่างจริงจัง และเสียงของเขาก็ไพเราะราวกับเสียงของเชลโล “ซูฉิงพ่อแม่ของเธอเห็นด้วยแล้วนะ เธอคงจะไม่ปฏิเสธฉันใช่ไหม?”
ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง……
เมื่อได้ยินคำพูดของฮ่อหยุนเฉิงหัวใจของซูฉิงก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น
“อะไรกัน?” ซูฉิงถอนสายตาออกจากฮ่อหยุนเฉิง
เธอรู้ว่านี่เป็นเพียงคำพูดล่อลวงเธอของฮ่อหยุนเฉิง
ดวงดาวสองดวงนั้นจะเป็นพ่อแม่ของเธอได้อย่างไร?
แบบนี้จะถือว่าพ่อแม่ของเธอเห็นด้วยกับเขาได้อย่างไร?
แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อเห็นซูฉิงเงียบ ฮ่อหยุนเฉิงจึงคุกเข่าลงทันที และหยิบแหวนออกมาราวกับเวทมนตร์ “ซูฉิงแต่งงานกับฉันนะ!”
สายตาของเธอตกลงไปที่แหวนในมือของฮ่อหยุนเฉิง หัวใจของซูฉิงก็เต้นแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ในใจรู้สึกสับสนเล็กน้อย
แหวนวงนี้หลังจากที่เธอกับฮ่อหยุนเฉิงยกเลิกการหมั้น เธอก็คืนแหวนวงนี้ให้เขา
ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็มาขอเธอแต่งงานอีกครั้ง…
เมื่อวานเป็นเฉินจุนเหยียนที่งานประกาศรางวัล วันนี้เป็นฮ่อหยุนเฉิง…
สองวันติดต่อกัน ชายทั้งสองต่างก็ขอเธอแต่งงาน และซูฉิงพูดไม่ออกเลย
แต่ทว่ามันกลับไม่เหมือนที่งานประกาศรางวัลเมื่อวาน ความรู้สึกของของซูฉิงในขณะนี้มีความสุขมาก
เพราะเธอยังรักฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อมองไปที่ชายที่มีสีหน้าจริงใจที่อยู่ตรงหน้าเธอ ซูฉิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ฮ่อหยุนเฉิงมีต่อเธอนั้นมีความจริงอยู่แค่ไหน
ท่าทีที่เขามีต่อถังรั่วอิ่งนั้นเปลี่ยนไป ซูฉิงก็สามารถรับรู้ได้
แต่ฮ่อหยุนเฉิงเคยกล่าวไว้ว่า ถังรั่วอิ่งมีบุญคุญกับเขา เขาไม่สามารถทิ้งเธอได้
แม้แต่ในงานแถลงข่าววันนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็ยังคิดถึงหน้าของถังรั่วอิ่ง จึงไม่เปิดเผยว่าถังรั่วอิ่งเป็นคนปล่อยข้อมูลนั่น
จะเห็นได้ว่าในใจของฮ่อหยุนเฉิง ถังรั่วอิ่งยังคงมีสถานะที่ต่างออกไป
แม้จะบอกว่า ซูฉิงเกือบจะแน่ใจแล้วว่าถังรั่วอิ่งไม่ใช่ถังถังตัวจริง แต่หลังจากที่เธอรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์แล้ว ฮ่อหยุนเเฉิงจะต้องลงโทษถังรั่วอิ่งอย่างรุนแรงแน่นอน
แต่ถ้าวันหนึ่งถังถังตัวจริงกลับมา…
หัวใจของซูฉิงก็รู้สึกพ่ายแพ้
เมื่อเจอกับตัวครั้งที่แล้ว ตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงทิ้งขว้างเธอในวันหมั้นวันนั้น ซูฉิงก็ไม่อยากให้มีครั้งต่อไปอีก
เมื่อเห็นว่าซูฉิงเงียบ ฮ่อหยุนเฉิงก็มองดูเธอด้วยสายตานุ่มลึก และพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “ซูฉิงเธอจะตอบรับฉันได้ไหม?”
ซูฉิงหลุบตาลง และมองออกไปนอกหน้าต่าง
มองผ่านหน้าต่างออกไป ซูฉิงก็เห็นเฮลิคอปเตอร์หลายสิบลำรอบๆ เฮลิคอปเตอร์ที่เธอนั่งอยู่ ที่หางมีควันสีสันสวยงาม เปลี่ยนรูปแบบและแปรอักษรที่สวยงามอย่างต่อเนื่อง
“ซูฉิง แต่งงานกับฉันนะ!”
“ซูฉิง ฉันรักเธอ!”
ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดนี้ยิ่งดูตระกาลตา
กลีบดอกไม้สดโปรยลงมาอย่างงดงาม
เป็นฉากที่โรแมนติกมาก
“ซูฉิงตอบรับฉันเถอะ!” น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงค่อนข้างออกคำสั่ง “ฉันจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างแน่นอน!”
เมื่อมองลงไปที่ชายที่คุกเข่าต่อหน้าเธอ ซูฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
แม้ว่าเธอจะรู้สึกคล้อยตาม แต่ซูฉิงก็ยังตัดสินใจที่จะไม่ตกลง
ถ้าตอบรับเขาง่ายเกินไป เขาก็จะไม่รู้จักหวงแหนมัน
เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม ซูฉิงก็ไม่สามารถยอมรับได้ว่าฮ่อหยุนเฉิงอยู่กับถังรั่วอิ่งในวันที่พวกเขาหมั้นกัน
“ถ้าเธอยังไม่พูดอะไรอีก ฉันจะถือว่าเธอยินยอมแล้วนะ” เมื่อเห็นซูฉิงเงียบ ฮ่อหยุนเฉิงก็ยกมุมริมฝีปากของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก
ขณะที่พูด ฮ่อหยุนเฉิงก็ลุกขึ้นยืน มือใหญ่ของเขาก็คว้ามือของซูฉิงมา และสวมแหวนไปที่นิ้วนางของเธอ
อุณหภูมิที่ร้อนแผดเผาจากมือของฮ่อหยุนเฉิงทำให้ซูฉิงได้สติ และจับมือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงไว้ “ใครบอกว่าฉันตกลง?”
ฮ่อหยุนเฉิงรีบสวมแหวนให้ซูฉิง ยกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และหัวเราะเบาๆ “แหวนถูกสวมแล้ว เธอไม่ตกลงก็ต้องตกลงแล้วล่ะ”
ซูฉิงกลอกตาใส่ฮ่อหยุนเฉิง ผู้ชายคนนี้เป็นพาลเกินไปจริงๆ
“ถ้าคุณสวมมัน คุณสามารถถอดมันออกได้” ซูชิงพูดอย่างเย็นชา และทำท่าทางเพื่อถอดแหวนออกจากมือของเธอ
“อย่าถอดนะ” มือของฮ่อหยุนเฉิงคว้ามือของซูฉิง และล็อกมือเธอไว้
ชูฉิงลืมเงยหน้าขึ้นและสบตาลึกของเขาที่ราวกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ขณะที่เธอกำลังจะพูด ฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลงมาผนึกริมฝีปากของเธอทันที
“อื้อๆๆ … ” คำพูดของซูฉิงถูกกลืนกลับลงไปในลำคอ
ซูฉิงต้องการอากาศหายใจ และอยากจะผลักเขาออกไป แต่ฮ่อหยุนเฉิงกลับไม่ขยับเลย
เมื่อจูบที่เร่าร้อนนั้นจบลง หัวใจของซูฉิงก็เต้นเร็วขึ้นโดยควบคุมไม่ได้
ริมฝีปากของเธอมีเสน่ห์และหวานราวกับดอกซากุระ ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงต้องการมากกว่านี้
ฮ่อหยุนเฉิงอดไม่ได้ที่จะจูบให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ราวกับลมพายุและฝนที่โหมกระหน่ำ ราวกับจะปล้นริมฝีปากเธอไปอย่างไร้ความปราณี ไม่ให้ซูฉิงได้มีช่องว่างในการหายใจเลย
ใบหน้าของซูฉิงเริ่มร้อนขึ้นราวกับไฟ
อุณหภูมิบนเฮลิคอปเตอร์ค่อยๆ สูงขึ้น
นอกหน้าต่าง เฮลิคอปเตอร์หลายสิบลำยังคงเปลี่ยนรูปแบบเป็นลวดลายสวยงาม เป็นภาพที่โรแมนติก และงดงาม
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านนานแค่ไหนก่อนที่ฮ่อหยุนเฉิงจะสิ้นสุดการจูบที่เร่าร้อนนี้
“ตอบรับฉันเถอะซูฉิง” เขาหายใจหอบ และกระซิบข้างหูของซูฉิง
เสียงแหบต่ำที่มีเสน่ห์หาที่เปรียบมิได้
ซูฉิงตบหน้าร้อนๆ ของเธอ หายใจเข้าลึกๆ แต่ยังคงนิ่งอยู่
เมื่อเห็นท่าทีของซูฉิงเช่นนี้ ดวงตาที่นุ่มลึกของฮ่อหยุนเฉิงก็มีแววตาของความผิดหวัง และความหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาไม่เคยคิดมากขนาดนี้เพราะผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย
ซูฉิงเป็นคนแรก และจะเป็นคนเดียวเท่านั้น
แต่ทว่าเขาทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเธอ แต่ซูฉิงก็ยังไม่เห็นคุณค่าของมัน
“ซูฉิง เธอต้องการอะไรกันแน่ เธอถึงจะยอมตอบตกลงฉัน?” ฮ่อหยุนเฉิงมือทั้งสองข้างบนไหล่ของซูฉิง และถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง