นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 233 ในใจมีแต่เธอ
“คุณอู๋ ที่ฉันนัดคุณมาวันนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่รู้สึกไม่ยุติธรรมกับคุณก็เท่านั้น “สวีหว่านเอ๋อร์ลูบไล้แก้วกาแฟเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองอู๋ชิงหร่าน
พอเห็นอู๋ชิงหร่านแววตาไหวระริกเล็กน้อย สวีหว่านเอ๋อร์ก็ส่งสายตาไปทางไป๋หลาน
ไป๋หลานก็รู้ตัว แล้วรีบพูดว่า”คุณอู๋ พวกเรารู้สึกไม่คุ้มแทนคุณจริงๆ เลยนะคะ”
“ที่จริงแล้วพวกเราต่างก็รู้แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะซูฉิง
เธอตั้งใจทำให้มีรูปพวกนี้ออกมา แล้วก็โยนความผิดทั้งหมดไปที่คุณ ทำให้ชื่อเสียงของคุณมัวหมอง ทำให้เฉินจุนเหยียนกับคุณต้องยกเลิกงานแต่งงานกัน เป็นอย่างนี้เธอก็จะได้คบหากับเฉินจุนเหยียนอย่างออกหน้าออกตาได้
ซูฉิงนั้นก็ไม่ใช่ทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเธอกับฮ่อหยุนเฉิงก็ยังคลุมเครือดูภายนอกก็เหมือนจะยกเลิกงานหมั้น แต่จริงๆ แล้วยังแอมมาให้ท่าฮ่อหยุนเฉิงไม่หยุดเลยนะ
เฉินจุนเหยียนก็เหลือเกิน คุณดูหน้าเขาเวลาเขามองหน้าซูฉิงสิ ดูออกได้ชัดเจนว่าเฉินจุนเหยียนนนั้นชอบซูฉิง
ซูฉิงยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย คิดอยากจะจับปลาสองมือ ทำให้ผู้ชายมาสยบแทบเท้าของเธอ แพศยาจริงๆ!!”
ทุกประโยคที่ไป๋หลานพูดนั้นล้วนทำให้อู๋ชิงหร่านหน้านิ่งขรึมมากกว่าเดิม
ใช่แล้ว เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นเพราะซูฉิง!
ที่ซูฉิงตั้งใจปล่อยภาพเธอ….ในงานถ่ายทอดสดมอบรางวัลทั่วโลก ทำให้เธออับอายขายหน้า
ทำให้เฉินจุนเหยียนเกลียดเธอ และยกเลิกงานแต่งกับเธอ!
อีกทั้งเธอกว่าจะสะสมชื่อเสียงมาได้จนถึงขนาดนี้ ตอนนี้เส้นทางก็เหมือนจะริบหรี่แล้ว ถูกคนค่อว่า แม้แต่บริษัทที่เซ็นสัญญากับเธอล้วนอยากจะยกเลิกสัญญากับเธอแล้ว
“ซูฉิง ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”พอคิดถึงเรื่องทั้งหมด อู๋ชิงหร่านก็เผยแววตาเคียดแค้นออกมา
“ได้ยินว่าเธอจะถ่ายละครกับเฉินจุนเหยียนเรื่อง《โห้วกงเฟิงเยว่》 ทั้งสองแสดงเป็นคู่รักกันนะ”สวีหว่านเอ๋อร์พูดสื่อเป็นนัย”แต่ว่านะ เรื่องถ่ายละคร ฉากค่อนข้างยิ่งใหญ่ ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย”
อู๋ชิงหร่านได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะ แล้วลุกขึ้นยืน”คุณสวี ขอบคุณ คุณมากนะสำหรับกาแฟนะคะ ฉันมีธุระต้องขอตัวก่อน”
สวีหว่านเอ๋อร์ที่มองเบื้องหลังของอู๋ชิงหร่านที่เดินไกลออกไปด้วยสายตาพอใจ
ถ้าหากเธอเดาไม่ผิดละก็ อู๋ชิงหร่านน่าจะรีบลงมือจัดการกับซูฉิงแน่
เมื่อถึงเวลานั้น เธอก็จะพลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย
ซูฉิง!
เธอคอยดูเถอะ!
ครั้งนี้ เธอจะต้องไม่โชคดีแน่!!!
บริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ป
ซูฉิงมองดูเวลา ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว
งานพิธีเปิดกล้องละคร《โห้วกงเฟิงเยว่》จะเริ่มเวลาบ่ายสองโมง
เธอเก็บของแล้วก็เดินไปที่ห้องทำงานของฮ่อหยุนเฉิง เพื่อลางาน
ในขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปนั้น ซูฉิงก็มาถึงที่ชั้นสิบแปดเป็นชั้นของผู้บริหาร
นึกถึงตอนเช้าที่ซูฉิงบอกกับฮ่อหยุนเฉิงว่าตอนบ่ายเธอจะไปเข้าร่วมงานพิธีเปิดกล้องถ่ายละคร ฮ่อหยุนเฉิงก็มีสีหน้านิ่งขรึมเย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง ทำให้ซูฉิงอดที่จะรู้สึกปวดหัวไม่ได้
ซูฉิงสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วยื่นมือออกไปเคาะประตูห้องทำงาน
“เข้ามา”เสียงนิ่งขรึมของฮ่อหยุนเฉิงดังเล็ดลอดออกมา
จากนั้นซูฉิงก็ผลักประตูเดินเข้าไป
ฮ่อหยุนเฉิงนั่งอยู่เก้าอี้โต๊ะทำงาน สองมือกดแป้นพิมพ์อยู่ แล้วตาก็จ้องไปที่หน้าจอคอมอย่างจริงจัง เหมือนกำลังอยู่ในช่วงเวลาตั้งใจทำงาน
มีคนบอกว่าเวลาผู้ชายตั้งใจทำงานนั้นจะดูหล่อมาก และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
เขาถอดเสื้อสูทออกเอาไปแขวนไว้ที่ราวแขวน เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมออกสองเม็ด เผยให้เห็นแผ่นหน้าอกแน่นที่อยู่ภายใต้เสื้อของเขา
หุ่นรูปร่างที่ดูดี เหมือนกับพระเจ้าบรรดาลให้มา แววตาที่ทำให้คนมองตาไม่กะพริบ
ซูฉิงที่มองดูก็อดที่จะไหวหวั่นไม่ได้
“มองพอรึยัง”ฮ่อหยุนเงยหน้าขึ้นมา ถามเสียงขรึม
“หา…..ไม่นะ…….”ซูฉิงตั้งสติกลับคืนมา รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ทำไม ยังมองไม่พออีกหรอ”ไม่รอให้ซูฉิงพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็พูดแทรกเธอด้วยน้ำเสียงล้อเล่น
ซูฉิงที่เห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงกำลังพูดล้อเธออยู่ ก็จ้องเขาเขม็งแล้วพูด”ฉันไม่ได้มองนาย”
“ใช่หรอ ฉันเห็นหมดแล้วนะ”ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะเบาๆ แล้วก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาหาซูฉิง แล้วฉุดเธอเข้ามาให้ห้องทำงานพร้อมกับปิดประตูลง
อยู่ใกล้กันในระยะประชิดตัวอย่างนี้ ทำให้ซูฉิงหน้าแดงระเรื่อ
เธอรีบผลักฮ่อหยุนเฉิง แล้วกระแอมเสียงพูดด้วยน้ำเสียงขรึม”ฉันมาเพื่อจะมาขอลางาน”
“จะไปเข้าร่วมงานพิธีเปิดกล้องงั้นหรอ “ฮ่อหยุนเฉิงก้มหน้ามองซูฉิงแล้วถามหน้านิ่ง
“ใช่ “ซูฉิงพยักหน้า
“ฉันจะไปส่งเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยออกมา
ซูฉิงถามอย่างแปลกใจ “ทำไม นายไม่คัดค้านหรอ”
เมื่อเช้าตอนที่คุยกัน เขายังทำหน้าเย็นชาไม่เห็นด้วยอยู่เลย
ทำไมอยู่ดีๆ เปลี่ยนความคิดซะละ
แล้วยังจะไปส่งเธออีก
เขากินยาผิดขวดรึไง
เห็นซูฉิงทำหน้าแปลกใจ ฮ่อหยุนเฉิงก็อมยิ้มมองเธอพร้อมกับโน้มตัวเข้าไปหาเธอ กระซิบข้างๆ หูของเธอว่า”ไม่ใช่ต้องทำตัวให้ดีหรอ เธอถึงจะได้รีบตกลงแต่งงานกับฉัน ถูกมั้ย”
เสียงแหบพร่าน่าดึงดูดของเขา และบวกกับเสียงที่ลากยาวที่ดูเจ้าเล่ห์นั้น
ทำให้หน้าซูฉิงแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด
ใบหน้าเขินอายของซูฉิงตกอยู่ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิง จนเขาต้องกลืนน้ำลาย
วินาทีต่อมา เขาก้มลงมาแล้วจูบที่ริมฝีปากอมชมพูของเธอ
ฮ่อหยุนเฉิงเริ่มจูบอย่างดุดันขึ้นเรื่อยๆ ในหัวของซูฉิงตอนนี้เหมือนถูกสั่งให้หยุดทำงาน
เขาเอะอะก็จูบเอะอะก็จูบเธอจะได้มั้ย
ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่คุ้นเคยทำให้เขาจูบยิ่งดุดัน
แววตาของเขาจ้องเข้าไปในสาบเสื้อพร้อมกับนิ้วมือยาวล้วงเข้าไปในเสื้อของซูฉิง
ความร้อนจากมือของฮ่อหยุนเฉิงแผ่ซ่านออกมา ซูฉิงที่หายใจหอบก็รู้ตัวและจับเข้าที่มือเขาของใช้แรงปัดมือของเขาออก”อย่าทำอย่างนี้!”
“ซูฉิง จะต้องให้ทำยังไง เธอถึงจะตกลงกลับมาอยู่ข้างๆ ฉัน “ฮ่อหยุนเฉิงจ้องมองซูฉิงทอประกายที่อยู่ตรงหน้า
เขานั้นอยากจะได้เธอกลับมาอยู่ข้างๆ เขาแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย
ตั้งแต่เล็กจนโต เพียงแค่เขาอยากได้อะไร เขาก็ต้องได้มา
แม้แต่ผู้หญิงก็ตาม ล้วนอยากจะขึ้นเตียงกับเขาทั้งนั้น แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยเหลียวแลพวกเธอเลย
แต่ก่อน ในใจของเขามีแต่ถังถัง คิดแต่จะตามหาถังถังให้เจอ
แต่หลังจากที่ซูฉิงมาที่บ้านตระกูลฮ่อ ในใจของเขาก็มีแต่ซูฉิง และไม่เหลือที่ไว้ให้ใครแล้ว รวมทั้งถังถังด้วย
เขาต้องการเธอ
อยากอยู่กับเธอ มีลูกด้วยกัน ใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกัน
เขามั่นใจว่า สามารถที่จะปกป้องเธอได้ตลอดชีวิต ให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก
แต่ว่าซูฉิงก็ปฏิเสธเขาหลายต่อหลายครั้ง
แววตานิ่งขรึมของฮ่อหยุนเฉิงจ้องไปที่หน้าของซูฉิง สองมือจับเข้าที่ไหล่ทั้งสองข้าง คิ้วเข้มที่สั่นไหวมองซูฉิงอยู่ “ซูฉิง ตกลงกับฉันได้มั้ย”