นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 392 เด็กจะไปหรือจะอยู่
ตอนที่ 392 เด็กจะไปหรือจะอยู่
“ว่าไงนะ คุณว่ายังไงนะครับ?”
หลินหนานตะโกนด้วยความประหลาดใจ ช่วงนี้เขารู้สึกหดหู่ทุกวันเพราะยวี๋น่าคอยหลบหน้าเขา แต่ไม่นึกเลยว่าอู๋เทียนเหอจะมาพูด ยวี๋น่าตั้งครรภ์แล้ว?
หลินหนานจำได้แม่นว่าคืนนั้นตอนที่อยู่ในโรงแรมมันเป็นครั้งแรกของยวี๋น่า ถ้าอย่างนั้น…
ความคิดค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจ หลินหนานอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง และสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
อู่เทียนเหอกลับขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าหลินหนานจะสื่ออะไร หรือจะไม่คิดรับผิดชอบ?
เมื่อคิดอย่างนั้น น้ำเสียงของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งขรึมขึ้น และยิ่งจริงจังมากขึ้น
“ใช่ครับ ยวี๋น่ากำลังตั้งครรภ์ พวกคุณไม่ได้คบกันอยู่หรือไงครับ? ในเมื่อตอนนี้เธอตั้งท้องลูกของคุณ ผมก็หวังว่าคุณจะรับผิดชอบและไม่ปล่อยให้เธอได้รับบาดเจ็บนะครับ”
พูดจบอู๋เทียนเหอก็วางสาย ตรงทางเดินว่างเปล่าไร้ผู้คน เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ
ถึงเวลาจบแล้ว
ยวี๋น่าจับข้อมือของซูฉิงอย่างกังวล เธอนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองจะมีลูกแล้ว แค่มีอะไรกับหลินหนานที่โรงแรมเพียงครั้งเดียว ทำไมถึง…
ฉากในละครน้ำเน่าทำไมถึงมาเกิดกับเธอได้?
“ซูฉิง ฉันควรทำไงดีล่ะ…” ยวี๋น่าวางมือลงตรงหน้าท้องส่วนล่าง ก่อนจะมองซูฉิงอย่างหมดหนทาง แถมเธอยังเป็นห่วงความรู้สึกอู๋เทียนเหออีกด้วย
“เทียนเหอรู้เรื่องนี้แล้วเขาจะ—”
เมื่อซูฉิงได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็รีบตบหลังมือยวี๋น่าเบาๆพร้อมพูดปลอบใจ “เอาล่ะเอาละ ไม่ต้องกลัวนะ ดูแลร่างกายตัวเองก่อน ฉันจะออกไปดูเดี๋ยวเดียวนะ”
พูดจบซูฉิงก็วางมือขวาของยวี๋น่ากลับเข้าไปในผ้าห่ม ก่อนจะไปดูอู๋เทียนเหอตรงทางเดิน
“คุณตัดสินใจจะกลับไปสอนบนเทือกเขาจริงเหรอ? น่าน่ายังทำใจเรื่องคุณไม่ได้”
“ทำใจไม่ได้…ทำใจไม่ได้ก็คงทำได้แค่นี้แหละครับ”
อู๋เทียนเหอส่ายหัวและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อเลือกแล้วก็มีบางสิ่งที่ไม่อาจหวนคืนกลับมา นอกจากนี้เขาก็คิดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเขากับยวี๋น่าคงอยู่กันคนละโลกกัน
ถึงแม้อนาคตจะอยู่ด้วยกัน แต่ก็อาจต้องเลิกกันอยู่ดี
เขาหันไปทางด้านข้าง เหลือบมองผู้หญิงในห้องผ่านหน้าต่าง และพูดกับซูฉิงว่า “ผมตัดสินใจไปแล้วล่ะครับว่ากลับเทือกเขาดีกว่า และผมก็โทรบอกหลินหนานไปเมื่อกี้แล้ว ในเมื่อทั้งสองคบกัน หลินหนานก็ต้องรับผิดชอบน่าน่าและลูกของเธอด้วย ช่วยผมดูแลเธอทีนะครับ”
“…” ซูฉิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า เธอรู้ว่าอู๋เทียนเหอพูดขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีก
หลังจากวางสาย ในหัวของหลินหนานก็ยังมีแต่เสียงอู๋เทียนเหอที่พูดว่ายวี๋น่าตั้งครรภ์แล้ว
เขามึนและช็อกอมาก แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นกลับเป็นความสุข ความตกใจ และความสบายใจที่ความฝันของเขากำลังจะเป็นจริง
หลังจากได้สติ เขาก็รีบสวมเสื้อคลุมและขับรถไปโรงพยาบาล รีบเข้าไปในห้องผู้ป่วยจนแทบทักทายซูฉิงที่อยู่ตรงประตูไม่ทัน
“พี่น่า…น่าน่า ท้องเหรอครับ?”
หลินหนานที่รีบเข้าไปจนทำยวี๋น่าตกใจ ดวงตาของอีกคนเปล่งประกายด้วยความยินดีและใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาพูดเสียงดังเกินไป เขาจึงปรับโทนเสียงตัวเองเพราะกลัวยวี๋น่าจะตกใจ
แม้แต่ชื่อเรียกก็เปลี่ยนไป
ยวี๋น่าตกตะลึง มองไปที่หลินหนานอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนนิ้วมือจะจับผ้าห่มแน่นขึ้น “นายมาได้ยังไง?”
หลินหนานเดินวนมาข้างเธอก่อนจะนั่งลงจับมือยวี๋น่าที่อยู่นอกผ้าห่มและพูดอย่างจริงใจว่า “อู๋เทียนเหอโทรหาผม…บอกว่าพี่ท้องแล้ว ผมก็เลยรีบมาทันทีเลย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมพี่ไม่โทรบอกผมล่ะครับ?”
ยวี๋น่าปิดความเสียใจในดวงตาไม่อยู่ ในท้ายที่สุด เธอเพียงแค่หลุบสายตาลงก่อนจะหันศีรษะเล็กน้อย และค่อยๆ ดึงมือออกจากมือของหลินหนาน
“ที่แท้เขาก็บอกนายนี่เอง…ฉันเองก็เพิ่งรู้ข่าว ฉัน พูดตามตรงนะว่ายังไม่พร้อม ฉันไม่รู้การเป็นแม่คน…”
หลินหนานชะงักก่อนจะดึงมือกลับ แต่เขาก็ปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ยวี๋น่ามีลูกแล้ว เขาต้องรับผิดชอบ
“อันที่จริงผมเองก็ไม่คิดว่าผมจะได้เป็นพ่อคนเร็วขนาดนี้ แต่ว่าพี่ไม่ต้องห่วงนะ พี่มีลูกแล้ว ผมจะรับผิดชอบพี่แน่นอน ผมจะแต่งงานกับพี่”
ยวี๋น่าตกตะลึง เธอหลบตามากยิ่งขึ้น แม้ว่าความประทับใจของเธอเกี่ยวกับหลินหนานจะเปลี่ยนไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะปล่อยอู๋เทียนเหอไปอย่างง่ายดายขนาดนี้
“ไม่…”
เธอยังคงส่ายหัว “ฉันยังไม่พร้อม ยิ่งเราที่ไม่มีพื้นฐานความรู้สึกอะไรกันเลย ฉัน ฉันไม่ต้องการเด็กคนนี้”
ยวี๋น่าสูดหายใจเข้าลึก และรวบรวมความกล้าเพื่อพูดการตัดสินใจของเธอ หลินหนานอึงไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวอย่างหนักแน่น “ไม่ได้ครับ ทำแท้เด็กคนนี้ไม่ได้ ผมคือพ่อของเขา ผมเองก็มีสิทธิ์ในการตัดสินใจด้วย และการผ่าตัดก็จะมีผลกระทบกับร่างกายพี่ด้วย ถ้าเด็กคลอดออกมาผมจะเลี้ยงเอง”
คำพูดของอีกคนแน่วแน่และอดอารมณ์ขึ้นไม่ได้ ในขณะนั้นซูฉิงก็เข้ามาได้ยินที่ทั้งสองคุยกันจนอดขมวดคิ้วไม่ได้
หลังจากคิดอยู่สักพัก เธอก็ก้าวไปเกลี้ยกล่อม “หลินหนาน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ น่าน่าคงตกใจมาก พวกนายคงเกิดเรื่องนี้ครั้งแรก…แต่ฉันเข้าใจนายนะ นายกลับไปก่อนเถอะ อย่าอะไรกับเธอมากเลยนะ”
หลินหนานหันไปมองซูฉิง เห็นได้ชัดว่าลังเล
เขาอยากให้ยวี๋น่าเก็บเด็กเอาไว้ แต่เขารู้ว่าซูฉิงคือเพื่อนที่สนิทที่สุดของยวี๋น่า ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากให้ซูฉิงพูดเกลี้ยกล่อม
หลังจากเงียบไปนาน หลินหนานก็พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น…พี่ฉิง ช่วยผมเกลี้ยกล่อมน่าน่าด้วยนะครับ ผมจะกลับไปก่อน”
หลังจากที่หลินหนานจากไป ซูฉิงมองไปที่ยวี๋น่าซึ่งนอนอยู่บนเตียงและถอนหายใจ ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ พร้อมพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเต็มที่
“น่าน่า ที่เธอพูดเมื่อกี้มันหุนหันพลันแล่นเกินไปนะ”
“แต่ฉันคิดอะไรไม่ได้จริงๆ”
มือของยวี๋น่าบนผ้านวมกำแน่นขึ้น ใบหน้าซีดเผือด พูดไม่ได้ว่าเธอไม่ประหม่า และเธอคิดไม่ออกว่าจะเผชิญหน้าเด็กคนนี้ยังไงตอนที่เด็กเกิดมา
ซูฉิงรู้จักยวี๋น่าเป็นอย่างดี เธอเข้าใจความคิดของเธอ แต่เด็กก็ยังไร้เดียงสา
“ฉันรู้ว่าความรู้สึกตอนนี้คงจะซับซ้อนวุ่นวายมาก แต่เด็กไม่ผิดนะ เขามาโลกนี้ได้คงไม่หวังให้พ่อแม่ในอนาคตมาทิ้งเขาแบบนี้ ถ้าต่อไปเธอไม่อยากแต่งงาน เรามาเลี้ยงเด็กด้วยกันได้นะ ตอนนี้คนในสังคมที่เลี้ยงลูกเองก็มีให้เห็นเยอะแยะนะ”
“ยังไงก็ตาม ฉันหวังว่าเธอจะคิดให้รอบคอบและอย่าตัดสินใจเร็วเกินไป เผื่อว่าเธอจะมานั่งเสียใจทีหลัง”