นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 230 เอะอะก็จูบเธอ
ฮ่อหยุนเฉิงกดแป้นพิมพ์ด้วยมือทั้งสองข้าง เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองที่ซูฉิงและยิ้มที่มุมปาก “เธอป้อนฉันนะ”
ซูฉิงพูดไม่พูดอะไรแล้ววางกาแฟไว้ข้างหน้าเขา “จะดื่มไม่ดื่ม”
ฮ่อหยุนเฉิงลุกขึ้นยืนและจับมือซูฉิงเอาไว้”เธอโกรธ?”
ซูฉิงกลอกตาให้ฮ่อหยุนเฉิง
“คืนนี้ไปทานอาหารเย็นด้วยกันนะ” ฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลงและพูดด้วยเสียงต่ำข้างๆ หูของซูฉิง “ฉันจะลงมือทำอาหารเอง เธอรอชิมฝีมือฝีมือของฉันได้เลย”
ซูฉิงส่ายหัว “นายลือมไปแล้วเหรอ ว่าคืนนี้ฉันได้นัดกับเฉินจุนเหยียนเอาไว้แล้ว?”
ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงทำหน้าเซ็งทันทีเมื่อเขาได้ยินดังนั้น
ซูฉิงเธอยังกล้าออกเดตกับเฉินจุนเหยียนงั้นเหรอ?!
“ไม่ให้ไป!” ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ซูฉิงถอนหายใจและสบสายตาอันเย็นเฉียบของเขา “แล้วถ้าฉันเลือกจะไปล่ะ”
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงโน้มเข้ามาจูบเธอ…
เมื่อเห็นซูฉิงยืนกรานที่จะขัดใจ โดยไม่สนใจปฏิกิริยาที่ไม่พอใจของเขาแล้วยังยืนยันที่จะไปพบกับเฉินจุนเหยียน ฮ่อหยุนเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ
เป็นไปได้ไหมว่าในใจของซูฉิง เฉินจุนเหยียนคนนี้มีความสำคัญมากจริงๆ?
เธอพูดอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สนใจเฉินจุนเหยียน แล้วทำไมต่อหน้าต่อตาเขา เธอถึงต้องไปเดตกับเฉินจุนเหยียน?
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องธุรกิจ ก็ไม่ได้!
ไฟอิจฉาริษยาในหัวใจของเขากำลังลุกไหม้ และฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากที่อ่อนโยนของหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขาโดยไม่ลังเล
อีกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสริมฝีปากสีแดงที่น่าดึงดูดใจของซูฉิง ที่หวานราวกับดอกซากุระ การหายใจของฮ่อหยุนเฉิงถี่ขึ้น และการเคลื่อนไหวในมือของเขาไม่สามารถหยุดได้เลย
กลิ่นหอมจาง ๆที่คุ้นเคยบนร่างกายของซูฉิง ยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น
เหมือนกับในความทรงจำทุกอย่าง
ในภวังค์ฮ่อหยุนเฉิง ย้อนกลับไปเมื่อแปดปีที่แล้วเมื่อเขาและถังถังถูกขังอยู่ในห้องที่มืดมิด
ไม่ไกลนักคือหมาป่าดุร้ายตัวใหญ่
ในตอนนั้นเขากลัวหมา
ร่างเล็กและกล้าหาญของถังถังได้กอดเขาไว้โดยไม่ลังเล
เด็กสาวเอื้อมมือออกไปกอดเขาแน่น ด้วยเสียงที่ใสและไพเราะราวกับกระดิ่งสีเงิน เธอพูดอย่างหนักแน่นข้างหูของเขาว่า “พี่เฉิง อย่ากลัวเลย ฉันจะปกป้องพี่เอง!”
เธอกอดเขา เขาก็หอมกลิ่นจางๆ บนร่างกายของเธอ มันหวาน หวานมาก ซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ความรู้สึกนั้น เหมือนกับอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าซูฉิงเป็นผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นเมื่อแปดปีก่อนและทำให้เขาลืมไม่ลง?
การหายใจของฮ่อหยุนเฉิงเริ่มสับสนเล็กน้อยเมื่อดูดริมฝีปากของเธอ ในดวงตาสีดำคู่นั้น แสดงให้เห็นว่าประกายไฟที่แผดเผาในตาของเขากำลังปั่นป่วน
จูบอย่างกะทันหันนี้ทำให้ซูฉิงสับสนเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้เอะอะก็จูบเธอ?!
แย่แล้วสิ!
ซูฉิงอยากจะยื่นมือออกไปหยุดเขา แต่มือของเธอถูกเขามัดไว้แน่น ทำให้เธอไม่สามารถใช้กำลังใดๆ ได้เลย
ความรู้สึกแบบนี้…อธิบายไม่ถูก
อุณหภูมิในห้องผู้บริหาร เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกครั้ง…
เมื่อทั้งสองกำลังจุมพิตกันอย่างเข้าด้ายเข้าเข็ม จู่ๆ เสียงก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศในขณะนั้น
“ซูฉิง ทำอะไรน่ะ!”
สวีหว่านเอ๋อร์ได้รบเร้าให้สวีมู่หยาง ให้เขาพาเธอมาที่ฮ่อกรุ๊ป เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือ
ทันทีที่เธอมาถึงฮ่อกรุ๊ป สวีหว่านเอ๋อร์ก็ตรงไปที่ห้องทำงานผู้บริหาร
แต่คาดไม่ถึงว่าสิ่งที่ภาพที่จะได้เห็นคือฉากของฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงที่จูบกันอย่างดูดดื่ม
เธอก้าวไปข้างหน้าด้วยความหึงหวงและมองซูฉิงอย่างดุเดือด
ฮ่อหยุนเฉิงปล่อยซูฉิงและค่อยๆ จัดเสื้อที่ยุ่งเหยิงของเขาให้ตรง เขามองสวีหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง “ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”
สวีหว่านเอ๋อร์ดันซูฉิงออก ทิ้งความหึงหวงของเธอและแสดงรอยยิ้มให้ฮ่อหยุนเฉิงที่เธอคิดว่ามีเสน่ห์ “หยุนเฉิง ฉันมากับพี่ชายของฉันเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างฉินกรุ๊ปและฮ่อกรุ๊ปกับคุณ ”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดเบา ๆ “แล้วพี่ชายของคุณล่ะ?”
“อ่อ เขาไปจอดรถน่ะ อีกเดี๋ยวก็ถึง” สวีหว่านเอ๋อร์มองฮ่อหยุนเฉิงด้วยความหลงใหลเล็กน้อย
นี่คือผู้ชายที่สวีหว่านเอ๋อร์ชอบ ผู้หญิงคนไหนก็ห้ามยุ่ง!
เนื่องจากซูฉิงล่อลวงฮ่อหยุนเฉิงอย่างไร้ยางอาย เธอจะไม่ปล่อยให้ซูฉิงไป!
สวีหว่านเอ๋อร์กำลังคิดในใจ สวีมู่หยางก็เดินเข้ามา “หว่านเอ๋อทำไมเธอไม่รอฉัน?”
“พี่คะ มาทันเวลาพอดีเลย” สวีหว่านเอ๋อร์จับแขนของสวีมู่หยาง และพูดอย่างเย็นชากับซูฉิง “ซูฉิง เรากำลังคุยเรื่องธุรกิจกับหยุนเฉิง เธอมาอยู่ทำอะไรตรงนี้?”
ซูฉิงเหลือบมองสวีหว่านเอ๋อร์ด้วยท่าทีที่สงบ “คุณสวีฉันกำลังคุยเรื่องธุรกิจกับฮ่อหยุนเฉิง คุณควรรู้ว่าอะไรมาก่อนได้ก่อนใช่ไหม? ”
“มู่หยาง พาน้องสาวของคุณไปรอฉันที่ห้องประชุม” ฮ่อหยุนเฉิงขดริมฝีปากของเขาและพูดกับสวีมู่หยางด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ครับเราจะรอคุณที่ห้องประชุม” สวีมู่หยางพยักหน้าและดึงสวีหว่านเอ๋อร์ออกจากห้องทำงานผู้บริหาร
สวีหว่านเอ๋อร์มีท่าทีที่ไม่เต็มใจ “พี่คะ เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้นี้ซูฉิง…”
“พอแล้ว หว่านเอ๋อ หยุนเฉิงขอให้เธอรอในห้องประชุม คุณก็แค่ทำไป” สวีมู่หยางดึงสวีหว่านเอ๋อร์ที่ไม่เต็มใจนักออกไป
สวีหว่านเอ๋อร์ หันหน้าจ้องไปที่ซูฉิงอย่างไม่พอใจ
ซู!ฉิง!!
คนไร้ยางอายคนนี้รู้วิธีที่จะเกลี้ยกล่อมฮ่อหยุนเฉิง!
สวีหว่านเอ๋อร์กำหมัดสองข้างของเธอแน่น ดวงตาของเธอก็มีแววตาที่มืดมน
เธอต้องทำให้ซูฉิงขายหน้า!!
เมื่อเห็นร่างของสวีมู่หยางและสวีหว่านเอ๋อร์ที่จากไป ฮ่อหยุนเฉิงก็ขดมุมริมฝีปากของเขาและมองที่ซูฉิงอย่างลึกซึ้ง “เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน?”
“ไม่มีอะไร” ซูฉิงเม้มริมฝีปากของเธอ
ฮ่อหยุนเฉิงก้าวยขายาวๆของเขามายืนต่อหน้าซูฉิง มองลงมาที่เธอ และเสียงอันดึงดูดก็ดังขึ้น “เธอไม่ได้บอกว่าเธอต้องการคุยเรื่องธุรกิจกับฉันเหรอ?”
ซูฉิงยักไหล่ “จู่ๆฉันก็ลืมว่าจะคุยเรื่องธุรกิจอะไรกับคุณ”
อันที่จริง ไม่มีอะไรจะพูด เพียงแต่เธอไม่อาจทนดูท่าทีของสวีหว่านเอ๋อร์ได้
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็หันหลังกลับและจากไป เหลือเพียงฮ่อหยุนเฉิงที่มีเส้นแสดงถึงความงุนงงอยู่บนหน้าของเขา
เมื่อซูฉิงกลับมาที่ทำงานของเธอ เธอได้ทำการปรับปรุงบางอย่างในการออกแบบ “น้ำแข็งและไฟ” แต่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
กว่าจะรู้ตัวก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว
ซูฉิงยืนขึ้น ขณะกำลังจะเลิกงานเ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉินจุนเหยียน
“เฉินจุนเหยียน ว่าไง?” ซูฉิงรับโทรศัพท์
เสียงของเฉินจุนเหยียนก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน “ซูฉิง คุณเลิกงานหรือยัง?”
“เพิ่งเลิกงาน” ซูฉิงตอบ
“ฉันจะรอคุณที่หน้าประตูฮ่อกรุ๊ป” เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เมื่อพูดจบเขาก็วางสาย
ซูฉิงลงไปชั้นล่างและเดินออกจากประตูของฮี่อกรุ๊ป ก็เห็นรถของเฉินจุนเหยียน
เฉินจุนเหยียนเปิดประตูและลงจากรถ เดินไปตรงหน้าซูฉิง ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนมาก “ซูฉิง ขึ้นรถเถอะ!”
“อืม” ซูฉิงตอบเบา ๆ และนั่งในที่นั่งข้างคนขับ
เธอเหลือบมองเฉินจุนเหยียน “เดิมทีฉันจะว่าไปหานายหลังจากทานอาหารเย็นแล้ว”
เฉินจุนเหยียนยิ้ม “ฉันเลี้ยงเธอเอง ไปด้วยกันเถอะ”
ซูฉิงพยักหน้า “ตกลง”
เมื่อเห็นว่าซูฉิงเห็นด้วย เฉินจุนเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่นุ่มนวล
เขาสตาร์ทรถและขับไปที่บ้านพักในเขตชานเมือง
สวีหว่านอ๋อร์และสวีมู่หยางพูดคุยเรื่องความร่วมมือกับฮ่อหยุนเฉิงเสร็จแล้ว ขณะที่เขาโดนสวีมู่หยางดึงออกมาจากฮ่อกรุ๊ปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวนั้น ก็เห็นซูฉิงเข้าไปในรถของเฉินจุนเหยียน
“นี่ซูฉิงใช่ไหม?” ในดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ก็มีแสงสว่างวาบ
ในห้องทำงานผู้บริหารเมื่อครู่นี้ ซูฉิงล่อลวงฮ่อหยุนเฉิงอย่างไร้ยางอาย
ตอนนี้เธอกับขึ้นรถไปกับเฉินจุนเหยียนอีกแล้วเหรอ?
สวีหว่านเอ๋อร์จ้องไปที่รถของเฉินจุนเหยียนสักครู่แล้วหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและส่งข้อความไปที่ไป๋หลาน”ไปบอกนักข่าวว่าซูฉิงกับเฉินจุนเหยียนกำลังเกลือกกลั้วกันอยู่ แล้วก็อย่าลืมบอกอู๋ชิงหร่านด้วย! ”
ในไม่ช้าสวีหว่านเอ๋อร์ได้รับคำตอบจากไป๋หลาน “รับทราบ สวีหว่านเอ๋อร์!”
สวีหว่านเอ๋อร์หรี่ตาลง
ซูฉิง รอก่อนเถอะ!!