นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 335 ฉันสามารถตายเพื่อฮ่อหยุนเฉิงได้
สวีหว่านเอ๋อร์ก็แค่เกิดมาในชาติตระกูลที่ดี เกิดมาในตระกูลสวีที่ร่ำรวย นอกจากถูกเลี้ยงดูแบบตามใจ นิสัยเอาแต่ใจ อย่างอื่นไม่มีอะไรดีเลย!
เพื่อเชื่อมปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลสวี ไป๋หลานต้องจำทนคอยประจบสวีหว่านเอ๋อร์อย่างจนใจ คอยติดตามสวีหว่านเอ๋อร์ เรียกเมื่อไหร่ก็ต้องมา ทำตามที่สวีหว่านเอ๋อร์ต้องการ แต่สวีหว่านเอ๋อร์ไม่เคยให้ความสำคัญกับเธอเลย
ไม่เพียงต่อว่าเธอบ่อยๆ มีเรื่องอะไรก็โยนมาให้เธอหมด แม้แต่เรื่องที่ไล่ซูฉิงออกไปจากชีวิตฮ่อหยุนเฉิง จนคิดแผนการให้ซูฉิงอยู่กับเฉินจุนเหยียนอยู่ด้วยกัน
เฉินจุนเหยียนนั้นเป็นผู้ชายที่ไป๋หลานหลงรัก เธอนั้นแอบรักผู้ชายคนนี้มาตั้งนานแล้ว
เธอจะทนนิ่งดูดายเห็นเฉินจุนเหยียนถูกเอามาใช้ในแผนการของสวีหว่านเอ๋อร์ได้ยังไง
ดังนั้นไป๋หลานเลยต้องแอบทำอะไรสักอย่าง
คืนวันนั้น เรื่องที่สวีหว่านเอ๋อร์นอนกับผู้ชายคนอื่น ก็เป็นไป๋หล่านที่ส่งรูปให้กับสื่อ และแอบปลุกกระแสให้เรื่องไม่ซาลงไปง่ายๆ
เพียงแต่ว่าไป๋หลานนั้นทำอย่างระวัง เพราะเธอรู้ว่า ถ้าหากสวีหว่านเอ๋อร์รู้เรื่องเข้า งั้นเธอก็จบเห่
“ถ้าหากฉันขู่ว่าจะฆ่าตัวตายละ เธอคิดว่าจะช่วยได้มั้ย “สวีหว่านเอ๋อร์ที่ถูกอารมณ์โกรธครอบงำ และถูกคำพูดยุโยงจากไป๋หลานอีก และเธอคิดว่าก็มีเหตุผล
ไป๋หลานเม้มปาก ทำเป็นพูดอย่างเป็นกังวลว่า “น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ว่ามันอันตรายนะ หว่านเอ๋อร์เธออย่าทำอย่างนี้เลย”
“ขอเพียงได้เขามา จะอันตรายแค่ไหนแล้วยังไง “สวีหว่านเอ๋อร์พูดออกมาด้วยแววตาดึงดันอยากจะได้ก็ต้องได้
คำพูดของไป๋หลานเรียกสติเธอ ในเมื่อถังรั่วอิงใช้วิธีน่าสงสารเรียกร้องความสนใจจากฮ่อหยุนเฉิงแล้วทำไมเธอจะทำไม่ได้ละ
ไป๋หลานที่เห็นว่าเป็นไปตามแผนก็แอบยิ้ม
จะฆ่าตัวตายงั้นหรอ
มีแต่จะทำให้ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งเกลียดสวีหว่านเอ๋อร๋
ซูฉิงเกิดในชาติตระกูลดีแล้วไง
ก็ยังถูกเธอชักจูงไปทางไหนก็ได้มั้ย
พอกลับมาถึงวิลล่าตระกูลสวี สวีหว่านเอ๋อร์ก็กลับมาที่ห้องของตัวเองแล้วก็ขังตัวอยู่ข้างใน
จนถึงช่วงเวลาอาหารเย็น สวีหว่านเอ๋อรก็ยังไม่ลงมา
“หว่านเอ๋อร์ล่ะ “คุณท่านสวีเห็นว่าสวีหว่านเอ๋อร์ลงมาช้าก็คิ้วขมวดถามสวีมู่หยาง
สวีมู่หย่างเงยหน้าขึ้น” พอกลับมาก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรครับ”
“ไปเรียกคุณหนูมากินข้าว “คุณท่านสวีหันมองพ่อบ้านแล้วเอ่ยสั่งเสียงเรียบ
“ครับ คุณท่าน”แม่บ้านรับคำแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง
เขาเคาะประตูห้องสวีหว่านเอ๋อร ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ
“คุณหนูครับ ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วครับ “พ่อบ้านเคาะอยู่หลายนาที แต่สวีหว่านเอ๋อร์กลับไม่ตอบเลย
เขาเลยทำได้เพียงแค่กลับลงไปที่ห้องอาหาร เพื่อรายงานคุณท่านสวี”ห้องของคุณหนูล็อกจากข้างใน ผมเคาะอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับครับ ไม่รู้ว่านอนหลับรึเปล่า”
“เย็นขนาดนี้แล้ว น่าจะไม่น่าจะนอนนะ “สวีมู่หยางนวดหว่างคิ้ว เหมือนจะรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
ตั้งแต่งานเลี้ยงคืนวันครบรอบห้าสิบปีบริษัทตระกูลสวีกรุ๊ปก็ดูเศร้าหงอย
และยิ่งวันนี้วิ่งแจ้นไปหาฮ่อหยุนเฉิงด้วยตัวเอง พอกลับมาก็เก็บตัวอยู่คนเดียว
ไม่บอกก็รู้ว่าจะต้องเป็นเพราะฮ่อหยุนเฉิงแน่
สวีมู่หยางใช้เท้าคิดก็ยังคิดได้เลยว่าฮ่อหยุนเฉิงจะเย็นชากับสวีหว่านเอ๋อร์ยังไง
เพียงแต่ว่านอนสาวแก้วตาดวงใจของเขาอยากจะได้ฮ่อหยุนเฉิงให้ได้
สวีมู่หย่างรู้สึกเป็นห่วง เลยลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
“หว่านเอ๋อร์ เธอทำอะไรอยู่ รีบเปิดประตูเร็ว “สวีมู่หยางเคาะประตูแรงๆ
แต่ว่าภายในห้องก็ยังเงียบ แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
สวีมู่หยางก็รู้สึกใจคอไม่ดียิ่งกว่าเดิม แล้วก็ไปหากุญแจสำรองมาไขประตู แต่ว่าประตูล็อกจากข้างใน
ยิ่งทำให้สวีมู่หยางร้อนใจพยายามพังประตู
“หว่านเอ๋อร์ หว่านเอ๋อร์! “สวีมู่หยางมองเข้าไปก็ไม่เห็นคนอยู่ในห้อง
สวีหว่านเอ๋อร์ไม่อยู่หรอ
เป็นไปไม่ได้!
เมื่อตอนบ่ายเขาก็เห็นสวีหว่านเอ๋อร์กลับมาแล้วเข้าห้องไป จากนั้นก็ไม่เห็นเธอออกมาเลย อีกทั้งห้องยังล็อกจากข้างในอีก
“หว่านเอ๋อร์ เธออยู่ที่ไหน?”สวีมู่หยางที่เข้าไปในห้องก็มองหาสวีหว่านเอ๋อร์รอบๆ พร้อมมั้งตะโกนเรียก
เขาเดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำ ก็เห็นประตูปิดอยู่ ก็เดินไปเปิดออก
สวีมู่หยางมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจอึ้งตาค้าง
เห็นสวีหว่านเอ๋อร์นอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ แขนข้างขวาของเธอมีแผลกรีดไปทางยาว และยังที่มีเลือดไหลออกมาอยู่ จนทำให้อ่างอาบน้ำสีขาวกลายเป็นสีแดง
บนพื้น ก็เห็นมีดปอกผลไม้ร่วงอยู่ ที่เปื้อนไปด้วยเลือด จนน่าตกใจ
“หว่านเอ๋อร์ เธอเป็นอะไรไป “สวีมู่หยางก้าวเดินเข้าไปหาอย่างร้อนใจ แล้วก็กดตรงบาดแผลของสวีหว่านเอ๋อร์ไว้
สวีหว่นเอ๋อร์พยายามลืมตาขึ้น ด้วยสีหน้าซีด”พี่คะ ฉันสามารถตายเพื่อฮ่อหยุนเฉิงได้”
“เธอทำไมเธอถึงโง่อย่างนี้นะ!!”สวีมู่หยางพูดอย่างสงสาร
เขารู้ว่าสวีหว่านเอ๋อร์รักฮ่อหยุนเฉิง แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอ
รักแต่ไม่ได้ครอบครอง ความรู้สึกนี้เจ็บปวดมาก
แต่คิดไม่ถึงว่าสวีหว่านเอ๋อร์จะฆ่าตัวตายเพื่อฮ่อหยุนเฉิง!
เขารีบอุ้มสวีหว่านเอ๋อร์ขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา”หว่านเอ๋อร์ เธอทนหน่อยนะ พี่จะพาเธอไปโรงพยาบาล!”
“พี่คะ พี่อย่าลืมบอกฮ่อหยุนเฉิงนะ…….ฉันรักเขามากกว่าชีวิตของฉันเอง “สวีหว่านเอ๋อร์ที่พูดอย่างยากลำบาก แล้วก็ค่อยๆ หลับตาลงหมดสติ
“หว่านเอ๋อร์! เธอตายไม่ได้นะ!”
สวีมู่หยางที่อุ้มสวีหว่านเอ๋อร์ลงมาชั้นล่าง คุณท่านสวีกับคนใช้ที่ได้ยินเสียงและได้เห็นต่างก็ตกใจตาค้าง
พ่อบ้านรีบเข้ามาช่วยห้ามเลือดไว้ เพื่อป้องกันไม่ใช้เสียเลือดมาก
สวีมู่หยางก็ขับรถพาสวีหว่านเอ๋อร์ไปที่โรงพยาบาล
“สวีหว่านเอ๋อร์เสียเลือดมาก อันตรายมาก “หลังจากที่คุณหมอตรวจดูอาการแล้วก็บอกเสียงขรึมบอก
สวีมู่หยางเข้าไปกระชากเสื้อหมอ แล้วพูดด้วยตาแดงก่ำ”ไม่ว่าจะต้องจ่ายมากแค่ไหน พวกคุณจะต้องช่วยหว่านเอ๋อร์น้องสาวของผมให้ได้!”
“ครับ ประธานสวี!” คุณหมอเอ่ยตอบอย่างกลัวๆ
สวีมู่อยางที่มองสวีหว่านเอ๋อร์ที่กำลังอยู่ในการได้รับการช่วยชีวิต ก็รู้สึกเจ็บเหมือนกับมีดกรีดลงไปในหัวใจ
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ถึงขนาดนี้ ล้วนเพราะว่าฮ่อหยุนเฉิง
ถ้าหากว่าฮ่อหยุนเแิงดีสักหน่อย สวีหว่านเอ๋อร์ก็คงไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอย่างนี้
สวีมู่หยางคิดอยู่สักครู่ก็โทรหาฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงที่พึ่งจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จ และกำลังจะไปบริจาคขอให้ผู้ประสบภัยที่เมือง Y ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่าเป็นสวีมู่หยางโทรมา
ฮ่อหยุนเฉิงกดรับสาย แล้วถามเสียงขรึม “สวีมู่หยาง คุณโทรหาผมมีธุระอะไร ”
“หว่านเอ๋อร์ฆ่าตัวตาย เพราะคุณ”สวีมู่หยางพูดด้วยน้ำเสียงติดมีน้ำโห
ฮ่อหยุนเฉิงตกใจอึ้ง
สวีหว่านเอ๋อร์ฆ่าตัวตายงั้นหรอ
เธอบ้าไปแล้ว!
สวีมู่หยางที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ปลายสายเงียบก็ควบคุมอารมณ์โกรธไว้แล้วพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ “ตอนนี้หว่านเอ๋อร์กำลังอยู่ที่แผนกฉุกเฉินที่โรงพยาบาล คุณมาเยี่ยมเธอหน่อยเถอะ”