นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 414 อยู่ให้ห่างจากเฉินจุนเหยียน
ตอนที่ 414 อยู่ให้ห่างจากเฉินจุนเหยียน
โรงพยาบาลเหรินหมิน
เฉินจุนเหยียนนอนหมดแรงอยู่บนเตียง แผลเปิดว่าเจ็บแล้ว ทว่าใจกลับเจ็บยิ่งกว่า
เป็นเวลานานที่เขาคิดว่าซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงมีปัญหากันและเลิกกันไปแล้วจริงๆ
อีกทั้งฮ่อหยุนเฉิงก็จะหมั้นกับถังรั่วอิงด้วย แม่ฮ่อหยุนเฉิงจะทำไม่ดี ทำให้ซูฉิงเสียใจ แต่ในใจเฉินจุนเหยียนกลับดีใจเล็กน้อย
เพราะเขาได้มีโอกาสตามจีบซูฉิงอีกครั้ง
แต่ในพิธีหมั้นวันนี้ เฉินจุนเหยียนถึงได้รู้ว่าทุกอย่างเป็นความปรารถนาของเขาเอง
การเลิกรากับระหว่างซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงนั้นเป็นเพียงข้อตกลงของพวกเขา
ทั้งสองคนร่วมมือกันอย่างราบรื่นจนเปิดเผยแผนการของถังรั่วอิงต่อหน้าสาธารณชน
คำสารภาพรักของฮ่อหยุนเฉิงต่อซูฉิงต่อหน้าสาธารณชนนั้นและการจูบลงหน้าผากของซูฉิงทำร้ายหัวใจของเฉินจุนเหยียนอย่างหนัก
เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว
เสียงหวานและรอยยิ้มของซูฉิงยังคงฉายอยู่ในหัวเขาไม่หยุด ใจเฉินจุนเหยียนรู้สึกเจ็บแปลบ
ในภวังค์เขาราวกับได้ยินเสียงของซูฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงขับรถไปส่งซูฉิงที่โรงพยาบาล
“รอฉันที่นี่นะ ฉันขึ้นไปหาเฉินจุนเหยียนเดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว” ซูฉิงลงจากรถแล้วหันไปหาฮ่อหยุนเฉิง
“ฉันจะไปกับเธอด้วย” ฮ่อหยุนเฉิงจับซูฉิงเอาไว้
ฮ่อหยุนเฉิงรู้ความคิดของเฉินจุนเหยียนที่มีต่อซูฉิงเป็นอย่างดี และเขาไม่ต้องการให้โอกาสพวกเขาอยู่กันตามลำพัง
เมื่อเห็นท่าทางระมัดระวังของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ถอนหายใจอยู่ในใจ “งั้นก็ได้”
ก่อนที่ทั้งสองจะมาถึงห้องก็ไปหาหมอ
ซูฉิงถาม “หมอคะ เฉินจุนเหยียนเขาเป็นไงบ้างคะ? ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
หมอตอบอย่างสุภาพว่า “คุณซูครับ เขาไม่เป็นอะไรร้ายแรงครับ เพียงแต่แผลเก่าเขาเปิดอีกแล้ว ต้องพักผ่อนให้มากขึ้นนะครับ”
“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณหมอนะคะ” ซูฉิงถอนหายใจและขอบคุณหมอ
เธอเคาะประตูห้องผู้ป่วย
“เข้ามา” เสียงทุ้มของเฉินจุนเหยียนดังขึ้น
ซูฉิงเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับฮ่อหยุนเฉิงที่เดินตามหลัง
หลังจากเห็นซูฉิงแล้ว เฉินจุนเหยียนก็อดยิ้มไม่ได้
แต่ในวินาทีถัดมา พอเขาได้เห็นฮ่อหยุนเฉิงที่ตามหลังมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้างขึ้นในทันใด
ซูฉิงเดินไปที่เตียงและมองลงไปที่เฉินจุนเหยียนเล็กน้อย “เฉินจุนเหยียน นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ” ดวงตาของเฉินจุนเหยียนหรี่ลงเล็กน้อย
“ในเมื่อมันไม่มีอะไรแล้ว งั้นเราก็กลับได้แล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างเย็นชาในทันที
ซูฉิงล่ะพูดไม่ออก จะมีใครที่ไหนที่เข้ามาเยี่ยมคนป่วยได้ยังไม่ถึงนาทีเดียวกัน
“นายออกไปรอฉันก่อน ฉันมีเรื่องจะพูดกับเฉินจุนเหยียนหน่อยน่ะ” ซูฉิงพูดไปด้วยและดันฮ่อหยุนเฉิงออกจากห้องไปด้วย
“ซูฉิง มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ?” เมื่อเห็นว่าซูฉิงไล่ฮ่อหยุนเฉิงออกจากห้อง ดวงตาเฉินจุนเหยียนก็สว่างไสวขึ้น
ซูฉิงพยักหน้า “ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงต้องไปทำงานที่สตูดิโ แถมยังทำตัวเองจนเป็นแบบนี้อีก?”
“ฉันไม่อยากทำความคืบหน้าของภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าช้าน่ะ” เฉินจุนเหยียนกล่าวเบาๆ
“แต่ตอนนี้นายได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้เป็นการทำให้ล่าช้าหรือไง?” ซูฉิงขมวดคิ้วมองลงไปที่เฉินจุนเหยียนบนเตียง ช่วยดูแลร่างกายตัวเองหน่อยไม่ได้หรือไง?
“ขอโทษนะ ไม่คิดว่าจะได้รับบาดเจ็บน่ะ” เฉินจุนเหยียนกล่าวขอโทษ
เขาแค่รู้สึกทรมานและอยากหาอะไรทำ
“ไม่ต้องห่วงนะซูฉิง อาการบาดเจ็บนี้มันไม่มีอะไรเลยนะ” เมื่อเห็นซูฉิงเป็นห่วงตัวเอง หัวใจเฉินจุนเหยียนก็พลันอุ่นวาบขึ้นมา
“พรุ่งนี้ฉันก็กลับไปที่กองถ่ายได้ตามปกติแล้วล่ะ” เฉินจุนเหยียนพูดพร้อมพยายามจะลุกขึ้น “ตอนนี้ฉันออกจากโรงพยาบาลยังได้เลย”
“ไม่ได้ พรุ่งนี้นายอยู่พักที่โรงพยาบาลไปซะ!” ซูฉิงกดไหล่ของเฉินจุนเหยียนไว้
ฮ่อหยุนเฉิงที่รออยู่ข้างนอกมาระยะหนึ่งก็รู้สึกไม่พอใจมาก ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับเฉินจุนเหยียนกันนะ แถมยังไล่เขาออกจากห้อง?
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็อดเปิดประตูเข้าไปไม่ได้
ฉากที่สะดุดตาคือสองมือของซูฉิงวางลงบนไหล่ของเฉินจุนเหยียน
ผู้หญิงคนนี้คิดทำอะไรน่ะ แถมยังอยู่ในท่าที่คลุมเครือกับผู้ชายคนอื่นอีก
ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงนิ่ง ขายาวของเขาก้าวไปข้างหน้า เดินตรงไปหาซูฉิงก่อนจะดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน
“ดึกแล้ว เราควรกลับกันได้แล้ว” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชาและครอบงำ
ซูฉิงรู้เลยว่าชายคนนี้หึงอีกแล้ว
เธอพูดกับเฉินจุนเหยียนอย่างช่วยไม่ได้ “งั้นเอาแบบนั้นแล้วกันนะ นายอยู่พักที่โรงพยาบาลไปก่อน รอแผลหายค่อยกลับไปถ่ายงาน”
“ฉันไม่อยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ล่าช้าเพราะฉัน” เฉินจุนเหยียนยังคงยืนกราน
“ฉันเป็นเจ้านาย ฉันพูดยังไงก็ทำตามแบบนั้น” ซูฉิงขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
พูดจบ ซูฉิงและฮ่อเฉิงหยุนก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
รู้สึกถึงลมหายใจจากชายข้างๆ ซูฉิงจึงพึมพำ “ใจแคบจริง”
“เธอว่ายังไงนะ?” ฮ่อหยุนเฉิงชะงักฝีเท้า แววตาฉายถึงความโกรธแผ่วเบา
“ไม่มีอะไรนี่” ซูฉิงรีบส่ายหัวและดึงแขนของฮ่อหยุนเฉิง “เรารีบกลับกันเถอะ”
ทันใดนั้นฮ่อหยุนเฉิงกลับกดซูฉิงเข้ากับผนัง ก่อนจะใช้สองมือกักขังตัวเธอ
“นายจะทำอะไรน่ะ?” ซูฉิงงุนงงเล็กน้อย
ทันทีที่สิ้นเสียง จูบอย่างท่วมท้นของฮ่อหยุนเฉิงก็โจมตีเธอ
“จะทำต่อจากสิ่งที่ไม่ได้ทำเมื่อกี้ไง” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงทุ้มต่ำก่อนจะปิดผนึกริมฝีปากของซูฉิง
หัวใจของซูฉิงเต้นแรงขึ้น
นี่อยู่ในโรงพยาบาลนะ
เธออยากผลักชายที่อยู่ตรงหน้าเธอออกไป แต่ฮ่อหยุนเฉิงกลับไม่ขยับเลย
การต่อต้านของหญิงสาวในอ้อมแขนยิ่งเพิ่มความปรารถนา
ลิ้นหนางัดริมฝีปากซูฉิงเปิดก่อนจะเข้าไปสำรวจ
ริมฝีปากและลมหายใจประสานกัน
ระหว่างช่องว่าง ไดด้กลิ่นมิ้นต์จ่างๆ จากชายตรงหน้าจนใบหน้าซูฉิงแดงก่ำ
“เอาล่ะ…พอแล้ว…” ซูฉิงพิงกำแพงอย่างอ่อนแรงและดิ้นรน
จากนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็ปล่อยเธอไปพร้อมกับเอ่ยเตือน “ครั้งหน้าอยู่ให้ห่างจากเฉินจุนเหยียน!”
ซูฉิงล่ะพูดไม่ออก: …
เธอกับเฉินจุนเหยียนต่างก็ต้องทำงาน ชายคนนี้หึงไปทั่วอีกแล้ว
ขณะที่ซูฉิงกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น “พี่ซูฉิง ไม่ทราบว่าอาวุโสเฉินอยู่ห้องไหนเหรอคะ?”
ซูฉิงรีบผลักฮ่อหยุนเฉิงออกและหันไปตามเสียง ที่แท้ก็เป็นหลิวเสี่ยวหนิงนี่เอง
เธอชี้ไปที่ประตูห้องผู้ป่วยของเฉินจุนเหยียน “อยู่ตรงนั้นน่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” หลิวเสี่ยวหนิงขอบคุณและถามด้วยความเป็นห่วง “ผู้อาวุโสเฉินเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
ซูฉิงยิ้ม “ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แผลเปิดน่ะ เธอมาเยี่ยมเขาดึกขนาดนี้เลยเหรอ?”