นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 362 ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
หลังจากวางสายโทนศัพท์จากซูฉิง แอนโธนี่จึงจัดการวาดลวดลายลงบนแป้นพิมพ์และหาข้อมูลของคนที่อยู่เบื้องหลังและต้องการทำลายซูฉิง
เมื่อเขาเข้ามาถึงหน้าหลักของเว็บไซต์เขาก็พบกับรหัสแปลกๆและเครื่องหมายแจ้งเตือนสีแดงมากมายบนหน้าเว็บ เขาขมวดคิ้วงุนงงทันทีเมื่อเห็นวิดิโอและข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ลงบนหน้าเว็บ เมื่อลองคลิกเปิดข้อมูลเหล่านั้นกลับไม่พบอะไรนอกจากหน้าจอสีดำสนิทที่ปรากฏขึ้น
เขากวาดตามองทั่วหน้าเว็บไซต์ก็พบกับอิโมชั่นหนึ่งตัวที่แสดงท่าทางสะใจราวกับกำลังเยาะเย้ยพวกเขาอยู่
แอนโธนี่ป้อนข้อมูลบางอย่างเพื่อเจาะเข้าไปยังโปรแกรมและหาข้อมูลที่มาที่ไปของไวรัสไซเบอร์เหล่านี้ ใช้เวลาค้นหาเพียงครู่นึงก็ได้ทราบว่ามันถูกปล่อยออกมาจากแฮกเกอร์คนนึงที่มีฝีมือธรรมดา แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของผู้ประสงค์ร้ายคนนั้นยังเทียบเท่าเขาไม่ได้
แอนโธนี่ใช้เวลาประมาณเกือบยี่สิบนาทีก็สามารถเจาะข้อมูลของคนที่พยายามบุกรุกเว็บไซต์ได้ และเขาจึบรีบต่อสายหาซูฉิงทันที
“พี่เอด้า ผมได้ข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว คนที่ทำการแฮ็กข้อมูลเว็บไซต์บริษัทของพี่คือแฮ็กเกอร์ที่ชื่อว่า Ling คนนี้ฝีมือที่ว่าไม่เลวเลย ผมได้ค้นหาประวัติของมันมาพบว่ามันเคยได้รางวัลชนะเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติเมื่อสามปีก่อน ”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว วันนี้ก็รบกวนนายมามากพอแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”
เมื่อซูฉิงได้ฟังข้อมูลจากแอนโธนี่ เธอจึงกวาดสายตามองไปยังรหัสแปลกๆที่ยังคงปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์แล้วจึงเผยอยิ้มออกมาชั่วขณะ
ผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันแฮกเกอร์ระดับนานาชาติยังงั้นเหรอ?
งั้นคงต้องมาประลองความสามารถกับฉันซะหน่อยแล้วล่ะ
หลังจากวางสายจากแอนโธนี่เรียบร้อยแล้ว ซูฉิงก็จัดการวางมือลงบนแป้นพิมพ์และวาดลวดลายพร้อมกับความว่องไวในการกดปลดล็อกรหัสบ้าๆนั่นออกจากหน้าเว็บไซต์ ใช้เวลาเพียงไม่นานเว็บไซต์ของเธอก็ถูกปลดล็อกจากไวรัสไซเบอร์
เมื่อเห็นถึงหน้าเว็บไซต์ที่คืนสภาพกลับมาเป็นปกติ ซูฉิงก็ยกยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ แต่เธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้หรอก ในเมื่ออีกฝ่ายทำการแฮกข้อมูลเธอ เธอก็จะแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์ของฝ่ายนั้นกลับ
เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่ชื่อ Ling นั้นจะแน่ซักแค่ไหน
ถึงแม้ระบบรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของฝ่ายนั้นจะค่อนข้างซับซ้อน แต่ซูฉิงก็ยังสามารถเจาะข้อมูลเข้าไปได้
เวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ซูฉิงได้จัดการบล็อกระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ Ling ที่ถึงแม้อีกฝ่ายจะใช้คอมพิวเตอร์ทำงานปกติยังแทบจะใช้งานไม่ได้เลย
เมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จสรรพ ซูฉิงต่อสายกลับไปหาแอนโธนี่อีกครั้ง “แอนโธนี่ เมื่อสักครู่ฉันได้ค้นหาเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของ Ling นายรีบไปหาเขาและพาเขามาหาฉัน ฉันคิดว่าเราสามารถร่วมมือกันได้”
ซูฉิงเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาบนผนัง ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง เธอยังมีเวลาอีกพอสมควรในการจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
แอนโธนี่ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ได้มาปรากฏตัวที่บ้านของซูฉิงพร้อมกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง สายตาของเด็กหนุ่มคนนั้นมองตรงมายังร่างของซูฉิงด้วยความทึ่ง
หญิงสาวร่างบางคนนี้เหรอที่สามารถบล็อกข้อมูลและแทรกแซงเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของเขาได้?
ซูฉิงเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหนุ่มวัยรุ่นพร้อมกับยื่นมือออกมา ศีรษะคล้อยต่ำลงเล็กน้อยเป็นการทักทายฝ่ายตรงข้าม “สวัสดี ขอโทษด้วยนะที่เมื่อกี้ทำให้ระบบคอมของนายมีปัญหา”
หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นเองก็ยื่นมาออกมาเช่นกัน สีหน้าท่าทางที่อีกฝ่ายมองมายังซูฉิงนั้นเต็มไปด้วยความนับถือในความเก่งของเธอ “ฉันคือ Ling เรื่องที่เธออยากให้ฉันทำฉันได้ฟังจากปากของผู้ชายคนนี้หมดแล้ว ฉันยินดีจะร่วมมือกับเธอ แต่ฉันมีเรื่องที่แปลกใจมากๆเรื่องนึง โปรแกรมที่ฉันเขียนขึ้นมามันเป็นโปรแกรมที่สมบูรณ์แบบและยากที่คนนอกจะเข้าถึงได้ แต่เธอใช้เวลาสั้นๆก็สามารถทำลายและล็อกการใช้งานคอมพิวเตอร์ของฉันได้ เธอทำมันได้ยังไง?”
ซูฉิงเผยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ถ้าเรื่องที่เราจะทำมันสำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะบอกนาย”
หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นตอบรับด้วยความพอใจ เขาจัดการยกหูโทรศัพท์หาไป๋หลานและจัดการใช้เครื่องแปลงเสียงเพื่อใช้สนทนากับอีกฝ่าย “เรื่องที่คุณให้ผมไปทำ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เว็บไซต์ของพวกมันถูกโจมตีอย่างหนัก ผมหวังว่าคุณจะทำตามที่พูดไว้โดยเร็ว จัดการโอนเงินที่เหลือทั้งหมดมาในบัญชีของผมตอนนี้”
ซูฉิงและแอนโธนี่ลอบสบตากันอย่างผู้ที่กอบกุมชัยชนะ
เก้าโมงของเช้าวันต่อมา ณ การเปิดงาน ” พ่าหวังเปี๋ยจี ”
บริเวณงานพรั่งพรูไปด้วยเหล่าคนดังมากหน้าหลายตาทั้งบุคคลในวงการบันเทิงและบุคคลในแวดวงธุรกิจที่ต่างพากันมารอเข้าร่วมพิธีเปิดงาน
และในเวลานี้สวีหว่านเอ๋อร์และไป๋หลานเองก็ถึงบริเวณที่จัดงานแล้วเช่นกัน
สวีหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ท่ามกลางหมู่คนจำนวนมากมาย ใบหน้าแสยะยิ้มพอใจเมื่อมองตรงไปยังพิธีกรที่กำลังเตรียมตัวกล่าวเปิดงาน สายตาคมเหลือบไปมองจอมอนิเตอร์ยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะนำชัยชนะและความสะใจมาให้เธอในอีกไม่ช้า
ฉันก็อยากจะรู้ว่าหลังจากผ่านวันนี้ไปเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ซูฉิง!
“สวีหว่านเอ๋อร์ เธอรอดูได้เลย เมื่อวานLingบอกฉันว่าเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าซูฉิงจะต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าทุกคนในวันนี่แน่!”
ไป๋หลานเดินมาขนาบข้างสวีหว่านเอ๋อร์และกล่าวกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสะใจ
อีกไม่นานพิธีการเปิดงานก็จะเริ่มขึ้นแล้ว พิธีกรเริ่มกล่าวประกาศเปิดงาน เหล่าบรรดาผู้ร่วมงานต่างพากันเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าเวทีใหญ่ ซูฉิงและเฉินจุนเหยียนขึ้นไปกล่าวเปิดงานพิธีต่อหน้าสื่อมวลชนและบรรดานักธุรกิจมากหน้าหลายตา จวบจนถึงตอนที้เผยแพร่วิดิโอและข้อมูลผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ยักษ์ใหญ่ก็กลับไม่พบความปกติใดๆ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นหาได้ติดขัดอันใด
ใบหน้าของสวีหว่านเอ๋อร์ที่เคยกราดยิ้มเริ่มหุบลงอย่างช้าๆ สายตาเยือกเย็นจ้องตรงไปยังร่างบางของซูฉิงที่กำลังถูกสื่อมวลชนรายล้อมและสัมภาษณ์อยู่ เมื่อเห็นภาพนั้นสวีหว่านเอ๋อร์กลับรู้สึกเจ็บใจและแค้นเคืองอีกฝ่ายจนเล็บมือจิกเกร็งลงบนกระเป๋าหนังข้างตัวอย่างแรง
ไป๋หลานเองก็ขมวดคิ้วงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ราบรื่นไร้ที่ติ ไหนLingบอกว่าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไง
สวีหว่านเอ๋อร์กัดฟันแน่น ใบหน้าสวยหันกลับไปถามไป๋หลานด้วยเสียงที่พยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธที่ปะทุอยู่ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ไหนเธอบอกว่าคนของเธอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไง? งานมันจะจบลงอยู่แล้ว ของที่ฉันสั่งให้ไปทำมันอยู่ไหน!”
ไป๋หลานหน้าซีดลงทันตาเมื่อเห็นท่าทีของสวีหว่านเอ๋อร์ที่ดูน่ากลัวผิดจากปกติ เธอรีบพูดแก้ต่างกับคนตรงหน้าทันที “สวีหว่านเอ๋อร์ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน เมื่อคืน Ling บอกฉันว่าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และยังบอกอีกว่าเว็บไซต์ของพวกมันถูกโจมตีจนไม่เหลืออะไรเลย”
“เธอสองคนกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ?”
ซูฉิงปรากฏตัวขึ้นมาทางด้านหลังของสวีหว่านเอ๋อร์และเอ่ยถามด้วยเสียงนิ่งเรียบ
สวีหว่านเอ๋อร์และไป๋หลานหยุดพูดคุยทันทีเมื่อเห็นซูฉิงปรากฏตัว ด้านของของซูฉิงยังมีตำรวจสองหน้าประกบข้างตามมาด้วย Ling เองก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวทั้งสองและส่งยิ้มให้กับไป๋หลานเพื่อเป็นการทักทาย
“ซูฉิง?” สวีหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นร่างของซูฉิง เพียงเธอปรายสายตามองตำรวจสองนายที่ยืนขนาบข้างซูฉิง เธอก็เกิดอาการหน้าซีดเผือด “แกกำลังจะทำอะไร?”
“คำคำนี้ควรเป็นฉันที่จะถามเธอมากกว่านะ?” ซูฉิงเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าเพียงเล็กน้อย
เธอหันไปพูดกับตำรวจที่ยืนขนาบอยู่ “คนนี้แหละค่ะคุณตำรวจ”
ฝ่ามือของซูฉิงผายมือไปยังไป๋หลาน “คนนี้คือคนที่อยู่เบื้องหลังและพยายามบุกรุกเว็บไซต์ภายในบริษัทของฉัน เธอพยายามจะล้วงลับข้อมูลสำคัญในบริษัท ถ้าพูดกันตามกฎหมายถือว่ากระทำผิดกฎการทำธุรกิจ และนี่คือคนที่ถูกเธอว่าจ้างมา…”
ซูฉิงส่งสายตาไปมอง Ling ที่ยืนอยู่ “คนที่เธอว่าจ้างคือคนคนนี้”
ไป๋หลานมองไปยัง Ling อย่างไม่ละสายตา เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะหักหลังพวกเธอ
สวีหว่านเอ๋อร์หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นว่าคนที่ซูฉิงกล่าวว่าอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือไป๋หลานมิใช่เธอ เธอลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ทางด้านไป๋หลานที่โดนกล่าวหาเธอก็หายอมจำนนไม่ เธอถามกลับอีกฝ่ายด้วยเสียงดังและพยายามกลบความกลัวในใจ “เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าฉันพยายามล้วงลับข้อมูลบริษัทและอยู่เบื้องหลังเรื่องบ้าๆพวกนี้ อย่ามากล่าวหาฉันมั่วๆนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องข้อหาหมื่นประมาท!”
Ling เผยหัวเราะขบขันออกมา และเดินก้าวเท้าออกมายืนประจันหน้าไป๋หลาน
เด็กหนุ่มเปิดข้อความเสียงที่ถูกอัดเก็บไว้ออกมา มันเป็นข้อความเสียงที่ไป๋หลานจ้างวานให้เขาแฮกข้อมูลระบบบริษัทของซูฉิง
“คุณพูดว่าซูฉิงหมิ่นประมาทคุณ แล้วคลิปเสียงในมือผมมันคือของปลอมยังงั้นเหรอครับ?”
เมื่อตำรวจได้ฟังคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมานั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที สองตำรวจเดินเข้ามาประชิดตัวไป๋หลานและจัดการใส่กุญแจมือลงบนข้อแขนของไป๋หลาน “ขอโทษด้วยนะครับ รบกวนคุณไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับพวกผมด้วยนะครับ”