นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 284 เธอยังมีตัวตนอะไรอีก
ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นท่าทางของเธอแววตาสลดลงไป แล้วก็พูด”เธอเข้าใจผิดแล้ว”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ”ฉันแค่อยากจะเช็ดเม็ดข้าวที่อยู่ติดอยู่มุมปากให้เธอ”
อะไรนะ
ซูฉิงอึ้ง แล้วก็ยกมือขึ้นเช็ดปาก และก็มีเม็ดข้าวติดอยู่จริงๆ ด้วย
ดังนั้น เธอเข้าใจเขาผิดแล้วงั้นหรอ?
ซูฉืงหน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความอาย
เธอรีบไอกระแอมเบาๆ แล้วพูดเปลี่ยนเรื่อง”ฉันจะนอนแล้ว”
พอพูดจบซูฉิงก็ล้มตัวนอนทันที แล้วก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ฮ่อหยุนเฉิง แล้วเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
เธอที่กำลังจะนอนหลับ ทันใดนั้นมือใหญ่ก็ลูบที่เอวของเธอแล้วก็กอดเธอจากด้านหลัง
เธอที่ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น
“นายทำอะไร”ซูฉิงที่ทำตัวแข็งทื่อ ยกแขนขึ้นดิ้น
จากนั้นก็ได้ยินเสียงแหบพร่าดังมาจากด้านหลัง “อย่าขยับ ฉันก็ง่วง ฉันขอยืมเตียงเธอนอนสักครู่ ดูแลเธอมาสองวันฉันก็นอนไม่หลับสนิทเลย”
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้น ก็พลิกตัวหันกลับมา
เธอกับเขาสบตากัน ทั้งสองคนที่หายใจรดกัน บรรยากาศเวลานี้เหมือนกับอยู่กับคู่รักและหลงอยู่ในเสน่ห์ของกันและกัน
ซูฉิงมองใบหน้าที่หล่อสมบูรณ์แบบที่อยู่ตรงหน้า ใต้ตาของเขานั้นดูคล้ำจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ทันได้สังเกต
จริงๆ แล้ว สองวันมานี้ที่เธอสลบไป ล้วนมีฮ่อหยุนเฉิงที่คอยเฝ้าทั้งวันทั้งคืน เพื่อคอยดูแลเธอ
เขาพูดมาอย่างนี้แล้ว ถ้าเธอยังจะผลักเขาลงจากเตียง เธอก็คงจะเป็นคนใจร้ายไส้ระกำเลือดเย็นจริงๆ
ซูฉิงคิดอยู่สักครู่ แล้วพูดเสียงเรียบ”ได้ แต่ว่า แต่นายห้ามทำอะไรนะ!”
“โอเค”ฮ่อหยุนเฉิงตอบรับปาก
น้ำเสียงของเขาที่ค่อยๆ เบาๆ ลง จากนั้นก็ได้ยินแต่เสียงลมหายใจ
ทำไมถึงได้นอนหลับไวอย่างนี้
ซูฉิงรู้สึกงงงวย เธอที่รู้สึกง่วงอยู่แล้ว แต่พอได้มานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา นอนพิงหน้าอกแกร่งที่ร้อนของเขา ก็ไม่ง่วงเลย
ซูฉิงเงยหน้าขึ้นสำรวจใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของฮ่อหยุนเฉิง ตอนตื่นเขาก็มักทำหน้าขรึม ยิ่งบวกกับแววตาที่เย็นชานั้น ยิ่งทำให้เขาดูเย็นชา จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้
ตอนนี้เขานอนหลับไปแล้ว ใบหน้าที่เรียบนิ่ง ที่ดูเหนื่อยล้ากลับยังคงดูหล่อเหลาน่าหลงใหล
จับพลัดจับผลู ซูฉิงยกมือขึ้นมาปัดตรงหน้าผากของเขา จากนั้นก็มองมาที่ริมฝีปากบางของเขา
นึกถึงทุกครั้งที่ทั้งสองจูบกัน ทำให้เธอหูแดงขึ้นมา
ซูฉิงก็คอหดก็รีบปิดตา
ถ้าหากดูต่อไป เธอจะต้องมีความผิดแน่!
หยุดๆ หยุดๆ
ซูฉิงสูดลมหายใจเข้า เพื่อควบคุมใจที่เต้นรัว แล้วรีบหลับตานอน
และหลายวันต่อมา ซูฉิงก็นอนพักผ่อนอยู่โรงพยาบาลอย่างสบายใจ
ฮ่อหยุนเฉิงยังคงทำงานมากกว่าพยาบาลที่ทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูแลเธอไม่ห่างไปไหน
เขาก็เอางานของบริษัทมาทำที่โรงพยาบาลด้วย
และช่วงเวลานี้ อู๋ชิงหร่านยังไม่มีข่าวคราว
แม้แต่แอนโธนี่ก็ยังสืบหาไม่เจอร่องรอยของเธอ
ก็ไม่รู้ว่ายันบ้านี่ไปหลบอยู่ที่ไหน
ซูฉิงเลิกคิ้วเป็นปม ฮ่อหยุนเฉิงเข้ามานั่งข้างๆ เธอ หันหน้ามามองเธอ “กำลังคิดอะไรอยู่หรอ”
“อ้อ ไม่มีอะไร “ซูฉิงดึงสติกลับมา “พวกนายยังหาอู๋ชิงหร่านไม่เจอหรอ”
“ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าว”ฮ่อหยุนเฉิงตอยเสียงเรียบ
เขายื่นมือมานวดหว่างคิ้วของซูฉิง แล้วพูดข้างๆ หูของเธอ “วางใจเถอะ ฉันจะปกป้องเธอเอง จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเธอได้!”
น้ำเสียงเบาดังชวนจั๊กจี้หู ราวกับเสียงเปียโนที่ไพเราะ กลับฟังดูมั่นคงมากจนทำให้ซูฉิงรู้สึกซึ้งใจและอบอุ่นใจขึ้นมา
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาฮ่อหยุนเฉิง”ขอบคุณนายนะ ฮ่อหยุนเฉิง”
“ปกป้องผู้หญิงที่ฉันรัก มันก็เป็นเรื่องที่ฉันควรจะทำ “แววตาที่มีเสน่ห์ของฮ่อหยุนเฉิงเผยความจริงจังพูดออกมา
ผู้หญิงที่ฉันรัก………
ใบหน้าของซูฉิงก็เห่อแดงระเรื่อขึ้นมา แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา”ฉันออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่มั้ย”
มีฮ่อหยุนเฉิงคอยดูแลมาหลายวัน ซูฉิงก็ฟื้นร่างกายหายดีแล้ว
เธออยากจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ที่จริงเธอคิดว่าเธอไม่เป็นอะไรตั้งแต่แรกแล้ว แต่ฮ่อหยุนเฉิงที่ไม่วางใจ อยากให้เธออยู่โรงพยาบาลต่ออีก
ฮ่อหยุนเฉิงมองเธอแล้วยิ้ม”คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
“ดีจังเลย!”ซูฉิงถอนหายใจออกมา
ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องนอนเบื่ออยู่ในห้องพักผู้ป่วยนี้แล้ว!
เช้าวันต่อมา วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม
ซูฉิงนั่งอยู่บนเตียง มองฮ่อหยุนเฉิงที่ช่วยเธอเก็บของ ทั้งกินแอปเปิลทั้งถอนหายใจ”ในที่สุดก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดีจริงจังเลย! ช่วงเวลานี้ต้องขอบคุณนายนะที่คอยดูแลฉัน”
ฮ่อหยุนเฉิงหยุดชะงักแล้วหันกลับมามองซูฉิงนิ่ง พร้อมกับพูดเสียงขรึม”แล้วเธอจะขอบคุณฉันยังไง”
“นายอยากให้ฉันขอบคุณนายงั้นหรอ”ซูฉิงย้อนถาม
ฮ่อหยุนเฉิงที่เก็บของเสร็จแล้ว ก็ยืดตัวขึ้น แววตานิ่งพูดด้วยน้ำเสียงล้อ”ฉันไม่ถือนะที่เธอจะมาอยู่กับฉันเพื่อใช้หนี่”
ซูฉิง:………..
ยังมาทำเป็นพูดดีอีก
“ช่างเถอะ ฉันเลือกที่จะติดค้างนายแล้วค่อยใช้ทีหลัง “ซูฉิงลุกขึ้นแล้วเดินตามฮ่อหยุนเฉิงออกไป
และพอเดินออกจากหน้าประตูโรงพยาบาล โทรศัพท์ของซูฉิงก็ดังขึ้น
เธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาดู ก็เป็นยวี๋น่าโทรมา
ซูฉิงกดรับโทรศัพท์”ยวี๋น่า โทรหาฉันมีอะไรหรอ”
“ฉันพึ่งจองตั๋วเครื่องบินเสร็จ พรุ่งนี้ฉันจะถึงเมืองA ” ปลายสายเป็นเสียงของยวี๋น่าที่พูด
ซูฉิงพยักหน้า “ถึงกี่โมง พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอ”
“พรุ่งนี้สองทุ่ม”ยวี๋น่าตอบกลับมา
ซูฉิงยิ้มกว้าง”พรุ่งนี้เจอกัน!”
พอวางสาย ฮ่อหยุนเฉิงก็หันมามองและถามเธอ”ยวี๋น่าจะมาพรุ่งนี้หรอ”
“ใช่ “ซูฉิงตอบเสียบเบา
ฮ่อหยุนเฉิงพาซูฉิงมาขึ้นรถ แล้วช่วยรัดเข็มขัดนิรภัยให้กับซูฉิง แล้วเอ่ยปากถาม”เกิดเรื่องกับสตูดิโอของพวกเธอหรอ”
“ก็ไม่มีอะไร เป็นเรื่องการแข่งขันออกแบบแฟชั่นปารีสน่ะ เธอจะมาคุยหารือกับฉัน”ซูฉิงตอบตามความจริง
ฮ่อหยุนเฉิงกัดริมฝีปาก แล้วถาม”เดือนหน้าเธอจะต้องไปปารีส เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหรอ”
“แล้วคิดว่าไงละ”ซูฉิงพิงไปกับเบาะ แล้วย้อนถาม
ห้องเสื้อSunsanมาท้าแข่งleo ของเรา เธอก็จะทำตัวเหมือนเต่าหดหัวไม่ได้
ซูฉิงมั่นใจว่าของแค่เธอออกตัวเอง จะต้องฟาดฟันไม่เหลือซากแน่!
“ไปปารีสไกลขนาดนั้น เธอไม่คิดถึงฉันหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงถามด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม
ซูฉิง:………
ไอ้โรคหลงตัวเองของเขานี่ เมื่อไหร่จะรักษาหายสักที
“แล้วทำไมฉันต้องคิดถึงนายด้วย”ซูฉิงพูดเสียงขรึม
ฮ่อหยุนเฉิงกะพริบตาหรี่ลง แล้วเหล่มองเธอ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเรื่องถาม”ซูฉิง เธอยังมีตัวตนอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีก”
ซูฉิงอ้ำอึ้ง แล้วก็ยิ้มออกมา”นายลองทายดูสิ”
“ฉันรอให้เธอบอกฉัน”ฮ่อหยุนเฉิงยักคิ้วอมยิ้มมองซูฉิง
ซูฉิงเม้มปาก “งั้นนายก็รอต่อไปก็แล้วกัน!”
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะเบาๆ ซูฉิงพูดมาอย่างนี้ ก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับแล้วว่าเธอยังมีตัวตน ที่เขายังไม่รู้อีก
อืม ผู้หญิงคนนี้ มักจะทำให้เขาเซอร์ไพรส์ตลอด
เขานี่อยากจะรู้แล้วสิ………