นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 232 ให้ซูฉิงตายไม่มีที่ัฝังเลย
ผู้หญิงของฉัน……
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังพูดอะไรเนี่ย?
เธอไปเป็นผู้หญิงของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?!
แปลกจริงๆ!
“นายคิดจะทำอะไร?”ซูฉิงสูดลมหายใจ ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงคว้าเข้าไปกอด
ซูฉิงที่พยายามขัดขืนอยู่ในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิง จนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจของเขา
หน้าของซูฉิงก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
เธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง ทันใดนั้นเองแววตานิ่งขรึมสองคู่นั้นของฮ่อหยุนเฉิงก็ก้มลงมาสบตา
ภายในสายตาที่นิ่งขรึม ซูฉิงเห็นเงาของตัวเองที่ถูกเขากอดอย่างแน่น
เวลานิ่งไปชั่วขณะ ซูฉิงลืมที่จะขัดขืน ยอมให้เขากอดอยู่อย่างนั้น
วินาทีต่อมา เธอก็ตั้งสติได้ คิดจะผลักตัวฮ่อหยุนเฉิงออก แต่ก็ถูกเขากอดจนแน่นดิ้นไม่หลุดแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงกอดซูฉิงเดินขึ้นมาบนรถ
เขานั่งที่ตำแหน่งคนขับ ใบหน้านิ่งขรึมเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมา
เฉินจุนเหยียนได้แต่มองรถของฮ่อหยุนเฉิงที่ค่อยๆ ขับไกลออกไปเรื่อยๆ ด้วยแววตาเศร้า
ซูฉิง เธอถูกฮ่อหยุนเฉิงพาไปอย่างนี้หรอ
เขาได้แต่มองดูผู้หญิงที่เขารักถูกผู้ชายคนอื่นพาไปต่อหน้าต่อตาโดยทำอะไรไม่ได้เลย
เพราะว่าเขาดูออกว่าซูฉิงนั้นยังลืมฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้
ความรู้สึกพ่ายแพ้ ทำให้เฉินจุนเหยียนไม่เคยรู้สึกพ่ายแพ้มากขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่ว่า เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่
ขอเพียงแค่ซูฉิงยังไม่แต่งงาน เขาก็ยังมีโอกาสอยู่!
และยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ซูฉิงยังไม่ได้ตอบตกลงที่จะแต่งงานกับฮ่อหยุนเฉิง
เขามีโอกาส จะต้องมีโอกาสสิ!
เฉินจุนเหยียนพูดกับตัวเองไม่หยุด
“ฮ่อหยุนเฉิงนายจะพาฉันไปไหน “ซูฉิงมองออกไปนอกหน้าต่างรถ พบว่าไม่ใช่เส้นทางที่จะไปเฉิงตงฮวาหยวน
ฮ่อหยุนเฉิงหันไปเหล่มองเธอแล้วพูดเสียงเรียบ”เมืองใหม่สุ่ยเยว่”
“นายกลับไปส่งฉันเลยนะ”ซูฉิงนวดขมับ “ฉันเหนื่อยแล้ว อยากกลับไปพักผ่อน”
ฮ่อหยุนเฉิงยกยิ้มกระหยิ่ม “ฉันได้ให้คนไปขนของของเธอมาไว้ที่เมืองใหม่สุ่ยเยว่แล้ว”
“อะไรนะ ” ซูฉิงหน้าเคร่ง “ทำไมนายไม่ถามความคิดเห็นของฉันก่อน แล้วยังมาขนของของฉันโดยพละการอีกงั้นหรอ”
ซูฉิง:…………
ผู้ชายคนนี้ เอาแต่ใจจริงๆ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ฮ่อหยุนเฉิงก็จอดรถ
“ถึงแล้ว ซูฉิงฉิง “เขาลงรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดรถให้กับซูฉิง
ซูฉิงกลอกตามองบนให้กับฮ่อหยุนเฉิง
เขาขนย้ายของของเธอมาแล้ว ทำก่อนแล้วค่อยกันมาบอก เธอคิดจะกลับไปที่เฉิงตงฮวาหยวนก็ไม่ได้แล้ว
ได้กลับมาที่เมืองใหม่สุ่ยเยว่ของฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง ทั้งหมดล้วนยังคงคุ้นเคย
“ประธานฮ่อ คุณซู”แม่บ้านหวังเห็นซูฉิงก็ใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ
ครั้งนี้ ฮ่อหยุนเฉิงได้ย้ายของคุณซูกลับมาด้วย คุณซูน่าจะไม่ไปไหนแล้ว
“แม่บ้านหวัง ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะคะ”ซูฉิงยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยทักทาย
“ประธานฮ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”แม่บ้านหวังมองออกก็เอ่ยพูด
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “อืม”
ซูฉิงหันหลังเดินกลับไปที่ห้องของเธอ
ภายในห้องถูกทำความสะอาดไม่มีแม้แต่ไรฝุ่น ทั้งหมดยังเหมือนเดิม
ซูฉิงรู้สึกชื่นชม แล้วเดินไปเปิดกระเป๋าที่ฮ่อหยุนเฉิงให้คนไปขนมาจากเฉิงตงฮวาหยวนสองใบ แล้วนำมาจัดเก็บให้เรียบร้อย
“ไม่ใช่บอกว่าเหนื่อยหรอ รีบไปพักผ่อนเถอะ”ฮ่อหยุนเฉิงเแง้มประตูยืนพิงอยู่พร้อมกับมือสองข้างที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ไฟสีเหลืองส้มส่องสะท้อนไปที่ตัวของเขา ทำให้รู้สึกว่าราวกับเห็นเทพบุตรหล่อเหลา
“นายยืนอยู่อย่างนั้น แล้วจะให้ฉันพักผ่อนได้ยังไง “ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างไม่สบอารมณ์
เธอลุกขึ้นยืน แล้วผลักให้ฮ่อหยุนเฉิงออกไป “รีบออกไปเลย!”
อาจจะเพราะว่าซูฉิงใช้แรงมากไปหน่อย ทำให้เธอลื่นไถล ล้มไปอยู่ในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงก็คว้าเข้าที่เอวของเธอ หัวเราะเบาๆ “ฉันเข้าใจได้มั้ยว่า เธออยากจะให้ฉันอุ้มเธอเข้านอน”
ไอ้ผู้ชายบ้านี่!
หน้าหนาจริงๆ!
ซูฉิงใช้แรงเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของเขา “อย่ามาพูดเหลวไหลนะ รีบออกไปเลย!”
ในที่สุดฮ่อหยุนเฉิงก็ถูกผลักออกไปแล้ว ซูฉิงก็รีบปิดประตูลงกลอนทันที
จากนั้นซูฉิงก็เอนตัวลงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
เธอย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วงั้นหรอ
คิดเรื่องไปเรื่องจนเผลอหลับไป
เช้าวันถัดมา
วิลล่าตระกูลสวี
“สวีหว่านเอ๋อร์ เดิมทีนักข่าวถ่ายรูปของเฉินจุนเหยียนกับซูฉิงอยู่ด้วยกันตอนยามวิกาล แต่ว่า…….”ไป๋หลานที่ยืนอยู่ตรงหน้าสวีหว่านเอ๋อร์ แล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า
“เพียงแต่ว่าอะไร”สวีหว่านเอ๋อร์ถามต่อ
ไป๋หลานสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วตอบ”เพียงแต่ว่าประธานฮ่อก็ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน และยังไล่พวกนักข่าวไปด้วย”
ฮ่อหยุนเฉิงงั้นหรอ
แล้วเขาไปอยู่ที่วิลล่าของเฉินจุนเหยียนได้ยังไง?
หรือว่าเพราะว่าซูฉิง?!
แววตาของสวีหว่านเอ๋อร์นั้นเก็บความริษยาไว้ไม่มิด”แล้วยังไงต่อ”
“จากนั้น ประธานฮ่อก็พาซูฉิงกลับไป”
ไป๋หลานมองสวีหว่านเอ๋อร์ที่ตอนนี้มีสีหน้าโกรธโมโห แล้วรีบพูดต่อว่า”ที่จริงแล้ว เรื่องเมื่อคืนใช่ว่าจะไม่ได้อะไร รูปที่พวกนักข่าวถ่ายได้ก็ล้วนส่งมาให้ฉันแล้ว”
ไป๋หลานพูดพร้อมรีบหยิบเอาโทรศัพท์มาเปิดรูปให้สวีหว่านเอ๋อร์ดู “หว่านเอ๋อร์ เธอดูสิ นี่เป็นรูปที่เฉินจุนเหยียนกับซูฉิงอยู่ด้วยกัน”
สวีหว่านเอ๋อร์หรี่ตามอง”ดีมาก เธอช่วยฉันนัดอู๋ชิงหร่านรึยัง?”
ไป๋หลานพยักหน้า “นัดแล้ว ตอนเที่ยงที่ร้านกาแฟ”
แววตาสวีหว่านเอ๋อร์เผยออกมาถึงความแค้น
อู๋ชิงหร่านเพราะว่าถูกซูฉิงเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชน ไม่เพียงทำให้เฉินจุนเหยียนยกเลิกงานแต่งกับเธอเท่านั้น อู๋ชิงหร่านที่มีภาพลักษณ์เป็นถึงนักเปียโนที่มีชื่อเสียงยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
อู๋ชิงหร่านจะต้องเกลียดซูฉิงเข้ากระดูกดำแน่
เพียงแค่เธอแอบพูดใส่ไฟสักหน่อย อู๋ชิงหร่านจะต้องทนไม่ได้จนต้องจัดการกับซูฉิงแน่
เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะให้ซูฉิงตายไม่มีที่ฝังกลบเลย!!
ที่ร้านกาแฟ
สวีหว่านเอ๋อร์กับไป๋หลานตั้งใจมาถึงก่อนหลายนาที แต่อู๋ชิงหร่านก็ยังมาเร็วกว่าพวกเธออีก
“คุณสวี คุณนัดฉันมามีธุระอะไรหรอ”อู๋ชิงหร่านยกแก้วกาแฟขึ้นมาแล้วเอ่ยถาม อย่างตรงไปตรงมา
ตระกูลสวีกับตระกูลอู๋ ก็ถือว่าคบค้ากันมานาน
และอู๋ชิงหร่านกับสวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก
สวีหว่านเอ๋อร์ส่งสายตาไปทางไป๋หลาน ไป๋หลานก็รู้ได้ทันทีแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปแล้วยื่นให้อู๋ชิงหร่านดู”คุณอู๋ คุณดูนี่สิ”
อู๋ชิงหร่านรับโทรศัพท์มาแล้วก้มมองดู
ในรูป เป็นรูปของเฉิงจุนเหยียนกับซูฉิงฉิง
ใบหน้าของอู๋ชิงหร่านก็เปลี่ยนไปทันที
“คุณอู๋ รูปพวกนี้ เป็นเพื่อนของฉันที่เป็นนักข่าวส่งมาให้ฉัน “ไป๋หลานกระแอมแล้วพูดเกินจริง”เมื่อคืน ซูฉิงอยู่ที่วิลล่าของเฉินจุนเหยียนตลอด ชายหญิงโสดสองคนอยู่ด้วยกัน ใครจะรู้ว่าจะทำอะไรกันบ้าง”
อู๋ชิงหร่านเอาโทรศัพท์คืนให้กับไป๋หลาน มองสวีหว่านเอ๋อร์ แล้วหัวเราะเบาๆ “คุณสวี ที่คุณนักฉันมาวันนี้ คงไม่ใช่ว่าจะให้ฉันดูรูปพวกนี้หรอกนะ มีอะไรก็พูดออกมาตามตรงเถอะ”